มหายุทธ์ “ประยุทธ์” ชิงอำนาจ “ประวิตร” พันธมิตรทักษิณ

อวสาน 3 ป. “ประยุทธ์” ทิ้ง “ประวิตร” นับหนึ่งกับรวมไทยสร้างชาติ พรรคขวาใหม่ เคลื่อนทัพเข้าชิงอำนาจ เผชิญหน้าทัพพลังป้อม และพันธมิตรเพื่อแม้ว

 

เหลือจะทน “ประยุทธ์” รักพี่ป้อม แต่ไม่ยอมก้มหัวให้เหล่าบริวารพี่ใหญ่ จึงขอทำสงครามต้านอธรรมครั้งสุดท้าย เดิมพันอนาคตในคูหาเลือกตั้ง 

 

ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินเข้าหาสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล ร่ายยาว ๆ 24 นาที บอกเหตุผลที่จะทำงานการเมืองในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช)

 

“ผมได้ตัดสินใจวันนี้ละกัน ที่จริงก็เตรียมการไว้พอสมควรแล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะไปอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ นะจ๊ะ จะได้สบายใจกัน”

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องไปต่อ “..หลายๆอย่างที่ผมได้ทำไว้มาอย่างต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมานั้น ก็คิดว่ามันน่าจะได้มีการสานต่อ ถ้าหากว่าผมสามารถอยู่ได้ในระยะเวลาที่กำหนดนะจ๊ะ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้น”

 

เมื่อถามว่า ครอบครัวสนับสนุนเต็มที่เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ เงียบก่อนเงยหน้ามองขึ้นฟ้า และระบุประโยคสั้น ๆ ว่า “ก็เข้าใจกัน ว่าผมทำเพื่ออะไร”  พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามนักข่าว ถูกตีความเชิงสัญลักษณ์ทันที และบ่งชี้ว่า พรรค รทสช. เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ชนิดใด

 

4 ปีที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อสานต่อภารกิจ คสช. และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

 

 

 

 

 

 

สำหรับการเลือกตั้งปี 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเข้ามาบทพรรคฝ่ายขวา แทนพรรคพลังประชารัฐ ที่มีเดิมพันปั้น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัย

 

จากนี้ไป พรรค พปชร. ได้แปรสภาพเป็นกองกำลังนักเลือกตั้ง ของอดีตนายทหารใหญ่ คล้ายพรรคความหวังใหม่ ที่มีความลื่นไหลในเชิงอุดมการณ์ จึงสามารถจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้ 

 

มิเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องนำพาพรรค รสทช. ห้ำหั่นกับพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลเท่านั้น คู่แข่งที่สำคัญอีกพรรคหนึ่งคือ พปชร. ภายใต้การนำของ 3 ป.โฉมใหม่ (ป้อม-ป๊อด-แป๊ะ)

 

 

‘รักพี่แต่ไม่เอาน้อง’

 

สายสัมพันธ์บูรพาพยัคฆ์สิ้นสุดลงหรือไม่ “ประยุทธ์” ตอบชัดว่า ยังรักและเคารพพี่ป้อม แต่ในสมรภูมิสงครามชิงอำนาจครั้งใหญ่ ก็ยากที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า

 

ในวันที่เปิดใจเข้าสู่พรรค รทสช. พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึง พล.อ.ประวิตร ว่า   “อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของทหารกับทหารด้วยกันมันลึกซึ้งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมก็จบมาและอยู่ในการดูแลของท่าน ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมคนแรกในการที่ผมจบจากนักเรียนนายร้อย รับราชการตั้งแต่ร้อยตรี กระทั่งอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตรับราชการมาจนถึงวันนี้ ความผูกพันอันนี้มันไม่มีใครลบล้างผมได้  ท่านเองก็รู้สึกเหมือนกัน”

 

คณะทหารที่ชื่อ บูรพาพยัคฆ์ ครองอำนาจมายาวนานถึง 8 ปี ความสัมพันธ์ของพี่น้อง 3 ป. ก็เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม 

 

ใครก็รู้ว่า วงศ์วานว่านเครือและบริวารของพี่ใหญ่ มีฤทธิ์เดชแค่ไหน โดยเฉพาะ พล.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่เดินคนละเส้นทางกับ พล.อ.ประยุทธ์

 

มินับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า น้องรักของพี่ป้อม ผู้เคยคิดก่อการล้ม พล.อ.ประยุทธ์ กลางสภาฯ ก็รอวันชำระแค้นในสนามเลือกตั้ง

 

“ต้องขอบคุณพรรคพลังประชารัฐในการสนับสนุนผม เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา เราไม่ใช่ศัตรูกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง ส.ส.พรรค พปชร. แต่ ส.ส.ในพรรคพี่ป้อมจำนวนไม่น้อยที่รอจุดประทัดไล่

 

 

 

 

‘ดีลลับบ้านป่า-บ้านจันทร์’

 

เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 12 “ประยุทธ์” ที่กุมกำลัง ส.ว.อยู่ในมือประมาณ 120 คน รู้ดีว่า ฝั่งพี่ป้อมกำลังเดินเกมชิงอำนาจ โดยมีพันธมิตรข้ามขั้วคือ พรรคเพื่อไทย

 

สมัยเรืองอำนาจ ทักษิณ ชินวัตร ไม่รู้จัก พล.อ.ประวิตร เป็นการส่วนตัว แต่เหตุที่ตั้ง ป.ป้อม เป็น ผบ.ทบ. เพราะมีกองเชียร์คนสำคัญคือ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว.กลาโหม รัฐบาลทักษิณ

 

ที่สำคัญ พล.อ.นพดล อินทปัญญา เพื่อนรักร่วมรุ่น ตท.6 ของ ป.ป้อม เป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม (พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร)

 

ทุกวันนี้ พล.อ.นพดล ยังเป็น ส.ว. และหน้าที่ดูแล ส.ว.ประมาณ 80 คน ซึ่งอยู่ในสาย พล.อ.ประวิตร  

 

ส่วน ป.ป๊อด-พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร และเป็น ผบ.ตร.สมัยรัฐบาลสมัคร โดยทักษิณเคยพูดผ่านรายการแคร์คลับเฮาส์ว่า รู้จักกับ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นอย่างดี 

 

ป.ป๊อด จึงเป็นสะพานเชื่อมบ้านป่ารอยต่อ กับบ้านจันทร์ส่องหล้า ด้วยเหตุนี้ ขุนพลข้างกายลุงป้อม จึงกล้าพูดเต็มปากเต็มคำ พล.อ.ประวิตร จะได้เป็นนายกฯ คนที่ 30

 

 

 

คอลัมน์ ... ท่องยุทธภพ         โดย ... ขุนน้ำหมึก