ขณะไปถึงโรงพยาบาลเมื่อประมาณ 20.00 น. "ย.โย่ง" ยังรู้สึกตัวดีอยู่ และบ่นแน่นหน้าอกมากตลอดเวลา แพทย์ให้ยาไนไตกลีเซอรีนอมใต้ลิ้น แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น!!
********************************
ถ้าพูดถึงผู้ประกาศข่าวกีฬามากฝีมือในทีวีของบ้านเมืองเรา เชื่อว่าคนไทยเกือบทั้งประเทศจะนึกถึง ย.โย่ง หรือ เอกชัย นพจินดา ที่แม้ว่าวันนี้เขาจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว และจากไปนานถึง 21 ปี
...แต่คนไทยก็ยังนึกถึงเขาอยู่เสมอ...
วันนี้ในอดีต หรือ วันที้ 6 มีนาคม พ.ศ. 2540 เป็นวันที่คนไทยทั้งประเทศต้องช็อค!! เมื่อได้ทราบข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ ย.โย่ง เอกชัย นพจินดา
และยังคงเป็นสิ่งที่สะเทือนใจ แปลกใจ ตกตะลึงใจ คนไทยอย่างมาก เมื่อได้รู้ว่า สาเหตุการเสียชีวิตคืออาการ "หัวใจวาย!!!"
จนหลายคนงงกันไปหมดว่า คนที่เป็นผู้ที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬาสม่ำเสมอ ทั้งยังไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ แถมยังมีประวัติว่าเคยไปตรวจ (เช็ก)สุขภาพสม่ำเสมอ ซึ่งปรากฏว่าสุขภาพดีมาตลอด ไม่พบว่ามีโรคหัวใจที่ต้องกินยาหรือใช้ยาใดๆ
แต่เขากลับจะต้องประสบกับเคราะห์กรรม ที่มาคร่าชีวิตเขาไปแบบนี้!?
สำหรับเหตุการณ์ในวันนั้น หลายคนยังไม่ลืม ช่วงค่ำ ขณะที่เขากำลังเล่นเทนนิสที่สนามกีฬาภายในสถานีโทรทัศน์ช่อง 7
ข่าวบางแหล่งระบุว่า ตอนนั้น ย.โย่งกำลังเล่นเทนนิส ร่วมกลุ่มกับ สุรางค์ เปรมปรีดิ์ อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด, พิศณุ นิลกลัด และเพื่อนร่วมงาน ที่สนามเทนนิสภายในที่ทำการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
https://www.facebook.com/yoryongforever/
แต่แล้วราว 19.30 น. ก็เกิดอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออก จนต้องหยุดเล่น แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ผู้ร่วมงานจึงพาไปโรงพยาบาล
ขณะไปถึงโรงพยาบาลเมื่อประมาณ 20.00 น. “ย.โย่ง” ยังรู้สึกตัวดีอยู่ และบ่นแน่นหน้าอกมากตลอดเวลา แพทย์ให้ยาไนไตกลีเซอรีนอมใต้ลิ้น แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น
แต่แล้วจู่ๆ ระหว่างการรักษา ย.โย่งก็เกิดอาการเกร็งและหมดสติ เนื่องจากหัวใจหยุดเต้น แพทย์พยายาม “ปั๊ม” หัวใจและช่วยชีวิต แต่ก็ไม่ประสบผล
“ย.โย่ง” จึงสิ้นใจเมื่อเวลาประมาณ 21.45 น. หรือประมาณ 2-3 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ
เรื่องนี้มีข้อมูลระบุว่า แพทย์ผู้รักษาเล่าว่า ย.โย่ง เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายตายเฉียบพลัน จากการขาดเลือด แต่แพทย์ไม่สามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดที่อุดตันหลอดเลือดได้เพราะ “ย.โย่ง” มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร เนื่องจาก “ย.โย่ง” เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่ จึงไม่สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้
สำหรับประวัติของ ย.โย่ง ในการทำงานนั้น ถือว่าแม้จะมาด้วยความจำเป็น แต่เขาก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม
https://www.facebook.com/yoryongforever/
กล่าวคือ ขณะที่เขากำลังศึกษาอยู่คณะนิติศาสตร์ รามคำแหง ปรากฏว่าพ่อของเขาได้เสียชีวิตลง เขาจึงลาออกจากการเรียนมาเข้าสู่วงการสื่อมวลชนสายกีฬา เพราะความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก
เส้นทางสายข่าวกีฬาของเขา เริ่มจากการเป็นนักแปลข่าวกีฬาที่หนังสือพิมพ์บ้านเมืองเป็นครั้งแรก ช่วงปี พ.ศ. 2517 จากนั้นพิศณุ นิลกลัด ได้ทาบทามให้มาเป็นผู้แปลข่าว การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 11 ซึ่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ. 2521 ให้กับทางสยามสปอร์ตฯ
และเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นตามลำดับ ทั้งเขียนคอลัมน์ และเป็นบก. ในเครือสยามสปอร์ตอีกหลายฉบับ โดยใช้นามปากกาว่า “ย.โย่ง” เนื่องจากเป็นผู้มีรูปร่างผอมสูง
กระทั่งมาเป็นผู้ประกาศข่าวกีฬา ในช่วงข่าวภาคค่ำประจำวัน และผู้บรรยายการแข่งขันกีฬาทางช่อง 7 ร่วมกับ จักรพันธุ์ ยมจินดา และพิศณุ นิลกลัด ด้วย
ยุคนั้น ทุกคนต่างยอมรับในฝีมือ จนมีชื่อเสียงในฐานะผู้บรรยายฟุตบอลที่มีความสามารถมากที่สุดคนหนึ่ง เนื่องจากมีความรอบรู้ในเรื่องฟุตบอลอย่างแตกฉาน
เขาจึงได้รับฉายาจากแฟนฟุตบอล ผู้อ่านและผู้ชมว่าเป็น “คัมภีร์ลูกหนัง” หรือ “คัมภีร์ฟุตบอล” ของประเทศไทย
ทั้งนี้ นายเอกชัยยังมีชื่อเสียง จากการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ประเภทกีฬา นาทีระทึกใจ, ชั่วโมงระทึกใจ และ เจาะสนาม ที่ผลิตโดย บริษัท จีเอส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด และออกอากาศทางช่อง 7 อีกด้วย
กระนั้นก็ดี วัย 44 ปี ช่างสั้นนักสำหรับเขา เพราะเขายังมีภรรยาและบุตรสาวที่ยังเล็กมาก ขณะที่จากโลกนี้ไป นั่นคือ “ยุรี นพจินดา (นามสกุลเดิม : วีระสุคนธ์) พยาบาลประจำโรงพยาบาลศิริราช และ ลูกสาว "น้องแตงโม" ทวีพร นพจินดา ขณะที่อายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น
https://www.facebook.com/yoryongforever/
แต่ที่สุดแสนน่าเศร้า และแปลกประหลาดใจหนักขึ้นไปอีกคือ หลังจากนั้น คนในครอบครัวของ ย.โย่ง ก็มีอันเป็นไปตามไป
คือ ภรรยาของเขาเอง ที่หลังจากนั้นอีก 10 ปี เกิดล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ และจากไปเมื่อ 13 ก.ค.2550 ซึ่งขณะนั้นบุตรสาวเพิ่งจะมีอายุเพียง 15-16 ปีเท่านั้น
https://www.facebook.com/yoryongforever/
ต่อมาหลังจากนั้นอีก 5 ปี หรือครบ 15 ปีของการจากไปของพี่ชาย ปรากฏว่าน้องชายของ ย.โย่ง หรือ “ธราวุธ นพจินดา” ผู้ประกาศข่าวที่เดินตามรอยพี่ชายในเส้นทางสายนี้ ก็ถึงแก่กรรมอย่างกะทันหัน ในคืนวันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ด้วยภาวะหัวใจวาย ขณะนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเป็นอาการเดียวกับพี่ชาย ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านั้น 15 ปีด้วย!!
แน่นอนหลายคนอาจมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเศร้าสลด แต่อีกมุมหนึ่ง หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกัน!
และคงจะเฝ้ามองน้องแตงโม ที่เติบโตขึ้นอย่างสวยสดงดงาม โดยในที่สุด เธอนั้นเรียนจบสาขาภาพยนตร์ คณะปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (การผลิตภาพยนตร์)มหาวิทยาลัยมหิดล นานาชาติ ศาลายา แล้ว
และยังเป็นผู้ดูแลเฟซบุคแฟนเพจ "เอกชัย นพจินดา" อีกด้วย สามารถไปติดตามเรื่องราวได้
โดยทั้งหมดนั้น เป็นพื้นที่แห่งการถ่ายทอดความรักและความคิดถึงอย่างสุดซาบซึ้งกินใจ ไปถึง ย.โย่ง คัมภีร์ลูกหนัง ที่คนไทยจะคิดถึงเขาไปตลอดกาล!!
https://www.facebook.com/yoryongforever/
*********************************
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
เฟซบุคแฟนเพจ เอกชัย นพจินดา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง