ช้างศึก ชน จิงโจ้-อิรัก ศึกยู 23 เอเชีย

สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) จัดพิธีจับสลากแบ่งกลุ่มรอบสุดท้าย ศึกฟุตบอลชิงเเชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด รัชดา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 กันยายน นำโดย ดร. ตรัน ควอค ตวน สมาชิกคณะกรรมการบริหาร และประธานคณะกรรมการ จัดการแข่งขัน สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย พร้อมด้วย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ นักเตะทีมชาติไทย

ศึกฟุตบอลชิงเเชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ วันที่ 8-26 มกราคม 2563 ซึ่งจะทีม อันดับ 1-3 ของรายการ จะได้โควต้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  (อันดับ 4 จะได้เข้าร่วมด้วย หากกรณีที่ญี่ปุ่นเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ)

ผลการจับสลาก รอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้ง 4 กลุ่ม ปรากฏว่า กลุ่ม เอ ไทย, อิรัก, ออสเตรเลีย, บาห์เรน, กลุ่ม บี กาตาร์,ญี่ปุ่น, ซาอุดิอาระเบีย, ซีเรีย, กลุ่ม ซี อุซเบกิสถาน (แชมป์เก่า),เกาหลีใต้, จีน ,อิหร่าน, กลุ่ม ดี เวียดนาม,เกาหลีเหนือ, จอร์แดน, สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 

โปรแกรมการแข่งขันของ ทีมชาติไทย เตะเปิดสนาม วันที่ 8 ม.ค.พบ บาห์เรน เวลา 20.15 น., วันที่ 11 พบ อิรัก เวลา 20.15 น.และ วันที่ 14 ม.ค.พบ ออสเตรเลีย เวลา 20.15 น. ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ทั้ง 3 นัด

สำหรับสังเวียนที่จะใช้จัดการแข่งขัน กำหนด 4 สนามได้แก่ ราชมังคลากีฬาสถาน ความจุ 49,722 คน, สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต  ความจุ 25,000 คน, ช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์  ความจุ 32,600 คน และ สนามกีฬาติณสูลานนท์ จ.สงขลา  ความจุ 45,000 คน