ได้กลิ่นดีลรบ ‘อานนท์’ ตีโต้ขวาจัด ปลุกฟื้น ‘ม็อบออร์แกนิก’
สถานการณ์ดีลรบ อานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ส่งสัญญาณถึงกลุ่มอนุรักษนิยม วิเคราะห์จากหัวคะแนนธรรมชาติ แปรเปลี่ยนเป็นม็อบออร์แกนิกได้ทันที
ผ่าทางตันการเมือง อานนท์ แกนนำกลุ่มราษฎร ส่งสัญญาณถึงกลุ่มอนุรักษนิยม คนรุ่นใหม่จะไม่ทน หากขวางทาง พิธา ก้าวสู่นายกฯ
ทนายอานนท์ วิเคราะห์จากหัวคะแนนธรรมชาติ แปรเปลี่ยนเป็นม็อบออร์แกนิกได้ทันที เมื่อรัฐบาลแห่งความฝันไม่เป็นจริง เพราะเกมอำนาจชนชั้นนำ
สถานการณ์การเผชิญหน้ากัน ระหว่างฝ่ายเสรีนิยมก้าวหน้า กับฝ่ายอนุรักษนิยม ผ่านตัวแทนอย่าง อานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ที่พูดถึงม็อบออร์แกนิก ดูจงใจจะดับเครื่องชนข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ ของ จเด็จ อินสว่าง สว.ผู้มีจุดยืนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
จเด็จ อินสว่าง พยายามชี้ให้เห็นการเมืองถึงทางตันแน่ เมื่อก้าวไกลผูกขาติดกันกับเพื่อไทย เพราะ สว.ส่วนใหญ่จะไม่โหวตหนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น บ้านเมืองจะมีความวุ่นวาย มีม็อบลงถนน จึงหาทางออกให้บ้านเมือง
ทนายอานนท์ นำภา จึงโพสต์เฟซบุ๊กว่า ครั้งนี้พวกกูไม่ยอม และตามมาด้วยการอธิบายเรื่องการลงสู่ท้องถนนของมวลชนอีกครั้ง
“เวลาชุมนุมทางการเมืองที่มีแกนนำ รัฐจัดการง่าย เพราะจับแกนนำก็จบ แต่การชุมนุมขนาดใหญ่ที่ทุกคนเป็นแกนนำ รัฐจัดการไม่ได้ และทุกคนรู้หน้าที่ของตนเองในขบวน”
ทนายอานนท์ พูดถึงการชุมนุมแบบออร์แกนิก หรือม็อบออร์แกนิก ช่วงปลายปี 2563 ซึ่งมวลชนที่ลงถนนในวันนั้น ก็คือหัวคะแนนออร์แกนิก ของพรรคก้าวไกล ในปีนี้
ม็อบออร์แกนิก
ถ้าจำกันได้ หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ ได้เกิดแฟลชม็อบทั่วประเทศ เป็นการลุกฮือของคน Gen Z ในรั้วมหาวิทยาลัย ก็จะกลายเป็นม็อบไล่ประยุทธ์ และยกระดับทะลุเพดาน
วันที่ 17 ต.ค.2563 แฟนเพจเยาวชนปลดแอก ได้แจ้งข่าวการชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว อุดมสุข วงเวียนใหญ่ ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น นี่เป็นจุดเริ่มต้นของม็อบออร์แกนิก(Organic Mob) ไม่มีรถปราศรัย ทุกคนเป็นแกนนำ รวมตัวกันทำกิจกรรม ก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับ
จริงๆแล้ว ม็อบออร์แกนิกเกิดขึ้น หลังจากม็อบที่มีแกนนำ ได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกปทุมวัน และมีสลายการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ส่งผลให้ม็อบแผ่วลง
คนรุ่น Gen Z จึงออกแบบม็อบออร์แกนิก จัดชุมนุมอยู่หลายครั้ง แต่ก็เลิกราไปเพราะโควิดระบาดหนัก หลายคนมองว่า ม็อบออร์แกนิก ที่ไม่มีแกนนำ มีความสุ่มเสี่ยงที่เป็นอนาธิปไตย เหมือนม็อบฮ่องกง และช่วงปี 2565 ก็เกิดม็อบทะลุแก๊ซที่สามเหลี่ยมดินแดง
มวลชนออร์แกนิก
ในทฤษฎีการปฏิวัติของฝ่ายซ้ายว่าด้วยแนวทางมวลชน หมายถึงอาศัยมวลชน เชื่อมั่นมวลชน และเคารพในอัจฉริยภาพของมวลชน ภารกิจปฏิวัติสังคมจะสำเร็จได้ด้วยพลังของมวลชนเท่านั้น
ผู้ก่อการตั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ก็เดินแนวทางมวลชน มาจากมวลชนไปสู่มวลชน จึงมีชัยชนะในสนามเลือกตั้ง สส. และเตรียมการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
สื่อทุกสำนักต่างยกย่องว่า พรรคก้าวไกล มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสื่อสารโดยตรงกับผู้สนับสนุน และใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการเคลื่อนไหวทางสังคมกับการเมืองแบบรัฐสภา
แพลตฟอร์ม TikTok ช่วยเปลี่ยนความนิยมในโลกเสมือนจริงให้เป็นคะแนนเสียงได้เพราะหัวคะแนนออร์แกนิก เป็นผู้แชร์และทำคอนเทนต์การหาเสียงให้พรรคก้าวไกล
วันนี้ หัวคะแนนออร์แกนิกเหล่านี้ ยังเฝ้าติดตามการจัดตั้งรัฐบาล และหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ไม่ว่าจะปมหุ้นสื่อ หรือด่าน สว. พิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หัวคะแนนเหล่านี้ก็คงทำหน้าที่ผลิตคอนเทนท์ปลุกระดมคนลงท้องถนน โดยไม่มีต้องมีแกนนำ
ไม่มีใครอยากเห็นความขัดแย้งทางการเมือง พัฒนาไปสู่สงครามมวลชนบนท้องถนน แต่ก็เลี่ยงยาก เพราะฝ่ายอนุรักษนิยม ก็ถอยไม่ได้ ฝ่ายเสรีนิยมก้าวหน้า ก็ถอยไม่ได้เช่นกัน