ปิดตำนานเสียงอมตะ 'หยาด นภาลัย' เขาคือใคร #วันนี้ในอดีต คอลัมน์วาไรตี้ประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่ความทรงจำ
************************
เชื่อว่าคนไทยนักฟังเพลงจะต้องรู้จักเจ้าของเสียงนุ่มๆ อ่อนหวาน ผู้ซึ่งทำให้เราหลายคนเข้าใจว่า "สมมาตร ไพรหิรัญ" พระเอกมิวสิกวิดีโอทุกชิ้นผลงาน คือเจ้าของเสียงตัวจริง
หรืออย่างน้อยก็ทุ่มเถียงกันว่าตกลงเขาเป็นใครกันแน่ จนกระทั่งวันหนึ่งคำถามต่างๆ ไม่สำคัญอีกเลย เท่ากับได้รับรู้ว่า “หยาด นภาลัย” ก็คือบุรุษผู้หนึ่งที่รักในการร้องเพลง และรังสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างล้ำค่าเป็นอมตะ
และเนื่องด้วยวันนี้คือวันครบรอบ 10 ปีการจากไปของเขาในวัย 62 ปี คอลัมน์วันนี้ในอดีต จึงขอนำเรื่องราวของศิลปินเพลงชั้นครูผู้นี้มาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง
00000000000000
หยาด นภาลัย หรือชื่อจริง "สุริยพงศ์ การวิบูลย์" เกิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2490 อย่างไรก็ดี เขายังมีชื่อเดิมก่อนหน้านี้อีกว่า "หยาดฟ้า กาลวิบูลย์"
หยาด นภาลัย เกิดที่ ตำบลแชแล อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นน้องคนเล็กในพี่น้อง 18 คน ของคุณพ่อเสมา และคุณแม่อ่อนจันทร์ กาลวิบูลย์
ครอบครัวหยาดมีอาชีพทำนา แต่ตัวหยาดนัน้ฝันไกลกวา่นั้น เพราะเมื่อจบชั้น ม.ศ.3 ขออนุญาตทางบ้านมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ แต่ไม่มีใครเห็นด้วย เขาจึงตัดสินใจหนีเข้ากรุงเทพฯ คนเดียว (อย่างไรก็ดี มีข้อมูลว่าหยาด สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จังหวัดอุดรธานี)
ราวปี 2508 ช่วงแรก หยาด นภาลัย เป็นเด็กแบกกลองให้วงดนตรี “จุฬารัตน์” อยู่รุ่นเดียวกับ “พนม นพพร” “สรวง สันติ” และอีกหลายคน และระหว่างที่อยู่กับวง “จุฬารัตน์” นอกจากแบกกลองแล้วยังแต่งเพลงด้วย โดยใช้นามปากกาว่า “หยาด นภาลัย”
จนกระทั่งมีโอกาสได้ขึ้นร้องคั่นเวลา โดยมีครูเพลงเช่น ครูไพบูลย์ บุตรขัน, ครูมงคล อมาตยกุล, พร ภิรมย์ และนคร ถนอมทรัพย์เป็นคนแนะนำ
ครั้นเมื่อวงจุฬารัตน์ ยุบวง ราวปี 2514 ย้ายไปอยู่กับวงดนตรี “เพ็ญศรี พุ่มชูศรี” อยู่ได้ไม่นานก็ใช้ความสามารถประสบการณ์การแต่งเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง ในการออกผลงานของตนเอง โดยอัลบั้มชุดแรก เรียกว่า "ทำเอง ขายเอง" มีทั้งหมด 4 เพลง เพลงแรกที่บันทึกเสียง ชื่อเพลง “วันพระไม่มีหนเดียว” โดยใช้ชื่อการร้องในครั้งนั้นว่า “ประสพชัย กาลวิบูลย์”
แน่นอนช่วงแรกค่อนข้างยากลำบาก ยังไม่เป็นที่ตอบรับมากนัก จนกระทั่งมาปังในชุด “ลำน้ำพอง” ช่วงปี 2521 โดยตอนนั้น ใช้ชื่อในการร้องใหม่ว่า “นรินทร์ พันธนาคร”
หลังจากนั้นก็แต่งเพลง “สาวน้ำพองสะอื้น” ให้ “ดาวใจ ไพจิตร” ที่กำลังโด่งดังในขณะนั้นมาร้องแก้กัน ปรากฏว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แฟนเพลงให้การต้อนรับ ส่งให้ชื่อของ “นรินทร์ พันธนาคร” เป็นที่รู้จักของแฟนเพลงคอลูกกรุงทั่วประเทศ
อย่างไรก็ดี ต่อมาก็มาทำชุด “หนองหารวิมารร้าง” แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หลังจากนั้น ชื่อเสียงของเขาก็เงียบหายไป
ราวปี 2525 หยาด นภาลัย กลับมาดังอีกครั้ง คราวนี้นำเพลงเก่ามาร้องใหม่ในรูปแบบเพลง “อมตะเงินล้าน” โดยให้ “หนุ่ม ภูไท” เรียบเรียงเสียงประสาน และใช้ชื่อในการร้องว่า “หยาด นภาลัย” ซึ่งเป็นชื่อที่เคยใช้สมัยอยู่กับวงดนตรี “จุฬารัตน์”
คราวนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพลงชุดนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดเท่าที่เคยทำเพลงมา ชื่อของ “หยาด นภาลัย” จึงครองใจแฟนเพลงมาจนถึงทุกวันนี้
ต่อมา 2540 หยาดทำเพลงชุด “กล่อมกรุง” โดยนำเพลงของ “ชรินทร์ นันทนาคร” มาร้องทั้งชุด มีเพลง “เรือนแพ” “ท่าฉลอม” “แสนแสบ” และอีกหลายเพลงจนประสบผลสำเร็จ
อย่างไรก็ดี เอกลักษณ์ของ หยาด นภาลัย นอกจากเสียงร้องนุ่มอมตะแล้ว คนไทยทั่วไปจะไม่ค่อยเห็นหน้าค่าตาตัวจริงเท่าไหร่นัก นอกจากรู้จักเขา จินตนาการถึงเจ้าของเสียงร้องผ่านพระเอกมิวสิกวิดีโอของเขาซึ่งรับบทโดย สมมาตร ไพรหิรัญ นักแสดงที่มีชื่อเสียง
สมมาตร ไพรหิรัญ ยืนหนึ่งในมิวสิกวิดีโอของหยาด นภาลัย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เขาเคยใช้ชื่อหลายชื่อ เช่น ประสพชัย กาลวิบูลย์, นรินทร์ พันธนาคร (เพราะเสียงคล้ายกับ ชรินทร์ นันทนาคร), นรินทร์ นภาลัย ก่อนจะมาใช้ชื่อ “หยาด นภาลัย” ที่ครูนคร ถนอมทรัพย์ ตั้งให้
ชีวิตส่วนตัวเขาสมรสกับ พัชรีย์รัตน์ (อุไร) กาลวิบูลย์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน คนแรกเป็นผู้ชาย ชื่อ ปุณณรัตน์ กาลวิบูลย์ (น้องท็อป) คนที่ 2 เป็นผู้หญิง ชื่อ ชมพูนุช กาลวิบูลย์ (น้องเชอรี่)
0000000000000000
อย่างไรก็ดี ที่สุดแล้ว ช่วงปี 2541 หยาด นภาลัย ได้ล้มป่วยลง และกลายเป็นอัมพฤกษ์จนวาระสุดท้ายของชีวิต
โดยยังมีเรื่องราวของศิลปินอาวุโสท่านนี้จากคอลัมน์ “มองผ่านเลนส์คม” โดย “นันทพร ไวศยะสุวรรณ์” นิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์เคยเล่าเรื่องของ หยาด นภาลัย ไว้ ขอคัดมาทั้งหมดดังนี้
"มีคำเปรียบเปรยอาชีพนักมวย ว่าเหมือน “หมาล่าเนื้อ” แต่เอาเข้าจริงมีหลายอาชีพที่ไม่ต่างกันเลยการจากไปของนักร้องลูกกรุงเสียงอมตะ หยาด นภาลัย คล้ายว่าจะเป็นการปลดเปลื้องทุกข์
ด้วยบั้นปลายชีวิตมีหลายโรครุมเร้า จนภรรยาต้องกู้เงินนอกระบบเพื่อเป็นค่ารักษา หนี้สินทบท่วมตัว ลูกชายต้องออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำงานโรงกลึงช่วยเหลือครอบครัว
แม้ช่วง 2-3 ปีมานี้ จะเปิดตัวต่อสื่อมากขึ้น เพื่อขอน้ำใจจากผู้ฟัง แต่เป็นเพียงระยะหนึ่งเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว หยาด มีเพียงครอบครัวเท่านั้นที่ดูแลจวบจนวาระสุดท้าย
และข่าวคราวของเขาก็จะค่อยๆ เงียบหายไป...ย้อนไป... ราว 15 ปีก่อน ดิฉันเป็นนักข่าวที่ “เนชั่น สุดสัปดาห์” ได้รับมอบหมายให้ไปตามหาชีวิตแท้ของ หยาด นภาลัย ที่ไม่ใช่ภาพลักษณ์ผ่านมิวสิกวิดีโอ นาม สมมาตร ไพรหิรัญ ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ข้อนี้
พิสดารเหลือเกินที่นักร้อง-นักแต่งเพลง (แต่งเพลงกว่า 500 เพลง) ผู้โด่งดังจากอัลบั้ม “ลำน้ำพอง” ในปี 2521 กลับแทบไม่มีใครรู้จัก!!
แม้แต่ค่ายเทปต้นสังกัดเอง ยังให้ได้แค่ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เพราะไม่เคยมีใครไปหาแกที่บ้านเลย
การตามหานักร้องที่ไม่ค่อยปรากฏตัวออกสื่อ และมีชีวิตที่ลึกลับ นับเป็นความท้าทาย บ้านเป้าหมายย่านตลิ่งชัน กับผู้สะกดรอยที่อยู่แถวสำโรง ช่างดูห่างไกลนัก การสวมรอยเป็นนักสืบ ปนๆ งานของบุรุษไปรษณีย์ ทำให้ต้องขึ้นรถเมล์ นั่งสองแถว ต่อมอเตอร์ไซค์ และเดินเท้าเพื่อเข้าตรอกซอยค้นหา กระทั่ง...
“หลังนี้แหละ...แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน แฟนลุงไปรับลูกที่โรงเรียน ส่วนลุงยังไม่กลับ”...เพื่อนบ้านบอกให้ใจชื้น
กระทั่ง...พบกับ คุณพัชรีรัตน์ ภรรยาผู้อ่อนวัยกว่าสามี 20 ปี เธอกลับมาก่อนหน้าลุงเกือบ 2 ชั่วโมง
และ “ลุง” ที่เห็นวันนั้น คือ หยาด นภาลัย ชายวัยเลยกลางคนใส่แว่นตาหนาเตอะ ท่าทางใจดี
จากการพูดคุย นอกจากรู้จักเขามากขึ้นแล้ว ยังได้รับคำตอบที่ว่า ทำไมเขาถึงไม่ยอมปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ แม้แต่ร้องเพลงในที่สาธารณะ!!
“มีปัญหาทางสายตา เคยขึ้นไปร้องเพลงแล้วตกเวทีมาแล้ว” ภรรยาตอบแทน ขณะที่หยาดนั่งนิ่ง
“ก็ดีแล้ว ให้คนคิดว่าสมมาตรเป็นตัวผม เขาจะได้ไม่ผิดหวัง ผมไม่หล่อ แต่อยากให้คนฟังมีความสุขและรู้สึกดีที่ได้ฟังเพลงเพราะๆ มากกว่า” หยาด พูดสั้นๆ ไม่ยอมสบตา
เป็นการสนทนากับคนที่เจียมเนื้อเจียมตัวที่สุด ที่สำคัญหยาด นภาลัย ไม่ได้เอ่ยถึงข่าวลือที่ว่าถูกโกงค่าตัวและค่าร้องจากค่ายเพลงแม้สักคำเดียว!!
ถึงเวลานี้ ก็เปล่าประโยชน์ที่จะคิดถึงตัวเลข “กำไร” จากเสียงร้องของเขา ที่อาจมีมูลค่านับหลายสิบล้านบาท
แต่อยากให้จำชื่อของ นายปุณณรัตน์ และ น.ส.ชมพูนุช กาลวิบูลย์ เพราะเด็กทั้งสองเป็นเลือดเนื้อแท้ๆ ของหยาด นภาลัย คนที่เคยมอบความสุขให้แก่คนฟัง
หากพอมีอะไรที่จะช่วยเหลือได้ ก็ขอให้นึกถึงลูกหลานของพวกเราด้วย!"
ที่สุด หยาด นภาลัย เสียชีวิตเมื่อ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 จากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน รวมอายุได้ 62 ปี
คงไว้ซึ่งผลงานเพลงที่แต่งและร้องเอาไว้มีไม่ต่ำกว่า 500 เพลง เป็นมรดกเพลงให้คนรุ่นหลังได้เชิดชูรำลึก
**********************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง