ผุด สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ชลบุรี

ตามที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เสนอที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2034 โดยมี นายปัญญา หาญลำยวง รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเกี่ยวกับประเด็นที่ไทยมีแนวคิดสร้างสนามกีฬาระดับชาติเพราะปัจจุบันไทยไม่มีสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ความจุ 80,000 ที่นั่ง โดย กกท. เสนอว่า เตรียมที่จะสร้างสนามกีฬาระดับชาติแห่งใหม่เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬายูธ โอลิมปิกเกมส์ ปี 2026 อยู่แล้วจึงเตรียมที่จะนำแผนสร้างสนามฟุตบอลขนาดใหญ่มาบูรณาการร่วมกันนั้น

 "บิ๊กก้อง" ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ศึกษาพื้นที่โครงสร้างทางภูมิศาสตร์อย่างละเอียดแล้วพบว่า มีโอกาสสูงที่ กกท.เตรียมจะผลักดันให้ประเทศไทยดำเนินการก่อสร้างสนามกีฬาครบวงจร หรือ สปอร์ตคอมเพล็กซ์แห่งใหม่ เนื่องจากว่า เดิมทีเรามีแผนที่จะนำสนามกีฬา กกท.หัวหมาก ปรับโฉมยกระดับใหม่แต่เมื่อลงลึกไปในรายละเอียดแล้วพบว่า ติดขัดปัญหาหลายด้านเพราะสถานที่ในสนามกีฬาหัวหมากปัจจุบันค่อนข้างแออัดอยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องหาสถานที่ใหม่ และ กกท. ล็อกเป้าไปที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ เนื้อที่ 371 ไร่ มีความเหมาะสมด้านภูมิศาสตร์ในการก่อสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์แห่งใหม่มากที่สุดเพราะจะเชื่อมโยงกับการพัฒนากีฬาทางน้ำ ด้วย

ขณะที่อีกสถานที่ที่เสนอตัวเข้ามาให้ กกท.พิจารณาคือ จ.กระบี่ ตรงนั้นมีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ ดร.ก้องศักด กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม กกท.มองว่า สถานที่เหมาะสมที่สุดคือ ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งปัจจุบันได้นำเสนอผ่านความเห็นชอบเบื้องต้นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเรียบร้อยแล้ว โดยสปอร์ตคอมเพล็กซ์ดังกล่าว ยังไม่ได้กำหนดกรอบวงเงินทั้งหมดในการก่อสร้างว่าจะไปจบที่ตัวเลขเท่าไหร่ แต่เราจะทำให้ดีที่สุด มีสเตเดียม ฟุตบอลความจุ 80,000 ที่นั่ง  เช่นเดียวกับ จะมีสระว่ายน้ำ, สระกระโดด, สนามรักบี้, ยิงปืนรณยุทธ ฯลฯ  

"ผมอยากให้สนามที่เรากำลังจะสร้างเป็นการบูรณาการเตรียมจัดยูธโอลิมปิก 2026 ต่อเนื่องด้วยรองรับแผนจับมือกับชาติอาเซียนขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 รูปแบบการก่อสร้างจะผูกพันปีงบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งเราต้องเริ่มดำเนินการอย่างเร็วที่สุด"

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เรื่องสนาม และที่พักสำหรับชาติที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กำหนดภายใต้กรอบแข่งขัน 48 ทีมนั้น อนุญาตให้มีประเทศเจ้าภาพร่วมได้มากที่สุด 4 ประเทศ สนามแข่งขันต้องมีอย่างน้อย 12 สนาม (ตัวเลือก 14-16 สนาม) ความจุ 40,000-80,000 ที่นั่ง การอำนวยความสะดวกทีม และผู้ตัดสินจะต้องมีโรงแรม 4-5 ดาวเท่านั้นอย่างน้อย 48 แห่ง (ตัวเลือก 72 แห่ง) โดยฟีฟ่า จะพิจารณาความพร้อมของประเทศที่ยื่นบิดเจ้าภาพโดยให้ความสำคัญเรื่องสนามแข่งขัน 35 % ที่เหลือจะเป็นองค์ประกอบด้านอื่นๆ