คนไทยได้ดูกีฬาเต็มอิ่ม

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย “การส่งเสริมพัฒนาการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนในด้านกีฬา” ระหว่างกรมประชาสัมพันธ์และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (บมจ. อสมท) กับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์

นายเทวัญ กล่าวว่าการได้เห็นทั้ง 3 หน่วยงานจับมือกันเพื่อทำงานร่วมกันเพื่อเผยแพร่ถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับกีฬากิจกรรมกีฬาซึ่งเป็นหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในด้านการส่งเสริมให้ทุกคนเล่นกีฬาดูกีฬาเพื่อสุขภาพที่ดีรวมไปถึงความร่วมมือด้านกีฬาในระดับในประเทศและนานาชาตินับเป็นก้าวสำคัญในวงการกีฬาที่เกิดขึ้นในการร่วมมือกันเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งทางด้านวิชาการการแข่งขันกีฬาต่างๆและสิทธิประโยชน์ทางด้านกีฬาที่จะได้มาในอนาคต

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนามร่วมกับอสมท. และกรมประชาสัมพันธ์นั้นประชาชนจะได้มีทางเลือกในการรับชมนักกีฬาไทยที่ไปแข่งขันในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรานำร่องในการถ่ายทอดฟุตซอลที่สงขลา หรือจะเป็นการถ่ายทอดสดกีฬาแห่งชาติกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่จะต้องต่อเนื่องตลอดทัวร์นาเมนต์ มากกว่าการได้ดูแค่พิธีเปิด-ปิดและกีฬาไม่กี่ชนิดหรือจะเป็นกีฬาต่างประเทศที่นักกีฬาไทยไปแข่งขัน

“สำหรับโอลิมปิกเกมส์ รัฐบาลอนุมัติงบประมาณ 480 ล้านบาทในการซื้อมหกรรมกีฬา 5 รายการรวมถึงโอลิมปิกเกมส์มาแล้วในจำนวนนี้เป็นงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติและงบประมาณจาก กสทช คนละครึ่ง ซึ่งเราได้ซื้อลิขสิทธิ์จาก แพลนบี เจ้าของสิทธิ์ในเมืองไทย และเดนสึมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วประชาชนจะได้รับชม “โตเกียวเกมส์ 2020” อย่างแน่นอน”

“ขั้นตอนต่อไปนี้ สถานีโทรทัศน์หรือทีวีดิจิตอลต่าง ๆ ไม่ต้องออกเงินสำหรับการถ่ายทอดสดอีกแล้ว ซึ่งจากนี้เราจะหารือช่องต่างๆเพื่อหาแนวทางและมองว่าช่องใดมีศักยภาพพร้อมที่จะถ่ายทอดสดไปถึงประชาชนมากที่สุดนอกจากนี้ยังมีช่องทางบนอินเตอร์เน็ตอย่าง เอไอเอสเพลย์ บ็อกซ์ และกกท.เองก็ยังมีช่องทางทีสปอร์ตอีกด้วย