ไทยจะรักษาแชมป์ สนามที่มีผู้ชมสูงที่สุดของฤดูกาล 3 ปีติดต่อกันได้อย่างแน่นอน
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ“โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2020” โดยมีตัวแทนภาครัฐและเอกชน คณะทำงานจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย และ ผู้สนับสนุนหลัก เข้าร่วมประชุมเตรียมงานกว่า 150 คน ที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อวันที่ 28 ม.ค.
“รองตูน” กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมจัดการแข่งขันมีความคืบหน้าไปด้วยดี ทุกฝ่ายเร่งเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ผลักดันและยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ยั่งยืนตามมาตรฐานสากล การแข่งขันรายการนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศอีกครั้ง หลังจากที่ 2 ปี ที่ผ่านมา ปีแรก ไทยได้รับรางวัลการจัดงานโมโตจีพีที่ดีที่สุด โดยทำสถิติผู้ชมสูงสุดในโลก 2 ปี ติดต่อกัน โดยปี 2019 ยอดผู้ชมงาน สูงสุดกว่า 226,655 คน
สำหรับปีนี้คาดว่าความนิยมจะเพิ่มสูงขึ้น โดยยอมรับว่า มีความยากของงานมากขึ้น เนื่องจากปีนี้ขยับมาแข่งขันเร็วขึ้น มีเวลาเตรียมงานน้อยลง และอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ที่อากาศที่ร้อนขึ้น เป็นโจทย์ให้กับคณะทำงาน ทำงานหนักขึ้น ให้งานในปีนี้ออกมาดีที่สุดและพร้อมที่สุด เพื่อให้ครองใจคนทั่วโลก ซึ่งการเตรียมงานครั้งนี้ เป็นการซักซ้อมความเข้าใจและการเตรียมงานทุกด้านเพื่อต้อนรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตนับแสนคน ไม่ว่าจะเป็นตารางการแข่งขัน, การเตรียมการรองรับอากาศที่ร้อนขึ้น เช่น พัดลมไอน้ำ, เต้นท์, จุดบริการน้ำดื่มที่เพิ่มขึ้น รวมทั้ง แผนผังการเดินรถ, จุดจอดรถ, จุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม, รถรับส่งทั้งภายในและนอกสนาม, จุดพยาบาล โดยนำบทเรียนที่ผ่านมา ปรับสู่มาตรฐานการจัดงานที่สูงสุด เชื่อว่าประเทศไทยจะรักษาแชมป์ สนามที่มีผู้ชมสูงที่สุดของฤดูกาล 3 ปีติดต่อกันได้สำเร็จอย่างแน่นอน
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า ไฮไลท์ปีนี้อยู่ “อเล็กซ์ มาร์เกซ” ที่เข้ามาร่วมทีมกับเรปโซล ฮอนด้า สร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับ มาร์ค มาร์เกซ เป็นนักแข่งพี่น้องคู่แรกที่ลงแข่งในทีมเดียวกันในประวัติศาสตร์โมโตจีพี รวมทั้ง 2 นักแข่งไทย ได้แก่ ก้อง “สมเกียรติ จันทรา” จากเอ.พี.ฮอนด้า ลงแข่งโมโต2เต็มฤดูกาล และ ในการแข่งขันสนามที่ 2 “เขมินทร์ คูโบะ”จากไทยยามาฮ่า ได้รับสิทธิ์ไวด์การ์ด ลงแข่งในฐานะตัวแทนนักบิดของไทย
สำหรับ ภาคความบันเทิงในปีนี้ ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ได้แก่ "ช้าง มิวสิค คอนเน็กชั่น" กับ คอนเสิร์ตศิลปินระดับตำนาน “คาราบาว”, วงร็อคระดับแถวหน้า “สล็อต แมชชีน” และ คอนเสิร์ตสุดมันส์ของแจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก (แจ๊ส ชวนชื่น) รวมถึงศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีแฟนมวยให้ความสนใจแห่ชมกว่า 20,000 คน ในปีนี้ได้ พร้อมยอดมวยดังไทยแห่งยุคมาให้ชมกัน นำโดย รถถัง จิตรเมืองนนท์นอกจากนี้ยังมีโซนกิจกรรม “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ เอ็กซ์โป” ซึ่งจัดเต็มตลอดสุดสัปดาห์ ไปด้วยพาวิลเลียนขนาดยักษ์ ที่นำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจจากภาครัฐและเอกชน,Meet & Greetนักบิดระดับโลกจากค่ายรถจักรยานยนต์ รวมทั้งร้านค้าต่างๆ มากกว่า 100 ร้าน แฟนความเร็วที่สนใจ ซื้อบัตรได้ที่ ร้าน7-Elevenทั่วประเทศ และwww.allticket.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง