คอลัมนิสต์

พปชร.เร่งปั๊มว่าที่ผู้แทนฯ ฝันนี้"ลุงป้อม"แตะฝั่ง...?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชัดมาอีกชั้นในช่วงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.-ผู้สมัครส.ก.พรรคพปชร.ภายหลัง" ลุงป้อม"หัวหน้าพปชร. ย้ำว่า"รักกันจนตาย"กับ"ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี แปลว่า"ลุงป้อม-ลุงตู่"ยังแทคทีมลุยสนามการเมืองไปด้วยกัน พบกับเจาะประเด็นร้อน โดยเมฆาในวายุ

 

ชัดมาอีกชั้นในช่วงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.-ผู้สมัครส.ก.พรรคพลังประชารัฐเมื่อช่วงเย็นวันที่27พ.ย. หลังจาก"พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ย้ำว่า"รักกันจนตาย"กับ"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี แปลว่า"ลุงป้อม-ลุงตู่"ยังแทคทีมลุยสนามการเมืองไปด้วยกัน ไม่มีเหตุ"น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ"ดั่งข่าวลือลอยลมรายวัน

 

ลุงป้อมยังชี้ช่องว่าหลังเลือกตั้งอบต.จบลงแล้ว ความชัดเจนว่าผู้ว่าฯกทม.จะลงคะแนนในวัน-เวลาใดนั้น พบว่า พปชร.ไม่ส่งผู้สมัครพ่อเมืองหลวง?!? แต่พปชร.จะหนุนผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.แบบอิสระ-ผู้สมัคร ส.ก.แทน

 

ชัดอีกว่าหย่อนบัตรเลือกผู้แทนราษฎรงวดหน้า สนามกทม.ที่ตอนนี้มี 30ส.ส. น่าจะขยายเป็น 34 ส.ส. และในตอนนี้พปชร.สะสมไว้ 12 ส.ส. โดย"ลุงป้อม"หวังว่างวดหน้าจะได้เพิ่ม"หนึ่งเท่าตัว" รวมทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย

 

ว่าที่ 24 ผู้แทนฯเมืองหลวงค่าย"ลุงป้อม"จากโควต้าเบื้องต้น 34 คนนั้น  นับว่าไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆเลยทีเดียวสำหรับเวทีส.ส.ที่ชี้เป็นชี้ตายคะแนนนิยมของพรรคนั้นๆโดยยึดโยงกับความเชื่อมั่นขั้นต้นว่า คนเมืองหลวงมองว่าพรรคที่ได้ส.ส.อันดับหนึ่งในเขตกทม.คือ"ว่าที่แกนนำรัฐบาล"หรือ"ว่าที่แกนนำฝ่ายค้านเพื่อไปคานอำนาจ" แต่ข้อนี้จะบ่งชี้ได้ชัดนั้นต้องวัดผลจากผลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และส.ก.ให้สะเด็ดน้ำก่อนจึงจะมองได้กระจ่างอีกขั้นหนึ่งว่า "แนวโน้มการเมืองสนามใหญ่วันข้างหน้าคนเมืองหลวงจะให้น้ำหนักไปด้านใด..."

ปรากฏการณ์ดังกล่าวนั้นสะท้อนในเวลาข้างหน้าว่า สามพรรคที่ปักธงไว้ในกทม.นั้น จะต้องรักษาเก้าอี้-ขยายฐานเสียง-สู้กับพรรคอื่นๆที่จะขอเบียด  โดยพรรคที่พอจะมีลุ้นในพื้นที่นี้คือพรรคกล้า-พรรคไทยสร้างไทย-พรรคประชาธิปัตย์  ส่วนพรรคอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยถึงนั้น ตามสถิติแล้วพรรคเหล่านั้นคะแนนที่ได้นั้นหลุดอันดับ1-5จากจำนวนผู้สมัครส.ส.ในเขตนั้นๆ

 

เลือกตั้งคราวที่แล้วพื้นที่กทม.มี 30ผู้แทนฯนั้น พปชร.คว้าได้ 12 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 9 ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ (ก้าวไกลในตอนนี้) 9 คน โดยพรรคประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ส.ส.เมืองกรุง... และ"สองในสาม"นั้นพบว่าเป็นคนหน้าใหม่ที่เบียดอดีตส.ส.ตกเก้าอี้ได้...(เลือกตั้งส.ส.กทม.หลายครั้งที่ผ่านมา จะพบว่าจำนวนส.ส.หน้าใหม่จะเข้ารัฐสภาได้50-60เปอร์เซ็นต์)

 

หากมองไปยังกลเกมหย่อนบัตรคราวที่แล้ว หากไปมองลึกๆจะพบว่า พปชร.คว้าชัยมาได้เพราะไปคว้าอดีตส.ก.หลายสมัยจากค่ายสีฟ้ามาลงสนาม (ณัฏฐพล  ทีปสุวรรณ อดีตผอ.พรรคประชาธิปัตย์และพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตส.ส.กทม.-รองผู้ว่าฯกทม. เป็นคนกวาดต้อนแนวร่วมให้ย้ายมาอยู่กับพปชร.ในตอนนั้น) และวิธีนี้พรรคภูมิใจไทยก็ใช้เช่นกัน แต่ผลลัพธ์แตกต่างกัน เพราะค่ายสีน้ำเงินไร้ผู้แทนฯและแกนนำพรรคแทบถอดใจกับสนามนี้  แต่พปชร.ยังพอแทรกขึ้นมาได้จากวิธีนี้ 

 

และอย่าลืมแคมเปญช่วงสุดท้ายของเลือกตั้งครั้งนั้น+บริบทการเมืองโดยรวมด้วย เพราะพปชร.ยิงแคมเปญ"เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่"   อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าปชป.ในตอนนั้นประกาศ"ชัดๆ เลยนะครับ ผมไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ แน่นอน เพราะการสืบทอดอำนาจสร้างความขัดแย้ง และขัดกับอุดมการณ์ของประชาธิปัตย์ที่ว่าประชาชนเป็นใหญ่ 5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจย่ำแย่ ประเทศเสียหายมามากพอแล้ว” 

 

ขณะที่พรรคเพื่อไทยเสียพื้นที่ให้พรรคไทยรักษาชาติ(แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย)ตามยุทธศาสตร์คนแดนไกล แค่เมื่อทษช.โดนยุบพรรค พท.ไม่มีผู้สมัครในเขตที่ทษช.ลงแข่งขัน ทำให้เกิดการเทแต้มให้พรรคแนวร่วมไม่เอาลุงตู่/กระแสธนาธรฟีเวอร์ที่ระบาดดั่งไวรัลสีส้มจนแต้มของพรรคอนาคตใหม่แตะฝั่ง ฯลฯ

 

และเอาเข้าจริงๆแล้ว"12ส.ส.เมืองหลวง"ค่ายลุงป้อมนั้นชนะคู่แข่งกี่คะแนน..ลองไปไล่เรียงดูกับผลเลือกตั้ง26มี.ค.2562กันเอาเองและคราวนี้การลุ้นให้ชนะใจคนในเขตนั้นๆอีกคราวจะลำบากไหม และเมื่อบวกกับความฝันของ"ลุงป้อม"เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น  ต้องประเมินว่า

1.ผลงานพรรคและรัฐบาลมีอะไรไปขายชาวบ้านบ้าง

 2.คู่แข่งทางการเมืองที่มากขึ้นและพร้อมปะทะแบบแพ้ไม่ได้ 3.กระแสคนเมืองหลวงที่เดาใจลำบาก

4.จังหวะการไหลเข้า-ไหลออกของนักการเมืองที่ต้องประเมินเหตุล่วงหน้า เพราะเหลือเวลา1ปีเศษๆจะถึงเวทีเลือกตั้งส.ส.

5.สถานการณ์บ้านเมือง/วิธีบริหารงานของรัฐบาล/กลเกมในรัฐสภาที่เป็นปัจจัยประกอบในแต่ละห้วงเวลา

 

ถอดรหัสตัวเลขการเมืองบนความฝันเพิ่มผู้แทนฯหนึ่งเท่าตัวของ"ลุงป้อม"นั้น มองตอนนี้"น่าจะเหนื่อยยิ่งกว่าเหนื่อย..."
 

logoline