จุดจบ “สหายแสง ศุภชัย” ท้ารบสิบทิศ ปะทะสายตรงเจ๊แจ๋น

เดินเกมพลาด “สหายแสง ศุภชัย” ปราศรัยแบบกลอนพาไป ปลุกท้องถิ่นนิยมหลุดคำว่า ไอ้โง่ เจอกระแสต้าน เดือดร้อนไปทั้งพรรคภูมิใจไทย

 

บทเรียนปี 2554 “สหายแสง ศุภชัย” เจอคนนครพนมสั่งสอน สอบตกสิ้นท่า ใช้เวลาหลายปี กว่าจะกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา  

 

สืบเนื่องจากการปราศรัยใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ที่โรงเรียนนครพนมวิทยาคม เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.นครพนม 4 เขต ปรากฏว่า ศุภชัย โพธิ์สุ ได้ปราศรัยตอนหนึ่งระบุว่า มี “ไอ้โง่” บางคนไปพูดในสภาฯ “...มันโง่จริงหรือแกล้งโง่ ถ้าสกลนครอยากได้งบพัฒนาเยอะๆ ให้เลือกฝ่ายรัฐบาล เลือกพรรคภูมิใจไทย”

 

พลันที่มีการเผยแพร่คลิปปราศรัยของสหายแสง ศุภชัย ออกไปในโลกออนไลน์ เหมือนสุมไฟให้คนสกลนครไม่พอใจ และส.ส.พรรคเพื่อไทย ดาหน้ากันมาตอบโต้อย่างรุนแรง

 

ทำไม ศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม หลายสมัย และรองประธานสภาผู้แทนฯ จึงใช้ท่วงทำนองการปราศรัยอย่างนี้

 

คำตอบคือ สหายแสงหรือครูแก้ว มีความมั่นใจในผลงานตัวเอง และต้องการปลุกกระแสท้องถิ่นนิยม หรือจังหวัดนิยม เหมือนคนบุรีรัมย์ภูมิใจในตัวเนวิน

 

สหายแสงต้องการเอากระแสท้องถิ่นนิยมไปสู้กับเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ซึ่งตอนหลัง ผลงานพรรคภูมิใจไทย ก็มีเสียงตอบรับจากชาวนครพนมเพิ่มมากขึ้น

 

โดยเฉพาะการปั้นลูกสาว ศุภพานี โพธิ์สุ เป็นนายก อบจ.นครพนม สหายแสงจึงกล้าขยับเปิดตัวลงสมัคร ส.ส.นครพนม เขต 2 วัดฝีมือกับ ส.ส.ขวัญใจคนรากหญ้า พรรคเพื่อไทย

 

 

 

‘อหังการ์สหายแสง’

 

“สหายแสง ศุภชัย” แม่ทัพใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ครบ 4 เขตคือ เขต 1 พูนสุข โพธิ์สุ ,เขต 2 ศุภชัย โพธิ์สุ ,เขต 3 นพ.อลงกต มณีกาศ อดีต ส.ส.นครพนม และเขต 4 ชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.นครพนม

 

ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือ ศุภชัย โพธิ์สุ ปะทะ ส.ส.เดือน-มนพร เจริญศรี ที่เป็นสายตรงมาดามแจ๋น

 

 

 

 

มนพร เจริญศรี หรือ ส.ส.เดือน เกิดที่ตัวเมืองนครพนม เส้นทางการเมืองของเธอ ได้รับการสนับสนุนจาก นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และ ส.ส.นครพนม 10 สมัย

 

ปี 2554 มนพรสวมเสื้อเพื่อไทย ลงสมัคร ส.ส.สมัยแรก ก็ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.นครพนม เขต 2 เนื่องจากเธอเป็นแกนนำเสื้อแดงในช่วงแดงทั้งแผ่นดิน    

 

ส่วนเขต 1 (อ.ศรีสงคราม,อ.บ้านแพง, อ.นาทม,และ อ.นาหว้า) สหายแสงได้ส่ง พูนสุข โพธิ์สุ ภรรยาลงสนามแทน เพราะเชื่อมั่นในฐานเสียงที่แข็งแกร่ง

 

 

‘บทเรียนอันเจ็บแสบ’

 

“สหายแสง” คงลืมไปว่า ครั้งหนึ่งชาวนครพนม ได้สั่งสอน ส.ส.ที่แปรพักตร์จากนายใหญ่-ทักษิณ ให้กลายเป็น ส.ส.สอบตกมาแล้ว

 

ปี 2552 เนวิน ชิดชอบ ได้นำพลพรรค 20 ส.ส. ออกจากพรรคพลังประชาชน มาสนับสนุนท อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และศุภชัย โพธิ์สุ ได้รับตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ 

 

การเลือกตั้งปี 2554 สหายแสง ศุภชัย แบกหัวโขนรัฐมนตรี ลงหาเสียงในนามพรรคภูมิใจไทย เจอกระแสต่อต้านคนเนรคุณนายทักษิณทั่วทั้งนครพนม 

 

ผลปรากฏว่า ยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ พรรคเพื่อไทย ได้ 38,868     คะแนนเฉือนชนะสหายแสงที่ได้ 32,308 คะแนน

 

หลังจากนั้น สหายแสงใช้เวลาอีกหลายปี เดินเข้าหาชาวบ้านทุกหลังคาเรือนกว่าจะกอบกู้ศรัทธากลับคืนมา ดังนั้น ผลการเลือกตั้งปี 2562 สหายแสง โกยแต้มไป48,719 คะแนน ขณะที่คู่ปรับเก่า ยุทธจักร พรรคเพื่อไทย ได้    21,049 คะแนน    

 

การขยับมาลงสนามเขต 2 (อ.โพนสวรรค์ อ.ท่าอุเทน และอ.เมืองนครพนม) สหายแสงต้องเจอ ส.ส.หญิงขวัญใจคนรากหญ้า ซึ่งสมัยที่แล้ว มนพร เจริญศรี ได้ 42,990 คะแนน ทิ้งห่าง ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ พรรคพลังประชารัฐ เกือบ 2 หมื่นคะแนน

 

ด้วยเหตุนี้ สหายแสงจึงใช้ “จังหวัดนิยม” ข่มขวัญ ส.ส.มนพร ที่หวังโหนกระแสอุ๊งอิ๊ง ซึ่งเกมนี้ อาจจะส่งผลให้สหายแสง ต้องสอบตกอีกครั้งก็เป็นได้

 

 

 

คอลัมน์ ... ท่องยุทธภพ             โดย ... ขุนน้ำหมึก