คลอปป์-โซลชา เห็นต่างจังหวะปัญหาแดงเดือด

 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์นัดแดงเดือด เมื่อคืนวันอาทติย์ที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ ลิเวอร์พูล มรโอลด์ แทรฟฟอร์ด รังเหย้าของตัวเอง 1-1 โดยเจ้าถิ่นได้ประตูออกนำก่อน 1-0 จากมาร์คัส แรชฟอร์ด นาที 35 

 

 

 

แต่ก่อนหมดเวลา 5 นาที อดัม ลัลลานา ตัวสำรองมายิงประตูตีเสมอแบ่งแต้มให้หงส์แดงผู้มาเยือนได้สำเร็จ

 

อย่างไรก็ตามหลังจบเกมเกิดข้อพิพาทหนักจากการทำหน้าที่ของ มาร์ติน แอตกินสัน ผู้ตัดสินในสนาม โดยเฉพาะจังหวะที่เกมนี้ปฏิเสธการริบประตูขึ้นนำของฝั่งปีศาจแดง

 

“โอริกี โดนเข้าปะทะชัดเจน ในจังหวะเสี้ยววินาทีนั้นวกเรารู้ว่าเป็นการฟาวล์ชัดเจน แต่ขณะเดียวกันคู่ต่อสู้ก็สบโอกาสเล่นงานเรา”

 

“ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่มองว่าจัวหวะดังกล่าวเป็นการทำฟาวล์ชัดเจนเช่นกัน ส่วนตัวผมเองก็มั่นใจแบบนั้น แต่ มาร์ติน แอตกินสัน กลับปล่อยให้เกมดำเนินต่อ เพราะเขาอาจจะคิดว่า วีเออาร์จะช่วยยืนยันอีกที จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูขึ้นนำ แล้ววีเอออาร์ ก็ตัดสินแบบไม่เคลียร์ เหมือนกับว่าพวกเขาจะไม่เปลี่ยนคำตัดสินหรอก เพราะผู้ตัดสินในสนามตัดสินใจไปแล้ว เห็นได้ชัดว่านี่คือ ปัญหา ถ้าไม่มีเทคโนโลียนี้ ผมมั่นใจว่า แอตกินสัน จะต้องเป่าฟาวล์แน่นอน ”

 

“โอเค วีเออาร์ เป็นเรื่องที่ดีสำหรับการเป่าฟาวล์จังหวะล้ำหน้าหรือแฮนด์บอล แต่กับจังหวะแบบนี้กลับทำได้ไม่ชัดเจนเอาเสียเลย” เจอร์เกน คลอปป์ ร่ายยาวถึงจังหวะดังกล่าว โดยยังคงตำหนิการทำหน้าที่ของเทคโนโลยีช่วยตัดสินที่ดูคลุมเครือและไม่ชัดเจน

 

 

อย่างไรก็ตามทรรศนะทางฝั่ง โอเล กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด สวนทางกับสิ่งที่นายใหญ่หงส์แดง ออกมาความเห็นมาอย่างสิ้นเชิง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ผมคิดว่าผู้ตัดสินควรได้รับคำชม ไม่บ่อยหรอกที่เราจะทำแบบนั้น แต่เขาทำให้มันเป็นเกมดาร์บีแมตช์ มันไม่ใช่ว่าคุณจะไม่สามารถสัมผัสใครได้เลย”

 

“ถามว่าแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ควรได้ประตูในจังหวะนั้น มันไม่ใช่การฟาวล์ รอย คีน ก็คงไม่คิดว่ามันเป็นจังหวะฟาวล์ ตอนนี้เราอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง แต่เรายังต้องพัฒนาขึ้นอีก โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นในเกมเยือน”

 

เวลานี้ ลิเวอร์พูล นำเป็นจ่าฝูง หลังผ่าน 9 นัด มี 25 แต้ม แต่ช่องว่างกับทีม“เรือใบสีฟ้า” อันดับ 2 ลดลงมาเหลือ 6 คะแนน

ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 13 จากการมี 10 แต้ม

 

 

ภาพ AFP