ข่าว

3 แท็คติกผีแดงที่'โซลชา'ควรปรับ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ถือเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ โอเล กุนนาร์ โซลชา

 

 

      หลังพวกเขาออกสตาร์ทซีซั่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยสถิติย่ำแย่ที่สุดในรอบ 30 ปี หลังมีเพียง 9 คะแนนจาก 8 นัด อยู่ในอันดับ 12 ของตาราง พร้อมมีแต้มนำหน้าโซนตกชั้นเพียง 2 คะแนนเท่านั้น

     โดย “ปีศาจแดง” มีปัญหาในทีมให้ขบคิดมากมาย ทั้งการเสียประตูง่ายเกินไปของกองกลัง, กองกลางขับเครื่องเกมไม่ได้ รวมถึงกองหน้าที่มีศักยภาพไม่ดีพอในการผลิตสกอร์ จนทำให้เก้าอี้เฮดโค้ชของ โซลชา ไม่มั่นคงในขณะนี้

      เป็นเหตุให้ล่าสุด “สปอร์ตคีดา” สื่อกีฬาต่างประเทศ ได้วิเคราะห์ถึง 3 จุดที่ โซลชา ควรปรับเปลี่ยนด้านแท็คติก เพื่อทำให้ “เร้ด เดวิลส์” มีผลงานที่ดีขึ้น

3 แท็คติกผีแดงที่'โซลชา'ควรปรับ

 

 

1.ดัน “กรีนวูด” เล่นกองหน้าตัวเป้า

     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาเรื่องการทำประตูเป็นอย่างมากจากสถิติยิงไปเพียง 9 ประตูในฤดูกาลนี้ โดยสาเหตุสำคัญคือการปล่อยตัว โรเมลู ลูกากู กองหน้าตัวหลักไปให้กับ อินเตอร์ มิลาน รวมถึงปล่อยยืม อเล็กซิส ซานเชซ อีกหนึ่งแนวรุกไปให้ “งูใหญ่” เช่นเดียวกัน
     ส่วนดาวยิงที่เหลือทั้ง อองโตนี มาร์กซิยาล และมาร์คัส แรซฟอร์ด ก็ไม่สามารถช่วยทีมได้เท่าที่ควร โดย มาร์กซิยาล ทำผลงานได้ดีทว่าเจ้าตัวกลับมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ซึ่งจากสถิติพบว่าหลังจากที่ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ไม่ได้ลงสนามให้ทีม “ปีศาจแดง” เมื่อปลายเดือน ส.ค. พวกเขายิงได้แค่ 5 ประตูจาก 8 เกม รวมถึงเก็บชัยได้เพียง 2 นัดเท่านั้น (อีก 6 นัด เสมอ 4 แพ้ 2)
     ขณะที่ แรซฟอร์ด ซึ่งถือเป็นหัวหอกอนาคตไกล และก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมในปีนี้ ทว่าแข้งทีมชาติอังกฤษกลับหลุดฟอร์มไปดื้อๆ ทั้งการเลี้ยงบอลที่ดูติดขัด รวมถึงจังหวะยิงที่ไม่เฉียบคมเช่นเดิม
     เป็นเหตุให้ โซลชา ต้องดัน เมสัน กรีนวูด กองหน้าวัย 18 ปีขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในแนวรุก ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีในระดับนึง หลังยิงไป 2 ประตูในทีมชุดใหญ่
     ถึงกระนั้น กรีนวูด กลับไม่ได้เล่นในตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวคือกองหน้าเป้า เพราะ โซลชา โยกดาวเตะผู้นี้ไปเล่นในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีก ซึ่งอาจส่งผลให้เจ้าตัวเรียกศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่
      โดย กรีนวูด มีจุดเด่นเรื่องการยิงประตูที่เฉียบคม รวมถึงการหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษ ดังนั้นการเล่นเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าน่าจะตอบโจทย์กับเจ้าตัวที่สุด และให้ แรซฟอร์ด กลับมาเล่นเป็นกองหน้ากึ่งปีกเหมือนในซีซั่นที่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์ควรปรับในช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรจะเสียเช่นนี้ และอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้แนวรุกของทีมพัฒนาขึ้นก็เป็นได้

3 แท็คติกผีแดงที่'โซลชา'ควรปรับ

 

 

2.ติวฟูลแบ็ค 2 ข้างดันเกมรุก
     ถือเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่เป็นปัญหาของ “ปีศาจแดง” อย่างมากในขณะนี้ แม้จะได้ตัว อารอน วาน-บิสซากา แบ็คขวาอนาคตไกลจาก คริสตัล พาเลซ มาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทว่า “ฟูลแบ็ค” ซึ่งปัจจุบันถือเป็นตำแหน่งสำคัญของฟุตบอลในยุคปัจจุบันเพราะมีส่วนทั้งเกมรุก และเกมรับ กลับยังเป็นจุดอ่อนของทีมอยู่ดี
     โดยเฉพาะในตำแหน่งแบ็คซ้ายหลัง ลุค ชอว์ แข้งตัวจริงในตำแหน่งดังกล่าวได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง จนต้องใช้ แอชลีย์ ยัง มาเล่นแทน
ถึงแม้ว่า ยัง ซึ่งถือเป็นผู้เล่นสารพัดประโยชน์ จะลงประจำการเป็นฟูลแบ็คกฝั่งซ้ายได้ แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวแต่อย่างใด ส่งผลให้ทำผลงานออกมาได้ไม่ดีนัก ทั้งเรื่องของการดวลกับแนวรุกฝั่งตรงข้ามที่เขามักจะเสียเปรียบเสมอ รวมถึงการจ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษที่แทบจะไม่เข้าเป้า
      ส่วนอีกปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในตำแหน่งแบ็คของ “เร้ด เดวิลส์” คือการไม่ค่อยเติมเกมรุกเท่าที่ควร ทำให้การสร้างโอกาสทำประตูของทีมน้อยลง ซึ่ง โซลชา ควรติวเข้มลูกทีมในจังหวะการ “โอเวอร์แล็ป” หรือวิ่งตัดหลังแนวรับคู่แข่ง เพื่อทำให้เกมรุกหลากหลาย พร้อมเป็นการเปิดช่องกองหลังคู่แข่งให้ปีก หรือกองหน้ามีจังหวะทำประตูมากขึ้นอีกด้วย

3 แท็คติกผีแดงที่'โซลชา'ควรปรับ

3.สร้างความยืดหยุ่นในแผงมิดฟิลด์
    สำหรับแผงมิดฟิลด์ เป็นปัญหาเรื้อรังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน หลัง ปอล ป็อกบา ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสที่ถือเป็นแกนกลางคนสำคัญ มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ไม่ค่อยได้ลงสนามช่วยทีมเท่าที่ควร
     นอกจากนั้นเวลาที่แข้งวัย 26 ปีได้ลงสนามในยุคของ โซลชา เจ้าตัวไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัด นั่นก็คือ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม เหมือนสมัยที่ค้าแข้งกับ ยูเวนตุส แต่กลับถูกถอยไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง กึ่งเกมรับแทน ซึ่งส่งผลให้ ป็อกบา เรียกฟอร์มของตัวเองได้ไม่เต็มที่
      ขณะที่กองกลางรายอื่นๆ ทั้ง เนมานยา มาติช, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และเฟร็ด ต่างมีสไตล์คล้ายกัน คือห้องเครื่องตัวตัดเกม ซึ่งไม่ถนัดในการเล่นเกมรุก ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องกองกลางไม่สามารถปั้นเกมให้กองหน้าผลิตสกอร์ได้

       ทำให้เทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์ควรปรับให้ ป็อกบา กลับไปเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์เพื่อเล่นเกมรุกแบบเต็มสูบ และให้อิสระกับเขาในการเคลื่อนที่ และสร้างสรรค์เกมอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้เล่นเกมรุกมากกว่าเดิม ส่วนเกมรับนั้นให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของกองกลางรายอื่นๆแบบเต็มตัว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความสมดุลมากขึ้นในแผงมิดฟิลด์ของ “ปีศาจแดง”

3 แท็คติกผีแดงที่'โซลชา'ควรปรับ

       และทั้งหมดนี้คือ 3 จุดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดควรเปลี่ยนแปลงในเรื่องของแท็คติก เพื่อผลักดันให้ทีมมีผลงานโดยรวมที่ดีกว่านี้ และขึ้นมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ