วันนี้ในอดีต

29 ม.ค.2548 ปิดตำนานตลกอัจฉริยะ อุทาหรณ์และความทรงจำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปิดตำนานตลกอัจฉริยะ #วันนี้ในอดีต คอลัมน์วาไรตี้ประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่ความทรงจำ

 

 

**************************

 

 

15 ปีมาแล้ว ที่คนไทยไม่ได้เห็น "หนู คลองเตย" โลดแล่นในโลกตลกสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกๆ คน มีเพียงเทปบันทึกเก่าๆ ที่พอจะทำให้คนไทยได้มีรอยยิ้มบ้างในบางวันที่มีใครหวนคิดถึงตลกหน้าตายผู้นี้ขึ้นมา

 

เป็น 15 ปีที่เขาได้จากพวกเราไปก่อนเวลาอันควรในวัยเพียง 41 ปีจากอาการวัณโรคขึ้นสมอง 

 

วันนี้ในอดีตขอนำเรื่องราวของ หนู คลองเตย มาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง และชีวิตของผู้ชายคนนี้ต้องนับเป็นอุทาหรณ์และความทรงจำสำหรับคนไทยได้ไม่น้อย

 

 

29 ม.ค.2548  ปิดตำนานตลกอัจฉริยะ  อุทาหรณ์และความทรงจำ

 

 

 

 

ความวัยต้น

 

 

คนไทยรู้จัก “หนู คลองเตย” ครั้งแรก ในนาม “หนู เชิญยิ้ม” แต่ที่จริง ชื่อแรกเกิดของเขาคือ “วันชาติ พึ่งฉ่ำ”

 

หนูเกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2506 ที่ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เป็นลูกของนายทอง เนตรน้อย-นางเกิ่น มีทอง มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 3 คน โดยนายวันชาติเป็นคนที่ 5

 

หนูเรียนจบเพียงป. 1 เพราะทางบ้านยากจน ต่อมาได้ย้ายภูมิลำเนาเข้ามาอยู่ที่สลัมคลองเตย ช่วงแรกก็ทำงานมันทุกอย่าง เช่น เป็นคนล้างไส้หมูในโรงเชือดหมู เป็นกระเป๋ารถสองแถว เด็กขัดรองเท้าที่ประตูน้ำ พี่สาวเคยยืนยันว่าหนูทำงานได้เงินมาก็ให้แม่หมด

 

จนกระทั่งได้เข้าร่วมคณะลิเกในฐานะเด็กตีกลอง ก่อนพรสวรรค์จะฉายแสงได้เลื่อนขึ้นมาเล่นตลกตามคณะลิเก

 

ช่วงนั้นหนูทำตลก เปลี่ยนคณะลิเกอยู่หลายคณะ เปลี่ยนชื่ออีกหลายชื่อ จนกระทั่งชื่อเสียงเรื่องการด้นมุกสดๆ ทำให้มีโอกาสใหม่ๆ เข้ามาเมื่อเขาได้พบกับ “อิสระ เดือนเพ็ญ” ที่ชักชวนให้ไปเล่นตลกคาเฟ่ด้วยกัน

 

โดยช่วงแรกใช้ชื่อ “หนู เดือนเพ็ญ” ทำอยู่ 4 ปี ว่ากันว่าเป็นช่วงเดียวกับที่ เป็ด เชิญยิ้ม เพิ่งเริ่มฟอร์มคณะตลกพอดี และกำลังหาตัวเด่นอยู่

 

จนกระทั่ง "ขมิ้น เชิญยิ้ม" จากคณะของเป็ด เชิญยิ้ม ไปเจอกับหนูในห้างสรรพสินค้า เลยชักชวนหนูมาร่วมคณะกัน

 

 

 

29 ม.ค.2548  ปิดตำนานตลกอัจฉริยะ  อุทาหรณ์และความทรงจำ

 

 

ที่สุดเมื่อหนูได้ขึ้นเวทีคาเฟ่ครั้งแรก หนูก็สามารถทำให้แขกในร้าน รวมทั้งเป็ดเชิญยิ้มฮากระจาย หัวเราะน้ำตาไหล เป็ด เชิญยิ้ม จึงรับหนูเข้าร่วมคณะในทันที

 

จาก วันชาติ พึ่งฉ่ำ หนูกลายเป็น “หนู เชิญยิ้ม” ผู้มีเอกลักษณ์คือท่าเดินนกกระยาง ที่ถูกอกถูกใจคนดูจนทำให้ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงเป็นอันมาก และมีคนนำไปเลียนแบบเล่นกันอย่างสนุกสนาน

 

เหนืออื่นใน มุกตลกของ หนู เชิญยิ้ม ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียว่า นี่คืออัจฉริยะทางด้านตลกโดยแท้ เช่นไม่ว่าหนูไปพบเห็นอะไรมาเขาก็สามารถนำมาเล่าเป็นเรื่องตลกได้อย่างชนิดที่ทำเอาทึ่งเสมอ หรือไม่ว่าใครจะส่งมุกอะไรมา หนู ก็จะตบกลับ ทำเอาฮาครืนไปทั้งประเทศ

 

 

 

 

อุทาหรณ์

 

 

อย่างไรก็ดี คนไทยรับรู้กันดี ช่วงที่หนูโด่งดังเป็นพลุแตก เขามักให้สัมภาษณ์บ่อยๆ ว่า ด้วยความที่ตนเองเป็น “สลัมบอย” แน่นอนว่าชีวิตวัยรุ่นที่ผ่านมาพัวพันปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และการลักเล็กขโมยน้อย มาแล้วทั้งสิ้น ตนเองทั้งดมทินเนอร์ และยาเสพติด แต่ประกาศว่าเลิกไปหมดแล้ว

 

ที่สุดแล้วคาบเกี่ยวกันกับที่ชีวิตของหนู เชิญยิ้ม สดใสดาวล้านดวง หนูร่ำรวยขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น  มีงานพิธีกร เกมโชว์ สามารถซื้อบ้านราคาหลายล้านบาทให้ครอบครัวได้ แถมยังคบหากับนางแบบสาวชื่อดังยุคนั้นอย่าง “มรกต มณีฉาย” (ภายหลังเลิกรากันไป)

 

 

 

29 ม.ค.2548  ปิดตำนานตลกอัจฉริยะ  อุทาหรณ์และความทรงจำ

 ภาพจากหนังสือเรื่องย่อหนังไทยในอดีต ปี 2540

 

 

 

แต่แล้วคนไทยกลับค่อยๆ ได้ยินข่าวคราวไม่สู้ดีของเขาออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องการติดหนี้พนันบอล ที่คนลือกันว่า นำมาสู่ความเครียดจนต้องหันไปพึ่งยาเสพติด และส่งผลต่อหน้าที่การงานที่หนูมักเบี้ยวงานอยู่เสมอ

 

ต่อมาราวปี 2541 หนุมาออกรายการเจาะใจ ยอมรับว่าเป็นหนี้สินกว่า 13 ล้านบาทจากพนันบอล แต่ไม่ได้เสพและค้ายาเสพติดอย่างที่เป็นข่าว

 

นอกจากนี้ช่วงนั้นหนูยังลาออกจากคณะของเป็ด เชิญยิ้ม โดยไม่ได้โกรธเคืองอะไรกัน เพียงแต่ไม่ต้องการให้คณะของผู้มีบุญคุณต้องเสื่อมเสียเท่านั้น

 

ต่อมาหนูใช้ชื่อใหม่กับคณะของตัวเองว่า “คลองเตย” ซึ่งป๋าต๊อก หรือ ล้อต๊อก เชิญยิ้ม ตั้งให้ โดยนำอดีตทีมตลกบางคนของคณะต่างๆ มาร่วม เช่น หม่อมเหยิน และ แป๋ว บ้านโป่ง และตลกคนใหม่เช่น ไมเคิล เชิญยิ้ม เอ เชิญยิ้ม

 

อย่างไรก็ดี หนูตระเวนเล่นในฐานะ “หนู คลองเตย” ได้ไม่นานก็เงียบหายไปอีกครั้ง  คราวนี้หายไปนานจนปี 2544 คนไทยได้ยินข่าวของเขาว่าหนูมีอาการวิกลจริต ไปอาศัยนอนตามวัด หรือสลัม แต่เขาได้ออกมาปฏิเสธ ระบุว่า แค่รู้สึกอยากหลบมุมตั้งสติและพักใจ

 

ช่วงหนึ่งเขาปรากฏตัวในเทปบันทึกการเล่นตลกครั้งสำคัญ และว่ากันว่าอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขา เทปนี้ชื่อว่า "เรื่องเล่าตลกยอดเยี่ยม อันดับ 1 หนู คลองเตย" ของตลก ดี.เจ.วิสชั่น

 

 

 

 

 

วันนั้นหนูยังคงโชว์ฟอร์มสด ด้นมุกสด ทำเอาฮาไปทั้งรายการ เหนืออื่นใด คือการสัญญากับเพื่อนๆ ว่าจะกลับเข้าวงการแน่ ๆ ขอให้ทุกคนรอเขา และจะอุทิศตัวเพื่อช่วยเหลือสังคม

 

คนไทยดูเทปนั้นด้วยรอยยิ้ม ทั้งยังได้เห็นหนูมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง "ฅนปีมะ" ปี 2546 ซึ่งได้รับความนิยมอยู่มาก และทำให้หนูพอจะมีได้ผลงานการแสดงละครและภาพยนตร์ต่าง ๆ ตามมาบ้าง

 

 

29 ม.ค.2548  ปิดตำนานตลกอัจฉริยะ  อุทาหรณ์และความทรงจำ

 

 

เช่น ภาพยนตร์ หลบผีผีไม่หลบ (2546), ผีหัวขาด2 (2547), บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม (2547), พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า(นักแสดงรับเชิญ 2548) และ เสือภูเขา (2548)

 

ก่อนที่จะทราบข่าวร้าย หนูป่วยเสียชีวิตจากวัณโรค และไวรัสติดเชื้อเข้าสมอง จากไปด้วยอายุเพียง 41 ปีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2548

 

 

 

ความทรงจำ

 

แม้หนูจะจากไปแล้ว แต่ความทรงจำที่พวกเรามีต่อเขา ต้องบอกว่า ในความเป็นผู้สร้างบทเรียนราคาแพง ให้กับผู้คนว่าอย่าลงมัวเมาในความสำเร็จและความโลภจากการติดการพนันแล้ว

 

ความทรงจำที่คนไทยจดจำเขามากที่สุดก็คือ บรรดามุกตลกทั้งหลาย ที่เมื่อไหร่ที่เปิดดู ก็จะต้องหัวเราะ และคิดถึงชายร่างบอบบางคนนี้ทุกครั้ง

 

 

 

29 ม.ค.2548  ปิดตำนานตลกอัจฉริยะ  อุทาหรณ์และความทรงจำ

 

 

โดยเฉพาะมุกหลวงปู่เค็ม ที่ช่วงไม่นานมานี้กลับมาดังทะลุปรอท จนคนถามไถ่ พบว่า เป็นหนูเชิญยิ้มของเรานี่เองที่น่าจะเป็นต้นตำรับ 

 

หนูเคยเล่นมุกหลวงปู่เค็มไว้หลายครั้ง เช่น กองไฟยาวประมาณ 10 เมตร หลวงปู่เค็มก้าวเข้าไปในกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบง ต่อจากนั้นหลวงปู่เค็มถูกไฟคลอกตายคากองไฟ

 

"ประทานโทษครับ มิตรรักผู้ชมที่เคารพ ไสยศาสตร์มีทุกหย่อมหญ้า ประทานโทษ เมื่อก่อนผู้ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ประทานโทษ แต่เดี๋ยวนี้ผมเชื่อแล้ว ผมเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เค็มรุ่นที่ 99 ผมเคยเห็นไสยศาสตร์มาด้วยสายตาผมเอง"

 

"หลวงปู่เค็มเคยนั่งสมาธิ ร่ายเวทมนตร์คาถา พุทธังอาราธนานัง ธรรมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง กองไฟยาวประมาณสิบเมตร หลวงปู่เค็มก้าวลงไปในกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบงหลวงปู่เค็ม ต่อจากนั้นหลวงปู่เค็มถูกไฟคลอกตายคากองไฟ…สาธุ"

 

หรือ “เจ๊ศรีที่ราชบุรีเป็นริดสีดวงทวารเปล่งปลิ้นออกจากรูทวารหนักประมาณ 10 กิโล 7 ขีด ไปรักษาหมอไสว แขดวง 4 เดือนไม่หาย มาหาผมอาทิตย์เดียวเท่านั้น หลุดไปทั้งตูด” 

 

และมุกอื่นๆ อีกมากมาย ใครคิดถึงหนู คลองเตย กดดูได้ที่ลิงค์นี้

 

 

 

 

อย่างไรก็ดี หากวันนี้หนูยังมีชีวิตอยู่ ปีนี้เขาจะมีอายุ 57 ปี

 

 

**********************************

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ