5 ส.ค.2505 ฆ่าตัว อัพยา หรือใบสั่ง? จุดจบมารหัวใจ "แจกกี้"

 

สำหรับ มาริลิน มอนโร ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็ก “ใจใหญ่” คนนี้ จะมีเรื่องราวที่เรียกว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิดเกิดกับเธอมากมาย ตลอดเวลา แม้แต่วันที่เธอไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว

 

ตั้งแต่เธอแจ้งเกิดบนเวทีบันเทิงมะกัน ผู้คนทั่วโลกก็สงสัยแล้วว่า เธอถูกสร้างขึ้นมาจากรัฐบาลอเมริกา เพื่อเป็นอาวุธหนึ่งในการละลายพฤติกรรมชาวโลก ให้สนใจแต่เรื่องของเซ็กส์ซิมโบลตัวแม่คนนี้ ในกระแสป๊อปคัลเจอร์แบบพี่กันหรือไม่

 

 

 

 

เพราะผู้ชายทั่วโลกต่างพากันหลงใหลได้ปลื้มในเสน่ห์อันยั่วยวนของมาริลิน ส่วนผู้หญิงทั่วโลก ถ้าไม่อยากเอาอย่าง ก็จะเกลียดจนขึ้นสมองไปเลย

 

เฉกเช่น แจกเกอลีน เคนเนดี้ ที่ชาวโลกรู้ทั่วกันว่า สำหรับเธอแล้ว ดาราวสาวยั่วสวาทคนนี้คือมารหัวใจตัวฉกาจ

 

อย่างไรก็ดี ความสำคัญของวันนี้ อยู่ที่ว่า เมื่อ 57 ปีก่อน หรือวันที่ 5 สิงหาคม 2505 คือวันที่ มาริลิน มอนโร ถูกพบเป็นศพในห้องน้ำที่บ้านพัก

 

ความตายของเธอ แม้จะมีทฤษฎีไว้มากมาย แต่คำตอบสุดท้ายที่อธิบายได้คือในร่างกายของเธอตรวจพบสารบาร์บิทูเรตเกินขนาด  ต่อให้ถามกี่ครั้งว่าใครใส่มันเข้าไป มันก็คงไม่สำคัญแล้ว

 

 

จากเด็กกำพร้าสู่ดาวบนฟ้า

 

มาริลิน มีชื่อแรกเกิดว่า “นอร์มา จีน มอร์เทนสัน” เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2469 ในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า

 

 

 

 

เดิมที จีนก็ได้รับการเลี้ยงดูจากมารดาผู้ให้กำเนิด แต่ภายหลังแม่ของเธอมีอาการโรคทางประสาท และบิดาหายสาบสูญไป เธอจึงต้องระหกระเหินไปตามบ้านญาติ และบ้านเด็กกำพร้า

 

ชีวิตที่เหมือนโดนคำสาป แต่นางฟ้าก็ยังให้พร มาริลินเป็นเด็กสาวที่หน้าอาจไม่ถึงขั้นดีเลิศ แต่โดยองค์รวมทั้งรูปร่างหน้าตาและบุคลิกแล้ว จัดว่าตอบโจทย์ที่ชายหนุ่มตามหา

 

ช่วงอายุ 12 เธอเริ่มฉายแววดารา เมื่อพบว่ามีหนุ่มๆ ในโรงเรียนสนใจในตัวเธอเป็นอันมาก แถมบรรดาสาวๆ ก็ยังอิจฉาอีกด้วย

 

 

 

 

พออายุ 16 ปี เธอจึงเริ่มอาชีพนางแบบ และก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ล้มลุกคลุกคลานจนได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ ในปี 2489-2490

 

และกับค่ายโคลัมเบียพิกเจอส์ ในปี 2491 หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ในปี 2494

 

ที่สุดเธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยบทบาทตลกขบขันหลายเรื่อง เช่น แอสยังแอสยูฟีล (2494) และ มังกีบิสเนส (2495)

 

 

 

 

และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (2495) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก ในปีเดียวกัน

 

มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ

 

และกลายเป็นดาราสาวที่มีภาพลักษณ์ยั่วสวาท บาดใจอย่างที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้จนทุกวันนี้

 

 

สายยั่วตัวแม่

 

ไม่มีใครรู้ว่า วันที่ 5 สิงหาคม 2505 ในห้องน้ำที่บ้านของมาริลิน เกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะมีคนพบศพเธอในนั้น

 

แต่ที่แน่ๆ ทฤษฏีหนึ่งที่เกิดขึ้น และเม้าท์กันมาตลอด คือ ต้นเรื่องน่าจะมาจากข่าวลือที่ดาราสาวผู้ผ่านการแต่งงานมาถึง 3 ครั้ง ไปมีความสัมพันธ์กับคนระดับประธานาธิบดีที่ชาวอเมริกันสุดรัก

 

เม้าท์กันทั้งโลกว่า เธอเหมาทั้งพี่ชาย หรืออดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ และน้องชาย วุฒิสมาชิก โรเบิร์ต เคนเนดี้

 

 

 

 

คนแรกเรารู้อยู่แล้วว่า เขามีภรรยาออกหน้าออกตา ซึ่งนับเป็นสตรีที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่ง คือ เจอเกอลีน เคนเนดี้ แต่แจกกี้กลับไม่ทรงอิทธิพลต่อสามีมากพอที่จะทำให้เขายุติการเจ้าชู้ประตูดินที่มีอยู่ตลอด

 

โดยเฉพาะ กับ มาริลิน มอนโร ไม่เพียงแจ็กกี้ ที่รู้และฝืนทน แต่ทั่วโลกรู้หมด เพราะมาริลินมักพูดหรือให้ข่าว และแสดงออกในหลายสถานการณ์อย่างออกหน้า

 

 

 

 

อย่างใน หนังสือของ คริสโตเฟอร์ แอนเดอร์สัน ผู้เขียนเรื่อง The Final Years of Jack and Jackie ระบุว่า สิ่งที่แจ็คกี้หวั่นใจที่สุดคือ การกระทำบางอย่างของดาราสาวที่จะเป็นการทำลายชื่อเสียงของสามีของเธอ และจะกลายเป็นที่เย้ยหยันจากสังคมอเมริกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครยอมรับอย่างเด็ดขาด

 

ว่ากันว่า มาริลินมักพูดบ่อยๆ กับบรรดาเพื่อนสาวคนสนิทว่า "ไม่เห็นรึว่าฉันคู่ควรกับการเป็นสตรีหมายเลข 1” และยังเคยโทรไปเย้ยฝ่ายแจกกี้ถึงทำเนียบขาวบ่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องระหว่างตนเองและสามีของปลายสาย

 

แต่เรื่องนี้ไม่เคยมีการตั้งประเด็นว่าเกี่ยวข้องกับการตายของมาริลินหลังจากนั้น เพราะภาพลักษณ์ของแจกกีนั้นแสนดีเกินไปจะทำเรื่องร้ายๆ

 

 

จุดจบนางซิน

 

ที่สุดการตายของมาริลิน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 57 ปีก่อน กลับมีทฤษฎีอื่นๆ หลั่งไหลออกมามากมาย พื้นๆ คือมาริลินเล่นยา ลึกหน่อยคือมาริลินฆ่าตัวตาย แต่ที่พูดกันมากที่สุดคือเธอโดนเก็บ

 

 

ช่วงปี 2558 มีข่าวที่สะเทือนโลก เมื่อ นอร์แมนด์ ฮอดเจส อดีตเจ้าหน้าที่ CIA ที่เกษียณอายุแล้ว ในวัย 78 ปี และกำลังป่วยหนักและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลได้สารภาพความจริงอันน่าตกตะลึงกับคนทั่วโลก

 

เขาอ้างว่าได้ลอบสังหารคนมาจำนวน 37 คน ให้กับรัฐบาลสหรัฐอเมริการะหว่างปี 1959 ถึง 1972 โดยหนึ่งในเหยื่อเหล่านั้น มีดาราสาวชื่อดังอย่าง มาริลิน มอนโร รวมอยู่ด้วย

 

ประโยคหนึ่งเขาเล่าวว่า “ผู้บัญชาการของผม จิมมี เฮย์วอร์ธ บอกกับผมว่า เธอต้องตายและต้องทำให้ดูเหมือนเป็นการฆ่าตัวตายโดยการใช้ยาเกิดขนาด ผมไม่เคยฆ่าผู้หญิงมาก่อน แต่ก็ต้องทำตามคำสั่ง ผมทำเพื่ออเมริกา ไม่เช่นนั้นเธอจะนำข้อมูลของเราไปบอกพวกคอมมิวนิสต์ ซึ่งเราไม่อนุญาตให้เกิดขึ้น ดังนั้น ผมจึงทำในสิ่งที่ผมต้องทำ”

 

 

 

 

คำพูดนี้เกิดขึ้น เพราะเขาได้รับการบอกกล่าวว่ามาริลินมีความสัมพันธ์ลับกับ ฟิเดล คาสโตร ศัตรูตัวฉกาจของอเมริกันอีกด้วย

 

ในวันที่เธอเสียชีวิต เขาอ้างว่า เขาเข้ามาในห้องในขณะที่เธอนอนหลับ และฉีดยาให้กับเธอจนถึงแก่ความตาย

 

 

 

 

มุมนี้อาจเป็นความจริง หรือไม่จริงก็ได้ แต่ถ้าจริง คำถามคือข้อมูลที่ชายผู้อ้างตัวระบุ คือข้อมูลที่เป็นความจริงหรือไม่

 

แต่ที่น่าเศร้าคือ มาริลิน ตายทั้งที่ยังเบ่งบานแย้มกลีบสวย เธอได้รับโอกาสชีวิตเป็นพรจากนางฟ้าแค่เพียง 20 ปีในแสงสี รถฟักทองของเธอก็คืนสู่ดินในวันที่เธอมีอายุแค่ 36 ปี เท่านั้น

 

หากวันนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอจะมีอายุ 93 ปี  ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไมได้ หากว่าเธอยังเป็นแค่ “นอร์มา จีน” ที่อาศัยในเมืองเล็กๆ ไม่ใช่ มาริลินที่ร้อนแรง

 

***************//****************