ขนหัวลุก ‘ประวิตร’ พิษหัวละหมื่น เขย่าขวัญ ‘บ้านใหญ่’

 

พลิกเกมใหม่ ประวิตร ส่งมือกฎหมายแถลงไม่ร่วมเพื่อไทย-ก้าวไกล แถมต้านประชานิยมดิจิทัล ปั่นเรตติ้งพรรค บ้านใหญ่

ฝ่ากระแสแจกหัวละหมื่น ประวิตร มั่นใจคว้า 70 ที่นั่ง ไม่สนกระแส แต่ความจริงในสนามเลือกตั้ง บ้านใหญ่ ตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง

 

 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดบ้านป่ารอยต่อฯ ให้สัมภาษณ์กับเครือเนชั่น เกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งครั้งใหม่ และย้ำว่า “ผมมั่นใจได้เกิน 70 ที่นั่ง มีบ้านใหญ่อยู่กับเราเยอะที่สุด”

 

ตัวเลขจำนวน สส.ที่หัวหน้าพรรค พปชร.คาดหวังไว้นั้น มีที่มาจากผลการสำรวจของสันติบาล และ กศน. 

“ผมมั่นใจว่าเพชรบูรณ์ ผมจะยกได้ กำแพงเพชร พะเยา ยก ปากน้ำ (สมุทรปราการ) ยก...รวมถึงสมุทรสาคร ส่วนกาญจนบุรี ได้ 3-5 คน ราชบุรี ได้ 3-5 คน สระแก้ว ยก” พล.อ.ประวิตร ร่ายยาวถึงพื้นที่เป้าหมายของบ้านใหญ่

 

ประเด็นการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้า พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้ผูกขาไว้กับพรรคใด และไม่มีการเจรจากับพรรคใด ขอดูผลการเลือกตั้ง สส.ก่อน

เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2566 ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงข่าวในนามหัวหน้าพรรคว่า พรรคเราจะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล เราต้องการสร้างพรรคพลังประชารัฐให้เป็นพรรคที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชน

 

ดีลลับดีลลวง

 

ท่าทีของ ประวิตร ชัดเจนว่า พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่จะให้ใครมายกเก้าอี้ให้ เหมือนกรณี วิรัช เคยพูดผ่านสื่อ และบนเวทีหาเสียงมาก่อนหน้านี้

ถ้าจำได้ ปลายเดือน มี.ค.2566 วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ได้เปิดประเด็นทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี 

 

จังหวะนั้น ก็มีนักวิชาการ และสื่อหลายสำนัก ได้วิเคราะห์ถึงดีลลับจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคพลังประชารัฐ โดยจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ตามสูตรรัฐบาลสมานฉันท์

 

ทักษิณ ชินวัตร ทนไม่ไหวได้ออกมาตอบโต้กรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะยกเก้าอี้นายกฯ ให้กับพรรคอื่น โดยเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยไม่โง่พอที่จะยกเก้าอี้ให้ พล.อ.ประวิตร

ขณะเดียวกัน แพทองธาร ชินวัตร ,เศรษฐา ทวีสิน และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ก็เรียงหน้าออกมาปฏิเสธข่าวดีลลับ “ยกเก้าอี้นายกฯให้ป้อม” 

 

ถัดจากนั้น พรรคเพื่อไทย ได้ประกาศนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล สร้างผลสะเทือนต่อพรรคคู่แข่ง ทำเอาหลายพรรคหนาวๆร้อนๆ เพราะมีประชาชนจำนวนไม่น้อยชื่นชอบนโยบายดังกล่าว

 

เขย่าขวัญบ้านใหญ่

 

ประมุขบ้านป่ารอยต่อ ประวิตร ไม่สนใจโพลบางสำนักที่ชี้ว่า หัวหน้าพรรคพลังประชรัฐ ไม่ติดใน 10 อันดับ ผู้นำพรรคที่ประชาชนอยากเป็นนายกฯ เพราะเชื่อมั่นในกลุ่มบ้านใหญ่

อย่างไรก็ตาม สภาพความเป็นจริง แม่ทัพนายกองของลุงป้อมหลายจังหวัด ทิ้งพื้นที่ไม่ได้ เพราะสถานการณ์สุ่มเสี่ยง แพ้ในบางเขต หรือพ่ายยกจังหวัด

 

ยกตัวอย่างกลุ่มมะขามหวานของ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค พปชร. จากการประเมินสนามเพชรบูรณ์ กลุ่มสันติก็อาจแพ้ถึง 2 เขตจากทั้งหมด 6 เขต

สาเหตุมาจาก สส.ดำ-สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีต สส.เพชรบูรณ์ หลายสมัย ถอนตัว อ้างว่าป่วย สำหรับ สส.ดำ บ้านใหญ่ อ.หนองไผ่ เป็นพันธมิตรการเมืองกับเสี่ยสันติมานาน แต่เลือกตั้งหนนี้ หลานชาย สส.ดำ คือ สุประวีณ์ อนรรฆพันธ์ สวมเสื้อพรรคเพื่อไทย ลงสมัคร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 

 

เสี่ยสันติต้องปรับทัพใหญ่ โยกเอาศรีภรรยา วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ จากเขต 4 มาลงเขต 5 ชนกับหลาน สส.ดำ ที่เขต 5 (อ.หนองไผ่ อ.บึงสามพัน) จึงถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ระหว่าง สุประวีณ์ หลาน สส.ดำ กับวันเพ็ญ หวานใจเสี่ยสันติ

 

ส่วนเขต 4 (อ.ชนแดน) เสี่ยสันติ ส่ง สจ.คนสนิท วรโชติ สุคนธ์ขจร ลงแทนภรรยา เจอคู่แข่งจากพรรค พท. ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีต สส.เพชรบูรณ์ น้องชาย สส.ดำ

นี่คือตัวอย่างของบ้านใหญ่เพชรบูรณ์ ที่กำลังเผชิญกับกระแสเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ยิ่งมีนโยบายประชานิยมสุดขั้ว ยิ่งเขย่าขวัญผู้สมัคร สส.บ้านใหญ่มากขึ้นเท่านั้น