ชีวิตดีสังคมดี

Cal Forum 2 ประกาศเจตจำนง 12 ข้อ ต่อสู่วิกฤต 'สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

Cal Forum 2 ประกาศเจตจำนง 12 ข้อ ต่อสู่วิกฤติ 'สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง' ขับเคลื่อนไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ทำอย่างรวดเร็ว และทำทันที

Climate Action Leader Forum 2 หรือ Cal Forum 2   กลุ่มผู้บริหารจากภาครัฐ ภาคเอกชนในธุรกิจการผลิต การเงิน และการบริการ ภาควิชาการ และสื่อมวลชน ได้ร่วมประกาศเจตจำนง ต่อสู้กับปัญหาวิกฤต "สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง" ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงทรัพยากรร์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดย กลุ่ม Cal Forum 2 ได้มีการประกาศเจตจำนง เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการลดภาวะโลกร้อน ลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก  

 

โดยในการกิจครั้งนี้นอกจากจะมีการประกาศแนวทางที่จะต่อสู้กับวิกฤต "สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง" แล้ว ยังได้มีการส่งมอบเจตนาจำนงให้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า Cal Forum 2 จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถลดกิจกรรมที่ส่งผลต่อความเปลี่ยนทางสภาพอากาศ 

นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับเจตจำนงต่อสู้กับวิกฤต "สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง" จาก Cal Forum 2 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ภาคธุรกิจ ภาคเอกชนและภาคบริการจะร่วมขับเคลื่อน กิจกรรมเพื่อลดการปล่อย คาร์บอนไดออกไซค์  และ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาในชั้นบรรยากาศ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net zero ในปี 2050  และเกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน  และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆให้กับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในด้านการเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจ ให้หันมาให้ความสนใจในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากยิ่งขึ้น โดยเจตจำนงดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้การขับเคลื่อนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและบรรลุเป้าหมายของการยับยั้งการเกิดความเปลี่ยนแปลงทางสภพาอากาศ 

 

วราวุธ ศิลปอาชา

สำหรับเจตจำนงของ Cal Forum 2 เพื่อต่อสู้กับวิกฤต "สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง" มีรายละเอียดดังนี้ 

 

 

ต้องบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีส UNFCCC ที่มีเป้าหมายเพิ่มเติม มุ่งพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลก ให้ไม่เกินจาก 2 องศาเซลเซียส ให้ได้เป็น1.5 องศาเซลเซียส และด้วยผลกระทบจากภัยพิบัติที่มีความรุนแรงมากขึ้น และกระทบกับทุกคน โดยไม่เลือกว่าประเทศนั้นจะยากจนหรือร่ำรวย มีขีดความสามารถมากหรือน้อย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่การขับเคลื่อนไปสู่ "การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์" (Net Zero GHG Emissions) จะไม่มีวันหยุด

และจะเร่งเร็วขึ้น การประกาศเจตนารมณ์ความตั้งใจจะมุ่งมั่นร่วมมือ ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

Cal forum2

 

1.เราต้อง Act Fast และ Act Now การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็น วิกฤติการณ์ใกล้ตัว ที่จำเป็นจะต้องมีการดำเนินการร่วมกันอย่างรวดเร็ว ทั้งในระดับองค์กร ระดับประเทศและระดับโลก ที่ต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์วิธีคิด ด้วย Climate Change มิได้เป็นเพียง "มิติสิ่งแวดล้อม" แต่เป็นเรื่องของ "มิติความมั่นคง" รูปแบบใหม่ที่ครอบคลุมถึง ความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่นคงด้านแหล่งน้ำ ด้านการค้าและการลงทุน

 

 

2.เรียกร้องให้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อกำหนดกฎระเบียบว่าด้วยเรื่อง Carbon Pricing และการรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการจัดทำ Green Taxonomy และ Sustainable Finance ตลอดจน การจัดตั้ง กรมการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

 

Cal forum2

3.ตระหนักว่า การเริ่มต้นแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกควรเริ่มแก้ไขที่คน โดยมีคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างกัน (Collaboration) สร้างความร่วมมือในการดำเนินงานลดโลกร้อน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และสร้างความ รับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่างขึ้นกับขีดความสามารถของประเทศ (Common but Differentiated Responsibility and Respective Capabilities) จะต้องดำเนินการร่วมกันทั้งโลก ปัจจุบัน ในระดับองค์กร มีหลายองค์กรที่ได้ประกาศ ร่วมเข้าสู่ทิศทางเดียวกันกับกระแสโลก จึงเกิดเครือข่าย ความร่วมมือต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ Race to Zero และการจัดตั้ง เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย หรือ TCNN เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น ชุมชนต่างๆ

 

4.สนับสนุน การปรับตัวของประเทศไทยที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของ ทิศทางโลกมุ่งสู่การดำเนินงาน Climate Action และ Net Zero Emissions เพื่อมิให้เสียโอกาสในการเติบโตระยะยาว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงด้าน ภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยจำเป็นต้องมีปัจจัยหลักสนับสนุน การดำเนินงาน คือ เงิน เทคโนโลยี ศักยภาพความพร้อม รวมถึงระบบการบริหารจัดการข้อมูล และความมุ่งมั่น

 

 

5.เน้นย้ำและส่งเสริมให้ ภาคธุรกิจดำเนินงานด้าน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero GHG Emissions และนำแนวทาง ESG ตลอดจน Green Investment การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว มาเป็นแนวทางดำเนินธุรกิจ

 

Cal forum2

 

6.ตกลงว่า ภาคการเงิน เป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญในการผลักดันและสนับสนุน ให้ภาคเอกชนสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ Net Zero GHG Emissions ดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น จึงสนับสนุนการร่วมจัดทำ Green Taxonomy ให้เกิดขึ้นใน ประเทศไทย อันจะเป็นจุดเริ่มต้นของ Sustainable Finance ที่จะกำหนดคำนิยามเกี่ยวกับ กิจกรรมทาง เศรษฐกิจที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

 

7.ยืนยันว่า ควรสร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับทิศทาง นโยบาย และการดำเนินงาน e Action ให้กับภาคประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชน นักลงทุน ตลอดจนภาคส่วนต่างๆ เป็

เร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 

 

 

8.ตระหนักว่า ภาคป่าไม้ มีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นในการช่วยสนับสนุนให้มีการ ดำเนินงาน Cimate Action เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality จึงเกิดประโยชน์ต่อการ ดูแลรักษาและเพิ่มฟื้นที่ป่า รวมทั้งสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่ดูแลรักษาป่าไม้ได้ โดยใช้กลไกราคา (Pricing mechanism) เข้าสนับสนุน อาทิ การทำโครงการคาร์บอนเครดิตปลูกป่าในพื้นที่ต่างๆ ที่เนินการร่วมกับบริษัทเอกชน บเนโอกสสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคเพื่อให้การปลูกป่าช่วยสร้างงาน และสร้างรายได้ ให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยการปลูกป่าต้องทำร่วมกับชุมชน และหาทางให้ชุมชน ร่วมรักษาป่า และใช้ประโยชน์จากป่าอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ การปลูกป่โครงการคาร์บอนเครดิตเพื่อให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ยังนับเป็นความท้าทายในการดำเนินงาน และต้องมีมาตรฐานการ ตรวจประเมินรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนเครดิต) อันเป็นที่ยอมรับ จึงต้องมีการยกระดับ มาตรฐาน Certification การรับรองนั้นให้เทียบเท่ากับมาตรฐานระดับนานาชาติ

 

 

9.ยืนยันว่า Climate Change นำไปสู่การปรับเปลี่ยนกลไกขับเคลื่อนทิศทางโลก ด้วยราคาคาร์บอน (Carbon Pricing) การใช้กลไกคาร์บอนเครดิต เป็นเครื่องมือเสริมประสิทธิภาพต้นทุน จะมีบทบาทช่วยให้องค์กรมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero GHG Emissions ใน อนาคต โดยสามารถพัฒนาเป็น โครงการ T-VER ซึ่งปัจจุบัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดทำ แพลตฟอร์มการซื้อขายคาร์บอนเครดิต "FTIX" ขึ้น

เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มแรกในประเทศไทยที่จะเป็นตลาดกลางซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมทั้ง ประเทศไทยได้มีความพยายามดำเนินงาน ภายใต้ความตกลงปารีส ข้อ 6.2 ภายใต้แนวทางความร่วมมือที่มีการใช้ผลการ ลดก๊าซเรือนกระจกที่ถ่ายโอนระหว่างประเทศ เพื่อใช้ในการบรรลุเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด

 

Cal forum2

10.ส่งเสริม การใช้กลไกคาร์บอนเครดิต เป็นเครื่องมือเสริมประสิทธิภาพต้นทุน ให้มี บทบาทช่วยให้องค์กรมีการดำเนินงานที่มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality & Net Zero GHG Emissions ในอนาคตได้อย่างเหมาะสม รวมถึงยินดีสนับสนุน แพลตฟอร์มการซื้อขายคาร์บอน เครดิต "FTIX" (FTI: CC/RE/REC X Platform) โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงาน ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นตลาดกลางซื้อขายคาร์บอนเครดิต และยินดีกับความพยายามของประเทศไทยต่อการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างประเทศ ภายใต้ ความตกลงปารีส ข้อ 6.2

 

 

 

11.ยืนยันว่า ประเทศไทยมีโอกาสในการดำเนินงาน Climate Action ที่จะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยปัจจัยหนุนเสริม (Supportive Measure) จากภาครัฐในด้านนโยบาย มาตรการ และกฎระเบียบต่างๆ อาทิ การขับเคลื่อนนโยบาย BCG และการสนับสนุนภาคเกษตร ในการลดก๊าซเรือน

กระจกและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่ Climate Smart Agriculture

 

 

การใช้เทคโนโลยี Carbon Capture Utilization and Storage บรรจุเป้าหมาย ยังคงต้องการการสนับสนุนในด้านระเบียบ และนโยบายสนับสนุน ตลอดจนกา

มีแหล่งกักเก็บได้จริง และการทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยี CCS

 

 

ด้านแบตเตอรี่ ระบบกักเก็บพลังงานหรือยานยนต์ไฟฟ้า Smart energy platform ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน การส่งเสริม และการพัฒนากฎระเบียบรองรับ

 

 

การค้าและการลงทุน โดย BO! จัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนในสินค้าที่เป็น มิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกในสาขาต่าง ๆ

 

 

การจัดทำมาตรฐานคาร์บอนเครดิตของประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการกีดกันทางการค้า ทั้งนี้ ต้องมีกฎระเบียบ ข้อกำหนดของภาครัฐ สนับสนุนการขับเคลื่อน

 

 

สนับสนุนการพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิต และแพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอน เครดิตและไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด หรือ FTIX ซึ่งได้รับการพัฒนาและบริหารจัดการโดย สภา

อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเชื่อมโยงกับ ระบบทะเบียนคาร์บอนเครดิต ของ อบก.

 

สนับสนุนการจัดตั้งเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย หรือ TCNN เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน

 

สนับสนุนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในประเทศไทย เพิ่มแหล่งกักเก็บ/ดูดกลับก๊าซ เรือนกระจกของประเทศ

 

 

12. ตัดสินใจว่า การแก้ปัญหา Climate Change เป็นการทำเพื่อคนรุ่นปัจจุบัน และคนรุ่นถัดไป เพื่อลูกหลาน การดำเนินงานลดโลกร้อนจำเป็นต้องมีความต่อเนื่อง แม้จะเป็นเรื่องยาก และเห็นผลในระยะยาว แต่ต้องมุ่งมั่นดำเนินการ และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ