ทำไม แมนฯ ซิตี ล้มไม่เป็นท่าในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้

 

 

เวลานี้ระยะห่าง 22 แต้ม ในทางทฤษฎีอาจพอจะพูดได้ว่า แมนฯ ซิตี ยังสามารถทำคะแนนแซง ลิเวอร์พูล ได้

 

แต่ในทางปฏิบัตินั้นแทบไม่มีใครนึกภาพออกได้เลยว่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ตำแหน่งแชมป์จะพลิกได้อย่างไร

 

“แน่นอนอยู่แล้วพวกเขานำห่างเราไกลเกินกว่าจะไล่ทัน ไม่มีใครหยุดพวกเขาได้แล้ว และก็เก็บคะแนนได้เยอะมาก ตอนนี้เป้าหมายเราคือการแข่งขันในรายการอื่น และคว้าสิทธิ์ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า” กวาร์ดิโอลา ให้สัมภาษณ์แบบยอมจำนนหลังถูกถามเรื่องการลุ้นแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้

 

 

 

 

เป็นความจริงว่าซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล ของเจอร์เกน คลอปป์ ผลงานร้อนแรงแบบทะลุปรอท ชนะ 24 จาก 25 เกม แต่ขณะเดียวกันในฐานะตัวเต็งลุ้นแชมป์ก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเปิดฉาก กระทั่งมาถึงชั่วโมงนี้ระยะห่างดังกล่าวก็อดคิดไม่ได้ว่าซีซั่นนี้เกิดอะไรขึ้นกับทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา

 

 

ไม่เด็ดขาดพอ

เกมกับทอตแนม ฮอตสเปอร์  ที่ลงเอยด้วยความปราชัยของซิตี 0-2 หลังจบเกม ลูกทีมของกวาร์ดิโอลา มีโอกาสลุ้นทำประตูถึง 18 ครั้ง โดยตอนที่เรือใบสีฟ้าสร้างโอกาสเข้าทำไป 14 หน เจ้าถิ่นอย่างสเปอร์ส เพิ่งมีโอกาสลุ้นส่องประตูแค่ครั้งเดียว แถมเปอร์เซ็นต์การครองบอลของ 2 ทีม หลังจบเกม แมนฯ ซิตี 67% ส่วน ไก่เดือยทองของมูรินโญ ครองบอลแค่ 33%

 

แถมโอกาสยิงเพียงแค่ 3 ครั้ง กลับเป็นว่า “ไก่เดือยทอง” กลับได้มาถึงสองประตู เท่านั้นไม่พอเกมนี้ทีมเยือนยังพลาดโอกาสขึ้นนำไปก่อนเมื่อมาได้จุดโทษก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที แต่ อิลคาย กุนโดกัน สังหารไปติดเซฟ อูโก โยริส เสียก่อน

 

 

 

 

“เราเล่นได้ดีแต่แพ้ เหตุการณ์แบบนี้กลับมาเกิดขึ้นกับเราอีกครั้ง พวกเขามีจังหวะยิงสองครั้งและเป็นสองประตู"

“ผมไม่รู้จะพูดอะไรถึงฟอร์มการเล่นของเรา เราทำได้ดีมากจริงๆ ฟอร์มแบบนี้ผมไม่รู้จะพูดยังไง ใบแดงคือจุดเปลี่ยน เรากำชับนักเตะแล้วในช่วงพักครึ่งว่าให้ระวัง ใบเหลืองมันเกิดขึ้นได้เร็วมาก” นายใหญ่ชาวสแปนิช ระบุ

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าใบเหลือง-แดงของโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก คือจุดเปลี่ยนสำคัญในเกมนี้ และการโดนตะเพิดออกจากสนามเที่ยวนี้ของแบ็กชาวยูเครนทำให้สถิติซีซั่นนี้ แมนฯ ซิตี มีนักเตะโดนตะเพิดออกจากสนามแล้วถึง 3 ราย มากกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีก

นอกจากนี้การพลาดจุดโทษของกุนโดกัน อาจทำให้ เป๊ป ต้องตัดสินใจหาเบอร์ 1 ในการสังหารจุดโทษของทีมอย่างจริงจัง เพราะเดอะ บลูส์ บอดโทษไปถึง 4 จาก 6 นัดหลังสุดนับรวมทุกรายการ (กาเบรียล เฆซุส 2 ครั้ง, ราฮีม สเตอร์ลิง กับ กุนโดกัน 1 ครั้ง)

 

หายนะในเกมล่าสุดที่ทำให้แมนฯ ซิตี พบกับความปราชัยเป็นเกมที่ 6 ของฤดูกาล ซึ่งเป็นตัวเลขเท่ากับทั้งฤดูกาล 2016-17 ในปีแรกที่ เป๊ป เข้ามาคุมทัพเรือใบซีซั่นแรกแล้วปีนั้นจบลงด้วยการเข้าป้ายอันดับ 3 ของตาราง แต่กับปัจจุบันที่เพิ่งผ่าน 25 นัด กลับกลายเป็นว่านายใหญ่ชาวสแปนิชพุ่งชนความพ่ายแพ้ไปเท่ากับฤดูกาลแรกที่เข้ามารับงานซึ่งทุกคนทราบดีปีนั้นอดีตกุนซือบาร์เซโลนาโดนสับเละไม่มีชิ้นดี

 

เท่านั้นไม่พอหลังจบเกมที่รังเหย้าของไก่เดือยทอง ผลลัพธ์ที่ออกมานอกจากเป็นการพ่ายแพ้ 2 นัดติดแล้ว ลูกทีมของกวาร์ดิโอลา ยังไม่สามารถเจาะต่าข่ายคู่แข่งได้สำเร็จทั้งสองเกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ “เป๊ป” เข้ามาคุมทัพเรือใบสีฟ้า

 

โดยครั้งสุดท้ายที่แมนฯ ซิตี เจาะตาข่ายคู่แข่งไม่ได้สองเกมติดต่อกันต้องย้อนไปสมัย มานูเอล เปเยกรินี ยังรับบทกุนซือเมื่อมีนาคม 2016 โดยตอนนั้นทำประตูคู่แข่งไม่ได้ 3 เกมต่อเนื่องกัน

 

 

ปัญหาที่ไม่แก้ตอนตลาดเปิด

 

ถึงประตูที่เสียไป 29 ลูกในฤดูกาลนี้จะไม่ได้ดูย่ำแย่เท่าไหร่ แต่เมื่อลองไปเปรียบเทียบกับลิเวอร์พูล จ่าฝูง ปรากฏว่าเรือใบสีฟ้าโดนคู่แข่งเจาะตาข่ายมากกว่าอยู่ถึง 14 ประตู และนี่คือเหตุผลแรกๆ ที่ว่าทำไมจึงเกิดระยะห่าง 22 คะแนน ระหว่างทีมอันดับ 1 กับอันดับ 2 ขึ้นมา

 

เป๊ป กวาร์ดิโอลา ทราบดีว่าเขาจะไม่มีปราการหลังตัวสำคัญอย่าง อายเมอริค ลาปอร์ต ซึ่งเจ็บหนักจนต้องผ่าตัดและพักยาวตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ก่อนจะกลับมาคืนสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดปะทะกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เวลานั้นไม่ว่าจะแฟนบอลหรือบรรดานักวิจารณ์ต่างมองว่าทั้ง แฟร์นันดินโญ และนิโคลัส โอตาเมนดี ยังไม่ใช่คนที่จะมาทดแทนการหายไปของอดีตกองหลังแอธเลติก บิลเบา ได้อย่างไร้รอยต่อ

 

แม้จะยังเหลือ จอห์น สโตนส์ ไว้ให้อุ่นใจในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง แต่หลายครั้งจะเห็นได้ว่าเมื่อใดที่จับคู่กับโอตาเมนดี ผลลัพธ์มักไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่

 

 

ขณะที่ แฟร์นันดินโญ แม้จะมีเซนส์การอ่านเกมที่เก๋าพอตัว แต่เขาก็เคยถูกเผาเครื่องด้วยสปีดบอลของกองหน้าคู่แข่งมาแล้ว และยิ่งบนวัย 34 ปี ก็ยิ่งเป็นปัญหาพอสมควรหากต้องยืนประจำการในตำแหน่งนี้ระยะยาว

 

 

 

 

“การซื้อขายผู้เล่นตอนนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีมอย่างเดียว มีหลายปัจจัยโดยฝ่ายสำคัญคือตัวสโมสร เป็นปกติที่ผมเริ่มฤดูกาลด้วยนักเตะกลุ่มนี้ ผมเชื่อมือพวกเขา และจะจบฤดูกาลไปพร้อมทุกคนก็แค่นั้น” เป๊ป ให้เหตุผลที่ตลาดหน้าหนาวที่ไม่ผ่านมาเรือใบสีฟ้าไม่ได้เปิดตัวแข้งใหม่แม้แต่รายเดียว

 

เคยมีข่าวหลุดออกมาว่า เป๊ป ไม่ค่อยพอใจบอร์ดบริหารของสโมสรเท่าไหร่ในเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ปัญหานี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว คงเหลือแต่ลุ้นให้เมื่อไหร่ ลาปอร์ต จะฟิตสมบูรณ์กลับมาเป็นหัวใจแนวรับให้ทีม

 

เป้าหมายในลีกตอนนี้นายใหญ่เรือใบสีฟ้ายอมรับแล้วว่าคือการรักษาพื้นที่ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้า 

 

อย่างไรก็ตามในรายการที่เหลือทั้งลีกคัพ ที่ตีตั๋วไปเตรียมเล่นรอบชิงกับแอสตัน วิลลา, เอฟเอ คัพ ที่ตอนนี้รอบู๊รอบ 5 รวมถึงบอลถ้วยใบโตยุโรปรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่จะเผชิญหน้าเรอัล มาดริด จากสเปน

 

กวาร์ดิโอลา และลูกทีมคงต้องรีบปรับแก้ข้อบกพร่องนี้โดยเร็ววันเพื่อโอกาสเดินหน้าคว้าความสำเร็จที่ยังมีหวังอยู่ในตอนนี้

 

ภาพ AFP