พาณิภัค ประเดิมเตะศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่เลบานอน

สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย จัดงานเลี้ยงฉลองชัยให้คณะนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ร้านอาหาร Co Limited ถ.หลังสวน เมื่อค่ำวันที่ 9 ม.ค.โดยมี "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย "เสี่ยบิ๊ก" นายธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมฯ ตลอดจนนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ฝึกสอน เข้าร่วม ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น

"บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่า ในปี 2020 นี้ สมาคมฯ มีงานใหญ่คือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้เราได้โควตา 1 คน คือ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์โลกและมืออันดับ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก.หญิง ซึ่งปีที่แล้วกวาดแชมป์รายการใหญ่มาถึง 6 รายการ 

นอกจากนี้ จอมเตะไทยยังต้องแข่งขันควอลิฟายเพื่อลุ้นคว้าโควตาอีก 3 รุ่น คือ รุ่น 57 กก.หญิง ที่มี "น้องนก" พรรณนภา หาญสุจินต์ แชมป์โลกคนล่าสุด เป็นตัวหลัก, รุ่น 58 กก.ชาย ที่จะต้องคัดเลือกระหว่าง "จูเนียร์" รามณรงค์ เสวกวิหารี กับ "เทม" เทวินทร์ หาญปราบ เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่เพิ่งหายเจ็บหลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว ส่วนอีกรุ่นคือ 68 กก.ชาย ที่จะต้องแข่งขันคัดเลือกเช่นกัน 

ผศ.พิมล กล่าวต่อว่า รายการใหญ่ที่สมาคมฯ จะส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันรายการแรกก็คือ ศึกเทควันโดชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค. ซึ่งจะส่งทีมชุดใหญ่ทั้งประเภทต่อสู้และประเภทท่ารำ โดย "น้องเทนนิส" ก็จะลงเคาะสนิมเป็นรายการแรกของปีนี้ด้วย จากนั้นจะเป็นแมทช์ควอลิฟาย โอลิมปิกเกมส์ 2020 โซนเอเชีย ที่เมืองอู๋ซี ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 10-11 เม.ย. ซึ่งตนตั้งเป้าอยากได้ตั๋วอีก 3 ใบ หรืออย่างน้อยน่าจะได้ 2 ใบ ซึ่งก่อนถึง "โตเกียวเกมส์" สมาคมฯ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อมาดูแลจอมเตะไทยในด้านต่างๆ เป็นพิเศษ โดยมีตนเป็นประธาน เพื่อเสริมจุดแข็งกำจัดจุดอ่อนเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกในโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ โดยเฉพาะ "น้องเทนนิส" ที่จะต้องสมบูรณ์ที่สุด ขณะเดียวกันทาง "โค้ชเช" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอน จะทำการคัดเลือกนักกีฬาชุดลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ส่วนชุดควอลิฟาย โอลิมปิกเกมส์ จะคัดเลือกหลังจากจบศึกชิงแชมป์เอเชีย

"ถือเป็นปีที่มีความสำคัญอย่างมากที่เราทุกคนทั้งผมเอง นักกีฬา โค้ช มีความมุ่งมั่นว่าจะต้องคว้าเหรียญทองให้ได้ ซึ่งนักกีฬาตัวเต็งก็หนีไม่พ้นพาณิภัค ที่เป็นเบอร์ 1 ของโลกในตอนนี้ ที่สำคัญผลงานที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่มีใครสู้ได้ แต่เราก็คงไม่ไปสร้างแรงกดดันให้นักกีฬามากจนเกินไป แต่ต้องให้กำลังใจและเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดทั้งความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ ซึ่งผมเชื่อว่าพาณิภัค จะรับมือกับความกดดันได้ ก่อนลงสนามทุกครั้งผมและโค้ชก็แนะนำให้นักกีฬาลงไปเล่นเหมือนที่ซ้อมมา และตอนแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ผมก็เป็นหนึ่งของฝ่ายจัดการแข่งขันของสหพันธ์เทควันโดโลก จะไปให้กำลังใจถึงขอบสนามในตอนที่น้องๆ ทุกคนลงแข่งขันทุกนัดแน่นอน" " บิ๊กเอ กล่าว

ขณะที่ พาณิภัค กล่าวว่า หลังจากพักไป 2 สัปดาห์ ตอนนี้กลับมาลงฝึกซ้อมเต็มรูปแบบแล้ว โดยจะลงแข่งขันแมทซ์แรกในปีนี้ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่เลบานอน ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ต่อไป ซึ่งตอนนี้ไม่ว่าจะลงสนามรายการใดตนไม่ได้รู้สึกกดดันเลย คิดเพียงว่าการออกอาวุธทุกครั้งจะต้องไม่มีคำว่าเสียดาย อีกอย่างโอลิมปิกเกมส์ 4 ปีมีครั้ง ฉะนั้นจะต้องทำให้เต็มที่ทุกครั้งที่ลงสนาม