ข่าว

'เรือ'ดวล'สิงห์'บิ๊กแมทช์พรีเมียร์ลีกนัดที่ 13

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กลับมาอีกครั้งสำหรับฟุตบอลลีกอาชีพที่เตรียมฟาดแข้งแบบจัดเต็มหลังหมดสัปดาห์ทีมชาติ

 

 

ลีกที่มีแฟนบอลจับตามากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งกำลังเข้มข้นหลัง ลิเวอร์พูล เก็บไปแล้ว 34 แต้มจาก 12 นัดรั้งตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ นำหน้ารองจ่าฝูงอย่าง เลสเตอร์ ซิตี และเชลซี อันดับ 3 อยู่ 8 คะแนน รวมถึงนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่าซึ่งทั้งคู่เพิ่งเจอกันเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และ “หงส์แดง” เป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้ 3-1 อยู่ 9 แต้มเลยทีเดียว

และในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ก็มีบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์อีกครั้ง และส่งผลต่อการลุ้นแชมป์โดยตรง นั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่กำลังฟอร์มระส่ำจะเปิดสนาม อิติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ เชลซี ที่ผลงานดีอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 00.30 น. (เข้าสู่วันที่ 24 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย)

โดยก่อนที่ศึกใหญ่ประจำวีกดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้น ทางทีมข่าว “คม ชัด ลึก” ได้รวบรวมความพร้อมต่างๆ รวมถึงประเด็นน่าสนใจของทั้ง 2 ทีมออกมาเป็นที่เรียบร้อย

 

 

3 แต้มสุดสำคัญของ ‘เรือใบ’

หลังจากการพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล เมื่อสัปดาห์ก่อนนั้นดูเหมือนว่า “เรือใบสีฟ้า” จะมีปัญหาถาโถมตามมามากมายทั้งเรื่องในสนามที่สถานการณ์ป้องกันแชมป์ของพวกเขาที่ดูยากลำบากมากขึ้นหลายเท่า เหตุมีคะแนนน้อยกว่า “หงส์แดง” ที่ยังไม่แพ้ให้กับทีมใดเลยทั้งๆที่เจอกับทีมท็อป 6 ของตารางไปครบแล้วเกือบ 10 แต้ม ขณะที่พวกเขาเองดวลกับทีมท็อป 6 ของตารางไปแค่ 2 ทีมเท่านั้นเป็นเหตุให้ไม่ใช่เรื่องง่ายกับโปรแกรมต่อไปหลังจากนี้

ส่วนเรื่องนอกสนามนั้นมีข่าวลือว่า เปป กวาร์ดิโอลา เฮดโค้ชคนเก่งอาจจะตัดสินใจอำลาทีมหลังจากจบฤดูกาลนี้ เหตุจากความอิ่มตัวกับการคุมทีมในอังกฤษแม้จะมีสัญญาถึงปี 2021 ก็ตาม โดยมี บาเยิร์น มิวนิค และบาร์เซโลนา ให้ความสนใจดึงตัวเขากลับไปคุมทีมอีกครั้ง โดย “เสือใต้” ต้องการให้มาแทนที่ ฮันซี ฟลิค ซึ่งคุมทัพชั่วคราวอยู่ในขณะนี้ ส่วน “เจ้าบุญทุ่ม” ก็มีแนวโน้มที่จะปลด เอร์เนสโต บัลเบร์เด เฮดโค้ชคนปัจจุบันออกจากตำแหน่ง

นอกจากนั้นแล้ว ราฮีม สเตอร์ลิง แนวรุกคนเก่งยังไปสร้างประเด็นในแคมป์ทีมชาติอังกฤษ ด้วยการไปหาเรื่อง โจ โกเมซ กองหลังรุ่นน้องของ ลิเวอร์พูล เพราะเกิดความเข้าใจผิดที่คิดว่าฝ่ายหลังล้อเลียนเจ้าตัวหลังเกมพ่าย “หงส์แดง” 1-3 ซึ่งส่งผลให้เขาถูกดร็อปจากทีม “สิงโตคำราม” ไป 1 นัดเพื่อเป็นการลงโทษ และเกิดเสียงวิจารณ์ในเรื่องนี้อย่างมากมาย ทำให้ผลการแข่งขันนัดนี้ถือว่าสำคัญเป็นอย่างมากต่อเรื่องของความมั่นใจโดยถ้าเก็บชัยได้ เชื่อว่าสถานการณ์ของทีมโดยรวมจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน

'เรือ'ดวล'สิงห์'บิ๊กแมทช์พรีเมียร์ลีกนัดที่ 13

ความพร้อมในเกมสำคัญดังกล่าว แมนเชสเตอร์ ซิตี จะยังไม่มี โอเลกซานเดอร์ ซินเชนโก, ดานิโล, อายเมอริก ลาปอร์กต์, และเลรอย ซาเน ที่ยังบาดเจ็บอยู่ รวมถึง แบร์นาโด ซิลวา ที่ติดโทษแบน 1 เกมหลังจากการที่โพสต์เชิงเหยียดผิว แต่ข่าวดีคือบรรดาผู้เล่นหลัก ทั้ง ดาบิด ซิลบา และเอแดร์ซอน โมราเอส สามารถกลับมาลงสนามได้แล้ว

ขณะที่ผู้เล่นสำคัญรายอื่นๆพร้อมลงสนามไม่ว่าจะเป็น ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นันดินโญ, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง และเซร์คิโอ อเกวโร
 

 

 

กำเนิด‘สิงห์บลูส์’ยุคใหม่

หากจะพูดถึงทีมฟอร์มแรงในศึกพรีเมียร์ลีกนอกจาก ลิเวอร์พูล ขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้น เชลซี ของเทรนเนอร์ แฟรงค์ แลมพาร์ด หลังทำสถิติชนะรวดในลีกมา 6 นัดติดต่อกันแล้ว พร้อมเป็นกุนซือชาวอังกฤษคนแรกในรอบ 7 ปีที่ทำได้นับตั้งแต่ อลัน พาร์ดิว เมื่อปี 2012

โดย “สิงโตน้ำเงินคราม” พัฒนาผลงานตัวเองขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเกมแรกในลีกพวกเขาบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบยับเยิน 0-4 และส่งผลให้ แลมพาร์ด กลายเป็นตัวเต็งที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง

ถึงกระนั้นเทรนเนอร์วัย 41 ปี ได้ปรับแท็คติกให้เข้ากับทีมโดยเน้นการทำเกมบุกแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบอลสั้น หรือบอลยาวที่มีความแม่นยำ รวมไปถึงการเชื่อใจผู้เล่นดาวรุ่งหลายรายให้ขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมชุดนี้ร่วมกับแข้งรุ่นพี่ ไม่ว่าจะเป็น แทมมี อับราฮัม, เมสัน เมาท์, ฟิกาโย โทโมริ และรีซ เจมส์ ซึ่งแข้งเหล่านี้ก็ตอบแทนความไว้ใจด้วยฟอร์มที่โดดเด่น โดยเฉพาะในรายของ อับราฮัม ซึ่งยิงไปแล้ว 10 ประตูจาก 12 เกมในลีก รั้งตำแหน่งรองดาวซัลโวอยู่ในขณะนี้ และเรียกได้ว่าเป็นยุคใหม่ของ “สิงห์บลูส์” อย่างแท้จริง

'เรือ'ดวล'สิงห์'บิ๊กแมทช์พรีเมียร์ลีกนัดที่ 13

ความพร้อมนัดนี้ เชลซี จะยังขาด อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิเด ซัปปาคอสตา, รอสส์ บาร์คลีย์, รูเบน ลอฟตัส ชีค และเคนเนดี ที่ยังบาดเจ็บอยู่ รวมถึงต้องเช็คความฟิตของ คริสเตียน พูลิซิช แนวรุกฟอร์มแรงที่กดไปแล้ว 5 ประตูจาก 3 เกมหลังสุดในลีกว่าจะหายเจ็บสะโพกทันเกมนี้หรือไม่

ทว่าบรรดาแกนหลัก นำทัพโดย เกปา อาร์ริซาบาลากา, เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, จอร์จินโญ, มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล ก็องเต, เมสัน เมาท์, วิลเลียน และแทมมี อับราฮัม ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโคลัส โอตาเมนดี, จอห์น สโตนส์, เบนฌาแมง เมนดี - แฟร์นันดินโญ, เควิน เดอ บรอยน์, อิลกาย กุนโดกัน - แบร์นาโด ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร

เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์ริซาบาลากา - เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, ฟิคาโย โทโมริ, คูร์ท ซูมา, เอแมร์ซอน - เอ็นโกโล ก็องเต, มาเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ- เมสัน เมาท์, วิลเลียน, แทมมี่ อับราฮัม

แม้สถิติการเจอกัน 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ทำได้ดีกว่าชัดเจนด้วยการชนะไปถึง 4 นัด และแพ้เพียง 1 นัด อย่างไรก็ตามในแมตช์นี้ด้วยสถานการณ์ที่กดดัน รวมถึงผลงานที่ยอดเยี่ยมของ เชลซี คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ “เรือใบสีฟ้า” จะคว้า 3 คะแนนมาครองได้เหมือนที่แล้วมาอย่างแน่นอน

โปรแกรมการแข่งขันพรีเมียร์ลีก นัดที่ 13 คู่อื่นๆ

23 พฤศจิกายน

19.30 น.

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบ ทอตแนม ฮอทสเปอร์

22.00 น.

บอร์นมัธ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน

อาร์เซนอล พบ เซาธ์แฮมป์ตัน

ไบร์ทตัน พบ เลสเตอร์ ซิตี

คริสตัล พาเลซ พบ ลิเวอร์พูล

เอฟเวอร์ตัน พบ นอริช ซิตี

วัตฟอร์ด พบ เบิร์นลีย์

24 พฤศจิกายน

23.30 น.

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

25 พฤศจิกายน

03.00 น.

แอสตัน วิลลา พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ