วันนี้ในอดีต

8 มี.ค.2557 เที่ยวบินโลกตะลึง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แม้แต่เรื่องลี้ลับอย่าง ในเครือข่ายสื่อสังคมของมาเลเซีย มีการระบุถึง รหัสเที่ยวบิน "MH" ซึ่งย่อมาจาก "masih hilang" ในภาษามาเลย์ที่แปลได้ว่า "ยังคงสูญหาย"

 

 

*************************************

 

 

                4 ปีมาแล้วหรือนี่!!! กับการหายสาบสูญของ เที่ยวบิน MH 370 ที่คนทั่วโลกต้องตะลึง เพราะจนถึงวันนี้ ก็ยังค้นหาซากเครื่องไม่เจอ!!! ราวกับถูกเสกให้หายไป!!

 

                คนไทยและค้นทั้งโลก ไม่มีใครลืม เมื่อมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 370 (MH370) เป็นเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศ เกิดสูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 ระหว่างบินจากท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ประเทศจีน

 

 

8 มี.ค.2557 เที่ยวบินโลกตะลึง

 

 

                โดยตามข่าวระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวติดต่อด้วยเสียงครั้งสุดท้าย กับ ศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศเมื่อเวลา 01:19 MYT ของวันที่ 8 มีนาคม (17:19 UTC ของวันที่ 7 มีนาคม) ขณะบินเหนือทะเลจีนใต้ไม่ถึงชั่วโมงหลังนำเครื่องขึ้น

 

                กระทั่งสัญญาณหายไปจากจอเรดาร์ของผู้ควบคุมจราจรทางอากาศ เมื่อเวลา 01:22 MYT แต่เรดาร์ทหารของมาเลเซียยังติดตามอากาศยาน ขณะที่เครื่องเบี่ยงจากเส้นทางการบินตามแผน และข้ามคาบสมุทรมลายู

 

                เครื่องพ้นรัศมีของเรดาร์ทหารมาเลเซียเมื่อเวลา 02:22 ขณะบินเหนือทะเลอันดามัน ห่างจากปีนังทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาเลเซียไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 200 ไมล์ทะเล (370 กิโลเมตร)

 

                และแล้ว หลังจากนั้นอากาศยานดังกล่าว ซึ่งเป็นโบอิง 777-200 อีอาร์ ก็พาสมาชิกลูกเรือชาวมาเลเซีย 12 คน และผู้โดยสาร 227 คนจาก 15 ชาติ หายไปกับขอบฟ้า!

 

 

8 มี.ค.2557 เที่ยวบินโลกตะลึง

 

 

                หลังจากเช้าวันเสาร์อันสุดช็อคนั้น !! ไม่เพียงญาติและครอบครัวของคนบนเครื่อง แต่คนทั้งโลกเลยทีเดียว ที่ใจจดใจจ่อ ติดตามข่าวสารเรื่องนี้

 

                โดยแรกเริ่มนั้น คนส่วนหนึ่งคิดเพียงว่าอาจเป็นการจี้เครื่องบินเพื่อการบางอย่าง อีกไม่นานผู้ร้ายก็คงติดต่อกลับมาแจ้งความต้องการ

 

                ขณะที่ส่วนใหญ่คิดว่าเครื่องคงจะตกลงห้วงมหาสมุทรเสียแล้ว ซึ่งไม่นานนักเจ้าหน้าที่ที่ทำการค้นหา คงจะได้พบกับซาก ทั้งเครื่องและผู้คนที่ไร้ลมหายใจ

 

              โดยไม่มีใครจะนึกถึงเลยว่า หายังไงก็ไม่เจอ และไม่เจอมาถึง 4 ปีแล้ว!!

 

                ทั้งนี้ เที่ยวบินนี้มีลูกเรือทั้งหมดเป็นชาวมาเลเซีย โดยมีกัปตันคือ ซาฮารีย์ อาหมัด ชาฮ์ ชาวปีนัง อายุ 53 ปี เขาเข้าทำงานที่สายการบินนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ด้วยประสบการณ์บินทั้งหมด 18,365 ชั่วโมงบิน มีผู้ช่วยนักบินคนที่หนึ่ง คือ ฟาริค อับดุล ฮามิด อายุ 27 ปี 2,763 ชั่วโมงบิน

 

                ที่สุดช่วงนั้น เมื่อกระแสข่าวการหาเครื่องไม่เจอ สร้างความลึกลับดำมืดให้กับชาวโลก ก็ได้มีการตั้งทฤษฎีต่างๆ ออกมามากมาเกี่ยวกับการหายสาบสูญครั้งนี้

 

                โดยช่วงแรก เดือนมีนาคม 2557 มีข้อมูลการวิเคราะห์ของดาวเทียมอินมาร์แซต ระบุคาดว่าเป็นไปได้ 2 ทิศทางคือ   1. ขึ้นไปทางเหนือคือเอเชียกลาง แถวอัฟกานิสถาน เติร์กเมนิสถาน คีร์กีซสถาน 2. มุ่งไปทางซีกโลกใต้

 

                ก่อนที่จะสรุปได้ว่า MH370 มุ่งลงมาทางใต้และตกลงในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นจุดที่มีความยากลำบากในการค้นหา เพราะคลื่นลมแรงมากและมีความลึกมากกว่าตึกที่สูงที่สุดในโลกถึง 4 เท่า

 

                ขณะเดียวกันมีการตั้งทฤษฎี 3 ทฤษฎีเกี่ยวกับเที่ยวบิน MH370 ที่ไม่เป็นไปตามเส้นทาง คือแทนที่จะขึ้นเหนือจากกัวลาลัมเปอร์ ไปถึงกรุงปักกิ่ง ถึงจุดหมายประมาณ 6 โมงเช้า แต่ไปไม่ถึงครึ่งทาง หันหัวมาอีกฟากมหาสมุทรหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุ โดยทั้ง 3 ทฤษฎี ได้แก่

 

 

               1. การจี้เครื่องบิน บังคับให้ไปทางใต้

             2. การก่อวินาศกรรมของนักบินเอง

             3. เกิดวิกฤตกลางอากาศส่งผลนักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ 

 

 

8 มี.ค.2557 เที่ยวบินโลกตะลึง

 

 

                ระหว่างนั้น ชาวเนตก็มีมีการตั้งทฤษฎีอีกมากเช่น  ผู้ใช้ซินล่าง เวยป๋อ หรือทวิตเตอร์ภาคภาษาจีน พากันแลกเปลี่ยนทฤษฎีต่างๆ กันอย่างกว้างขวาง เช่น เป็นการโจมตีจากกลุ่มนักรบอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงจนถึงการปั่นราคาหุ้น

 

                 ไปจนถึงเครื่องบินโดนอุกกาบาตพุ่งชน เพราะอุกกาบาตมีความรุนแรงมากกว่าขีปนาวุธ และอาจทำให้เครื่องแตกเป็นเสี่ยง และเหตุการณ์นี้ต้องเกิดขึ้นเร็วมาก

 

                แม้แต่เรื่องลี้ลับอย่าง ในเครือข่ายสื่อสังคมของมาเลเซีย มีการระบุถึง รหัสเที่ยวบิน “MH” ซึ่งย่อมาจาก “masih hilang” ในภาษามาเลย์ที่แปลได้ว่า “ยังคงสูญหาย”

 

                นอกจากนี้กระแสที่ว่า เป็นการฆ่าตัวตาย หรือ อัตวินิบาตกรรมของนักบิน ก็ยังมี และยังมี ทฤษฎี "สมรู้ร่วมคิด" (conspiracy theory) ที่สุดหลุดโลก อีกมากมาย

 

                หลังจากนั้น ปี 2558 ครบรอบ 1 ปี ผู้คนก็ออกมาตั้งทฤษฎีอีก ค้นมาจากสังคมออนไลน์ สรุปได้ เช่น

 

                ทฤษฎีที่ 1 "เครื่องบินถูกยิงตกจากการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับไทย" ข้อสมมุติฐานนี้เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และเมื่อสหรัฐฯ ทราบว่ายิงไปถูกเครื่องบินตกก็รีบทำข้อมูลปลอมขึ้นมาเพื่อถ่วงเวลาในการปกปิดหลักฐาน

 

                ทฤษฎีที่ 2 "เครื่องบินถูกจี้ให้บินไปอัฟกานิสถาน" สมมุติฐานนี้ถูกกล่าวอ้างเป็นครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ของรัสเซียที่อ้างแหล่งข่าวจากกองทัพรัสเซีย ว่ามีผู้ก่อการร้ายไม่ทราบฝ่ายจี้เครื่องบินให้ไปลงจอดในอัฟกานิสถานและผู้โดยสารกับลูกเรือ 239 คนยังมีชีวิตอยู่

 

                ทฤษฎีที่ 3 "สร้างเรื่องเพื่อหวังเงินประกันชีวิต" สมมุติฐานนี้เกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่าอาจจะมีคนที่อยู่บนเที่ยวบินดังกล่าวทำประกันชีวิตในวงเงินที่สูงมากและสร้างเรื่องให้เครื่องบินหายไปทั้งลำ หวังให้ครอบครัวและคนที่อยู่ข้างหลังได้รับผลประโยชน์จากวงเงินประกันชีวิต

 

                ทฤษฎีที่ 4 "ไฟไหม้เครื่องบิน" นี่เป็นหนึ่งในทฤษฏีที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะหากเกิดไฟไหม้ภายในเครื่องบินจนทำให้ทุกคนบนเครื่องเสียชีวิต แต่ระบบการบินอัตโนมัติ หรือ "ออโต้ ไพล็อต" ยังคงทำงานเรื่องนี้จะอธิบายสาเหตุที่เครื่องบินเลี้ยวออกนอกเส้นทางและยังสามารถทำการบินได้ จนกระทั่งน้ำมันหมดและเครื่องบินตกลงในทะเล

 

                ทฤษฎีที่ 5 "นักบินฆ่าตัวตาย" เรื่องนี้เป็นหนึ่งในแนวทางการสอบสวนของตำรวจที่ตรวจสอบว่านักบิน, ผู้ช่วยนักบิน รวมถึงพนักงานและผู้โดยสารบนเครื่อง มีคนที่มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตายตัวตายหรือมีปัญหาสภาพจิตหรือไม่

 

                ทฤษฏีที่ 6 "สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งเอเชีย" นี่เป็นอีกหนึ่งสมมุติฐานที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดในโลกออนไลน์ โดยเทียบกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาในมหาสมุทรแอตแลนติคที่มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญโดยไร้ร่องรอยเช่นกัน

 

                ทฤษฎีที่ 7 "MH370 ถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว"

 

                อย่างไรก็ดี ช่วงวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 มีการพบชิ้นส่วนเครื่องบินลอยมาติดชายหาดบนเกาะเรอูนียง ทางมหาสมุทรอินเดียตะวันตก ต่อมาวันที่ 5 สิงหาคม นาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้แถลงการณ์ยืนยันว่าชิ้นส่วนปีกเครื่องบินที่พบที่เกาะเรอูนียงเป็นของเที่ยวบินที่ 370 จริง

 

                แต่หนึ่งชั่วโมงหลังนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลง รองอัยการกรุงปารีส ได้ออกแถลงการณ์ว่าคณะผู้เชี่ยวชาญไม่มีการยืนยันใดๆ ว่าชิ้นส่วนดังกล่าวมาจาก MH370

 

 

 

8 มี.ค.2557 เที่ยวบินโลกตะลึง

 

 

                แต่แล้วที่สุด วันที่ 18 ม.ค. 2560 ไดมีแถลงการณ์ร่วมระหว่าง รัฐบาลจีน ออสเตรเลีย และมาเลเซียระบุว่า ปฏิบัติการใต้น้ำเพื่อค้นหาเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH370 ได้ยุติลงแล้ว หลังดำเนินการมานานเกือบ 3 ปี และยังคงไม่พบร่องรอยของเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดีย

 

                โดยแถลงการณ์ร่วมระหว่างสามประเทศ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ค้นหาเครื่องบินโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกประเภท รวมไปถึงการจำลองสถานการณ์ และรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ แต่ก็ยังไม่พบเครื่องบิน MH370 พร้อมกับระบุว่า การตัดสินใจยุติโครงการค้นหาใต้น้ำครั้งนี้เป็นเรื่องยากและน่าเศร้า

 

                ขณะที่ครอบครัวของผู้โดยสารที่หายไปพร้อมกับเครื่องบิน MH370 ต่างแสดงความผิดหวังกับการประกาศยุติการค้นหาเครื่องบิน บางคนกล่าวว่า เครื่องบินพาณิชย์ไม่สามารถหายไปได้อย่างไร้ร่องรอย ขณะที่บางส่วนระบุว่า การหยุดค้นหาเครื่องบินถือเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ และทรยศต่อความเชื่อว่าข้อมูล เครื่องมือ และคำแนะนำต่างๆ จะสามารถนำทางไปสู่การค้นพบเครื่องบินได้

 

                ก่อนหน้านี้หลายประเทศและบริษัทต่างให้ความร่วมมือในการขยายพื้นที่ค้นหาในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ ที่ซึ่งเป็นจุดที่สัญญาณดาวเทียมสามารถระบุตำแหน่งเครื่องบิน MH370 ได้

 

 

8 มี.ค.2557 เที่ยวบินโลกตะลึง

จากhttps://th.wikipedia.org

               

                 ตลอดระยะเวลาในการค้นหาเครื่องบิน MH370 มีการค้นพบชิ้นส่วนของเครื่องบินบริเวณชายฝั่งทวีปแอฟริกา และได้รับการยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินลำที่หายไป

 

                โดยชิ้นส่วนที่พบและได้รับการยืนยันแล้ว ประกอบด้วย flaperon หรือส่วนปีกของเครื่องบินMH370 ซึ่งพบที่เกาะเรอูนียงของฝรั่งเศส เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2558 ตามมาด้วยชิ้นส่วนบริเวณปีกเครื่องบิน หรือ wing flap อีกสองชิ้น ที่ประเทศมอริเชียส และประเทศแทนซาเนีย ในแอฟริกา ซึ่งพบในเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ตามลำดับ

 

                ด้านสำนักงานความปลอดภัยด้านการคมนาคมของออสเตรเลีย หรือ ATSB ซึ่งเป็นผู้นำในปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินMH370 ระบุว่า เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนเครื่องบิน 6 ชิ้น ตามแนวชายฝั่งทวีปแอฟริกา ที่คาดว่าอาจจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินMH370 แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้

 

                ขณะนี้มีชิ้นส่วนเครื่องบินจำนวน 20 ชิ้นที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบินMH370 หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ซากชิ้นส่วนเครื่องบินเหล่านี้ไม่สามารถนำไปสู่การค้นพบผู้โดยสารและลูกเรือที่หายไปพร้อมกับเครื่องบินได้ (ข่าวจาก https://news.mthai.com/world-news/544648.html)

 

                แต่แม้จะยุติการต้นหาแล้ว ควมลึกลับยังคงอยู่ในใจชาวโลกต่อไป เช่นเดียวกับทฤษฎีต่างๆ ที่ยังมีออกมาทุกครั้งที่พวกเรานึกถึง!!    

////////////

 

ขอบคุณข้อมูลจาก 

https://news.mthai.com/world-news/544648.html)

และ วิกิพีเดีย ติดตามอ่านทั้งหมดได้ที่ลิงค์นี้ 

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C_%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_370

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ