รวมทุกประเด็นร้อนพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 6

 

 

 

พลิกล็อกโปเชตติโน

 

เกมที่คิงเพาเวอร์ สตเดียม นอกจากความชอกช้ำของทอตแนม ฮอตสเปอร์ แล้วนั้น

 

ประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากก็หนีไม่พ้นเทคโนโลยีแห่งความเที่ยงตรงอย่างวีเออาร์ ที่นัดนี้ปฏิเสธการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายถึง 2 หน

 

 

 

 

จังหวะแรกจากลูกชุลมุน วิลเฟรด เอ็นดีดี ตามซ้ำลูกยิงจ่อๆ ของ อโยเซ เปเรซ เข้าไป แต่ผู้ตัดสินย้อนดูวีเออาร์ เปเรซ อยู่ตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อนทำให้โดนริบประตูคืน

 

หากยึดวาทะของ โชเซ มูรินโญ กุนซือโปรตุกีสคนดัง หากคุณไม่ใช่โจรคุณก็ไม่ต้องกลัวกล้องวงจรปิด

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามจังหวะที่สองซึ่งกลายเป็นข้อถกเถียงวงกว้างเพราะเป็นการล้ำหน้าระดับมิลลิเมตร

 

จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่สเปอร์ส ทีมเยือนนำอยู่ 1-0 และเกือบจะเปลี่ยนเป็นนำห่างสองลูกในนาทีที่ 65 เมื่อ แซร์จ ออริเย ส่งบอลไปกองก้นตาข่ายแต่มีสัญญาณวีเออาร์ชี้ชัดว่าจังหวะก่อนหน้า ซน เฮือง มิน ล้ำหน้าไปก่อน

 

จากภาพช้าผู้บรรยายอังกฤษหล่นวาทะเป็นการออฟไซด์แค่มิลลิเมตรเท่านั้น

 

สุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมาลูกทีมเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยิงแซงสองลูกรวดกลับมาเก็บชัย 2-1 พร้อมยัดเยียดความปราชัยหนที่ 2 หลังเปิดฤดูกาลมาได้ 6 นัดให้แก่ “ไก่เดือยทอง” โดยเวลานี้ทีมของโปเชตติโน รั้งอยู่อันดับ 7 ส่วนเลสเตอร์ ผลงานร้อนแรงต่อเนื่องขึ้นมาเกาะที่ 3 ของตาราง ผ่าน 6 นัด เก็บไปแล้ว 11 แต้ม

 

 

 

5 ลูก 18 นาที

ฝันร้ายของแตนอาละวาด

 

 

 

5 ประตูหลังเวลาผ่านไปเพียง 18 นาที นี่คือคำโปรยหัวของบีบีซี สื่่ออังกฤษ หลังจบเกมที่อิติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งลูกทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยำใหญ่ผู้มาเยือน วัตฟอร์ด ถล่มทลายที่สุดเป็นประวัติศาสตร์สโมสร “เรือใบสีฟ้า” ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 8-0

 

ผลลัพธ์ดังกล่าวแทบจะทำให้รายชื่อคนยิงประตูถูกลืมไปทันทีเหลือไว้เพียงนี่เป็นครั้งแรกที่ แบร์นาโด ซิลวา กดแฮตทริกแรกในลีกสูงสุดและการยิงประตูเร็วสุดในซีซั่นนี้ 52 วินาที ของดาบิด ซิลบา

 

ขณะที่การยิง 5 ประตูของแมนฯ ซิตี คือสถิติกดห้าตุงเร็วสุดในพรีเมีรย์ลีก ส่วนวัตฟอร์ด นี่คือหนที่ 3 ที่ “แตนอาละวาด” โดนฝ่ายตรงข้ามกะซวกไป 8 ประตู (นับเฉพาะ 4 ลีกสูสุดอังกฤษ) ถัดจากเกมแพ้ อเบอร์แดร์ แอธเลติก มกราคม 1926 และแพ้ คริสตัล พาเลซ 1-8 กันยายน 1959

สถิติยิงกันถล่มทลายที่สุดในพรีเมียร์ลีกเป็นเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่อัด อิปสวิช ทาวน์ 9-0 ปี 1995

 

 

 

เรื่องของโซลชา

 

 

 

"เดอะ การ์เดียน" สื่ออีกเจ้าเมืองผู้ดีพาดหัวหลังจบเกมที่ลอนดอน สเตเดี้ยม ไว้ว่า ทีม “ขุนค้อน” สยบ “ปีศาจแดง” ที่ไร้เขี้ยวเล็บ 2-0

 

“เกมนี้คุณภาพเราดีกว่า นอกจากนั้นเรายังเหนียวแน่นและสม่ำเสมอมากกว่าด้วยเช่นกัน” มานูเอล เปเยกรินี ผู้จัดการทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด กล่าวหลังจบเกม โดยกุนซือชิลีถูกบันทึกเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่เอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทั้ง 4 ยุคกุนซือ ไล่ตั้งแต่ เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ มูรินโญ กระทั่งมาถึงคนปัจจุบัน โอเล กุนนาร์ โซลชา

 

หากใครคิดว่าบทสัมภาษณ์หลังเกมนายใหญ่เวสต์แฮมดูเกินเลยไป อาจเปลี่ยนความคิดทันทีเมื่อได้เห็นสถิติเที่ยวล่าสุดของแมนฯ ยูไนเต็ด ในยุค โซลชา

 

- โซลชา ไม่สามารถเก็บชัยในฐานะเกมเยือนได้เลยตลอด 9 นัดหลังสุดนับรวมทุกรายการ (เสมอ 6 แพ้ 3) โดยหนสุดท้ายที่คว้าสามแต้มในฐานะผู้มาเยือนคือเกมบุกสอย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นก่อน เมื่อวันที่ 6 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

- แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บคลีนชีตไม่ได้เลยในฐานะทีมเยือน 11 เกมที่ผ่านมาทุกรายการนับตั้งแต่เสีย 14 ประตูติดต่อกันระหว่างเมษายนถึงธันวาคม 2002

 

- แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ 7 จาก 15 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 4 เสมอ 4 และแพ้ 7 นัด) โดยจำนวนนัดที่แพ้เท่ากับสถิติ 40 เกมก่อนหน้านี้จากการลงเล่นทุกรายการ ชนะ 25 เสมอ 8 และแพ้ 7 เกม

 

เกมนี้หลายคนน่าจะจดจำฟรีคิกงามหยดเป็นประตูปิดกล่องของ อารอน เครสส์เวลล์ แบ็กซ้ายวัย 29 ปี ของทีม “ขุนค้อน” ได้ดี แต่ในทางตรงกันข้ามการที่เซตพีซสุดเฉียบของฟูลแบ็กซึ่งเกิดที่ลิเวอร์พูลเข้าไปซุกก้นตาข่ายหนนี้ยังทำให้ ดาบิด เด เคอา นายประตูที่เพิ่งจรดปากกาสัญญาฉบับใหม่ขึ้นแท่นเป็นนายด่านที่เสียประตูจากฟรีคิกโดยตรงมากที่สุด 12 ลูก นับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2011-12

 

ขณะเดียวกันการที่แนวรุกของปีศาจแดงไม่สามารถทะลวงตาข่ายทีมขุนค้อนได้ในเกมนี้ยังส่งให้ตัวแทนจากกรุงลอนดอนทำสถิติไม่เสียประตู 3 นัดติดต่อกันในลีกได้สำเร็จ โดยหนสุดท้ายเกิดขึ้นในเดือนธันวามคม 2017 ตอนที่นายใหญ่ของพวกเขายังชื่อ เดวิด มอยส์

 

 

 

ควันหลงบิ๊กแมทช์หงส์สอยสิงห์

 

ชัยชนะในเกมล่าสุดที่บุกมาควัก 3 แต้ม ถึงถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-1 ของลิเวอร์พูล ทำให้ทีมหงส์แดงจ่าฝูงรักษาระยะห่างช่องว่าง 5 คะแนน กับแมนฯ ซิตี อันดับ 2 ไว้เท่าเดิม

 

อย่างไรก็ตามประเด็นบิ๊กแมทช์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีตัวเลขน่าสนใจไม่น้อยโดยเฉพาะการที่ทีมของเจอร์เกน คลอปป์ บุกมากำชัยจากการเล่นลูกเซตพีซทั้งสองประตู

 

 

 

ประตูขึ้นนำ 1-0 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนล วิ่งเข้ามาตะบันระยะ 20 หลาจากการเล่นลูกฟรีคิกสองจังหวะเข้าไปเป็นประตูแรกในซีซั่นนี้ของฟูลแบ็กดาวรุ่ง ก่อนที่ โรแบร์โต ฟีร์มิโน จะมาโขกประตูหนีห่างจากจังหวะเปิดบอลเข้ามาของแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากลูกฟรีคิกเช่นเดียวกัน ทำให้เวลานี้นับตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่น 2018-19 ลิเวอร์พูล ทำประตูได้จากการเล่นลูกเซตพีซไปแล้วทั้งสิ้น 34 ลูก ในพรีเมียร์ลีก มากกว่าทุกทีมถึง 7 ประตูในช่วงเวลาเดียวกัน

 

นอกจากนี้เกมล่าสุดยังเป็นการคุมทีมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 150 ของคลอปป์ โดยเป็นการเก็บชัยไป 92 นัด สูงสุดในบรรดากุนซือหงส์แดง (เคนนี ดัลกลิช อันดับ 2 จำนวน 87 นัด) มีแค่ มูรินโญ เท่านั้นที่ดีกว่าในจำนวน 150 นัด ที่กุนซือโปรตุกีสคว้าชัยไป 105 เกม

 

ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล ที่เดินหน้าเก็บชัย 100% เต็มตั้งแต่เปิดฤดูกาล ทำให้หากนับรวมเวลานี้ คลอปป์ พาทีมเก็บชัยมาแล้ว 15 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกและมีลุ้นเดินหน้าทุบสถิติเก็บชัยติดต่อกันยาวนานที่สุดของแมนฯ ซิตี ที่ทำไว้ 18 เกม

 

 

 

 

อีกคู่ของกลุ่มบิ๊ก 6 อาร์เซนอล ซึ่งเหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกพลิกนรกกลับมาแซงชนะ แอสตัน วิลลา สุดระทึก 3-2 โดยฮีโร่ยังเป็นพระเอกหน้าเดิม ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ที่เวลานี้พังตาข่ายไปแล้ว 16 ลูก จาก 16 นัด นับรวมทุกรายการ พร้อมส่งให้ทีมของ อูไน เอเมรี ขึ้นไปเกาะกลุ่มท็อปโฟร์ได้สำเร็จ

 

 

 

 

ภาพ AFP

เรียบเรียง : พชร นาคจู

ที่มา : https://www.bbc.com/sport/football/49698428
https://www.bbc.com/sport/football/49698432
https://www.theguardian.com/football/2019/sep/22/west-ham-manchester-united-premier-league-match-report
https://www.bbc.com/sport/football/49705145
https://www.bbc.com/sport/football/49705147
https://www.bbc.com/sport/football/49705154