วันนี้เมื่อ 20 ปีก่อน ตำนาน 'ปู่สภา' ผู้ไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้
**********************
ถ้าเอ่ยชื่อ “บุญเท่ง ทองสวัสดิ์” คนรุ่นใหม่น้อยคนจะรู้จักว่าเขาคือใคร แต่คนรุ่นใหม่ที่ติดตามการเมืองจะรู้ว่านี่แหละคือ “หนึ่งในตำนานส.ส.ผู้ไม่เคยสอบตก” แถมยังครองแชมป์ถึง 16 สมัย!!
โดยวันนี้เมื่อ 20 ปีก่อน ตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน 2542 ท่านได้เสียชีวิตลาโลกจากไปด้วยวัย 87 ปี เหลือไว้เพียงตำนานชื่อชั้นของนักการเมืองตัวจริง
ประวัติช่วงต้น
บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2455 ที่ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง บิดาชื่อ บุญเย็น เป็นปลัดอำเภอ มารดาชื่อ บุญมี มีอาชีพค้าขาย เมื่ออายุได้เพียง 10 ขวบ บิดาก็ถึงแก่กรรม
ในวัยเด็ก บุญเท่งเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่ง เรียนที่โรงเรียนบ้านล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง จนถึงชั้นประถมปีที่ 4 ก็ได้รับทุนนักเรียนดี
หลังจากนั้นได้เดินทางมาศึกษาต่อที่โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จังหวัดลำปาง ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-2 แล้วจึงย้ายมาเรียนต่อที่โรงเรียนเคนเน็ตแม็คเคนซี่ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-4 และได้รับทุนเรียนดีจากทางอำเภอให้มาเรียนต่อที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยจังหวัดเชียงใหม่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6
และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7-8 เมื่อปี 2475 โดยระหว่างที่อยู่กรุงเทพมหานครนั้น ได้เป็นเด็กวัดอาศัยอยู่ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
ต่อมาได้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ธรรมศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง รวมถึงได้รับปริญญา รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี 2525-2526
ชีวิตส่วนตัวสมรสกับ เทียมจันทร์ ทองสวัสดิ์ หรือ เทียมจันทร์ วานิชขจร ผู้มีตำแหน่งรองนางสาวไทยอันดับ 2 ปี 2482 ทั้งคู่มีบุตรสาว คือ ธารทอง ทองสวัสดิ์ อยา่งไรก็ดีบุนเท่งได้สมรสอีกครั้งกับ นารี ทองสวัสดิ์
เส้นทางการเมือง
ต่อมาบุญเท่งได้เข้ารับราชการครั้งแรกเป็นผู้ฟังคดีประจำศาล หรือ “โปลีสสภา” หรืออัยการตำรวจประจำศาลแขวงนครเหนือ
หากต่อมาศาลโปลีสสภา เปลี่ยนมาเป็นศาลแขวง ตำแหน่งผู้ฟังคดีประจำศาลได้เปลี่ยนเป็นอัยการตำรวจประจำศาลแขวง
บุญเท่งได้ทำงานเป็นอัยการตำรวจประจำศาลแขวง อยู่แค่ปีเดียว ก็ตัดสินใจลงรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ที่จริงบุญเท่งมีความตั้งใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งที่จังหวัดลำปาง และได้มีการเตรียมหาเสียงไว้อย่างเต็มที่ แต่ได้ถอนตัวไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งที่จังหวัดลำปาง เนื่องจากไม่ต้องการแข่งขันกับ นายสรอย ณ ลำปาง
ด้วยเหตุผลที่มีความผูกพันและเคารพนับถือรู้จักกันเป็นการส่วนตัว จึงลงสมัครรับเลือกตั้งที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแทน เนื่องจากมีญาติอยู่ที่นั้น และคิดว่าเป็นจังหวัดเล็กการหาเสียงคงไม่ลำบากนัก
ครั้งนั้นเป็นการเลือกตั้งปี 2480 หรือการเลืองตั้งครั้งที่ 2 ของประเทศไทย นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา
แต่บุญเท่ง นั่นคือการเลือกตั้งครั้งแกในชีวิต ขณะอายุเพียง 26 ปี ก็ได้รับเลือกตั้งเข้าสภาเลย
ถามว่าหาเสียงแบบไหน ถึงครงใจคน ข้อมูลระบุว่าบุญเท่งใช้ศาลาวัดเป็นกองบัญชาการในการหาเสียง และคลุกคลีกับพระและวัดมาตั้งแต่เด็ก จึงใช้ชีวิตได้อย่างสมถะ แถมยังเข้าถึงชาวบ้านด้วยการเดิน พบปะแบบถึงตัว
ผู้ไม่เคยพ่าย
บุญเท่งเป็นผู้แทนฯ จ.แม่ฮ่องสอนอยู่ 2 สมัย ก็ย้ายกลับมาลงรับสมัครที่จังหวัดลำปางในเดือนมกราคม 2489 และได้รับเลือกติดต่อกันรวม 16 สมัย จนถึงกับได้รับฉายาเป็น “ปู่สภา” ในยุคนั้น
โดยทั้ง 16 สมัยของบุญเท่งในฐานะผู้แทนนั้น บุญเท่งเป็น ส.ส.แม่ฮ่องสอน 2 สมัย คือ ในการเลือกตั้งปี 2480, 2481 และจากนั้นก็เป็น ส.ส. ลำปางมาตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2489, 2491, 2495
และเป็น ส.ส.ลำปาง พรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งปี 2500/1, 2500/2, 2512, 2518 และเป็น ส.ส.ลำปางพรรคกิจสังคมในการเลือกตั้ง 2519, 2522, 2526 และเป็นส.ส.ลำปางพรรคสหประชาธิปไตย ในการเลือกตั้งปี 2529 จากนั้นเป็นส.ส.ลำปาง พรรคเอกภาพ ในการเลือกตั้งปี 2531, และเป็น ส.ส.ลำปาง พรรคสามัคคีธรรมในการเลือกตั้งปี 2535/1 และมาเป็น ส.ส.ลำปางพรรคชาติพัฒนาในการเลือกตั้ง 35/2
ดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนกันยายนปี 2535 รวม 16 สมัย
ที่ผ่านมา บุญเท่ง ได้รับตำแหน่งทางการเมืองสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ในสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 13, รัฐมนตรีที่ไม่ได้ประจำกระทรวง 2 สมัย, รัฐมนตรีว่าการกระทรวมหาดไทย,
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช และเป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในรัฐบาลพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อีกทั้งยังเคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516
นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในการก่อตั้งพรรคการเมืองหลายพรรค อาทิพรรคประชาธิปัตย์ที่ร่วมกับ ควง อภัยวงศ์แกนนำพรรคก้าวหน้า มารวมกับพรรคประชาธิปไตย ของดร.โชติ คุ้มพันธ์, พรรคกิจสังคมที่ร่วมกับหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช, และเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคสหประชาธิปไตย อีกด้วย
สำหรับฉายานั้น นอกจาก “ปู่สภา” แล้ว ยังเคยได้รับฉายา “ปู่เด้ง” อีกด้วยเนื่องจากมีต้องโยกย้ายพรรคบ่อยครั้ง
***********************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง