ข่าว

จับตา 4 ดีลใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในเดือน ก.ค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจากที่ศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติในทวีปต่างๆผ่านพ้นไป ก็ถึงช่วงเวลาของฟุตบอลสโมสรที่เตรียมกลับมาลงแข่งขันในซีซั่น 2019-20 อีกครั้ง

     โดยขณะนี้แต่ละทีมกำลังอยู่ในช่วงปรีซีซั่น เพื่อเรียกความฟิตนักเตะ และลองแท็คติกต่างๆ ทว่าอีกหนึ่งประเด็นที่แฟนๆลูกหนังให้ความสนใจ นั่นก็คือ ตลาดซื้อ-ขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งดูคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากมีข่าวว่าผู้เล่นบิ๊กเนมหลายรายสื่อย้ายทีมด้วยจำนวนค่าตัวมหาศาล เป็นเหตุให้ล่าสุด “สปอร์ตคีดา” สื่อกีฬาของอินเดีย ได้คัด 4 ดีลใหญ่ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งอาจกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกหนัง

โรเมลู ลูกากู จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป อินเตอร์ มิลาน

     สำหรับ “ปีศาจแดง” ทุ่มเงินกว่า 75 ล้านปอนด์ (ราว 2.82 พันล้านบาท) เพื่อดึงตัวหวังหอกรายนี้มาจาก เอฟเวอร์ตัน เมื่อปี 2017 ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในซีซั่นแรกกับต้นสังกัดใหม่ หลังทำไปถึง 27 ประตู
     อย่างไรก็ตามในฤดูกาลที่ 2 ดาวเตะวัย 26 ปี เริ่มมีปัญหาเรื่องผลงานที่ตกลงไปอย่างน่าใจหาย รวมถึงการปรับตัวเข้ากับแท็คติกของทีมหลัง ชูเซ มูรินโญ โยกตำแหน่งของเจ้าตัวจากหัวหอกตัวเป้าไปเล่นเป็นกองหน้าตัวริมเส้น ซึ่งเขาไม่ถนัดแต่อย่างใด จนกระทั่ง โอเล กุนนาร์ โซลชา เข้ามาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ถึงเริ่มกลับมามีผลงานกระเตื้องอีกครั้ง แต่การยิง 13 ประตูก็ยังถือว่าน้อยไปสำหรับผู้เล่นค่าตัวมหาศาลขนาดนี้
    หลังจากโดนวิจารณ์อย่างหนัก เป็นเหตุให้ ลูกากู แสดงท่าที่อย่างชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมี อินเตอร์ มิลาน บิ๊กทีมแห่งศึกกัลโช เซเรีย อา เป็นเป้าหมายต่อไป ซึ่งทาง อันโตนิโอ คอนเต กุนซือป้ายแดงของ “งูใหญ่” ก็หวังเซ็นสัญญากับดาวเตะทีมชาติเบลเยียมเช่นกัน
     โดยมีรายงานว่า ลูกากู สามารถบรรลุข้อตกลงส่วนตัวกับ “เนรัซซูรี” เป็นที่เรียบร้อย แต่ติดปัญหาอยู่ที่ “เรด เดวิลส์” ต้องการค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ซึ่งเท่ากับตอนที่ซื้อมา โดยทาง อินเตอร์ มิลาน ก็พร้อมจะจ่าย แต่ไม่อยากจ่ายเป็นเงินก้อนเดียว เพราะก็ต้องระมัดระวังเรื่องงบประมาณของทีมเช่นกัน ดังนั้นจึงอยากจะแบ่งจ่ายสัก 2 หรือ 3 งวดแทน โดยถ้าเจรจากันลงตัว ก็อาจทำให้เกิดอีกหนึ่งบิ๊กดีลเกิดขึ้นในเร็วๆนี้

จับตา 4 ดีลใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในเดือน ก.ค.
 

ปอล ปอกบา  จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป เรอัล มาดริด

     เมื่อปี 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ทุ่มเงินกว่า 89 ล้านปอนด์ (ราว 3.34 พันล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสถิติโลกในเวลานั้น ในการดึงตัว ปอล ปอกบา อดีตเด็กปั้นของทีมตัวจาก ยูเวนตุส มาร่วมทีม ถึงกระนั้นเจ้าตัวกลับถูกมองว่าทำผลงานได้ไม่น่ชประทับใจในการย้ายกลับมาสู่ถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเทียบกับค่าตัว
     ส่งผลให้มีกระแสข่าวลืออย่างหนักว่ามิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส อยากย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังแสดงความเป็นมือาชีพด้วยการไปร่วมทัวร์ปรีซีซั่นกับทีม
     โดย ซีเนอดีน ซีดาน เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด เคยระบุว่า ปอกบา คือผู้เล่นพรสวรรค์สูงที่ตนเองอยากร่วมงานด้วย อย่างไรก็ตาม โอเล กุนนาร์ โซลชา เฮดโค้ช “ปีศาจแดง” ก็ออกมายืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นที่ทีมจะขาย ปอกบา ออกไปแต่อย่างใด และเขาคือผู้เล่นคนสำคัญ
    โดยสื่อต่างประเทศ รายงานว่า ทางเดียวที่จะทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนใจขาย ปอกบา นั่นก็คือการได้ข้อเสนอไม่ต่ำกว่า 150 ล้านปอนด์ (ราว 5.64 พันล้านบาท) แต่การที่ “ราชันชุดขาว” ใช้งบเสริมทีมในรอบนี้ไปแล้วกว่า 300 ล้านปอนด์ (ราว 1.12 หมื่นล้านบาท) ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดีลดัลกล่าวจะเกิดขึ้นหากไม่มีการเจรจาเพื่อต่อรองกันอีกรอบ

จับตา 4 ดีลใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในเดือน ก.ค.

ฟิลิปเป คูตินโญ จาก บาร์เซโลนา ไป ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

    ตกเป็นข่าวเรื่องการย้ายทีมมาอย่างยาวนานสำหรับมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลรายนี้ หลังเจ้าตัวไม่สามารถปรับตัวกับ “เจ้าบุญทุ่ม” ซึ่งถือว่าเป็นต้นสังกัดในฝันได้
    โดย คูตินโญ ย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปอยู่กับ บาร์ซา เมื่อปี 2018 ท่ามกลางความโกรธแค้นของแฟนๆ “เดอะ ค็อป” เนื่องจากเจ้าตัวกระทำการหลายอย่างเพื่อหวังจะย้ายทีมให้ได้ เช่น อ้างว่ามีปัญหาเจ็บหลังจนไม่ได้ลงสนามช่วยทีม แต่กลับไปเล่นให้กับทีม “แซมบา” ได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึงขอขึ้นบัญชีย้ายทีมทันที่เมื่อ ลิเวอร์พูล ออกมาประกาศว่าจะไม่ขายตนเองออกจากทีม
    ทว่าตลอด 1 ปีครึ่งที่ดาวเตะวัย 27 ปี อยู่ในถิ่น คัมป์ นู คูตินโญ กลับไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ หลังทำไปเพียง 20 ประตู จากการลงสนาม 51 เกม จนไม่ใช่ตัวเลือกแรกในแผงเกมรุกที่ เอร์เนสโต บัลเบร์เด กุนซือ “อาซูลกรานา” เลือกใช้งานเคียงข้างกับ หลุยส์ซัวเรซ และลีโอเนล เมสซี
    นอกจากนั้นสถานการณ์ในทีมของ คูตินโญ กับ บาร์เซโลนา ก็ยิ่งย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่อ อองตวน กรีซมันน์ แนวรุกทีมชาติฝรั่งเศส เพิ่งย้ายมาอยู่กับทีมแชมป์ลาลีกา สมัยล่าสุด เป็นเหตุให้มีข่าวว่า อดีตดาวเตะ อินเตอร์ มิลาน หวังจะย้ายทีมในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ ซึ่งก็มีหลายสโมสรดังให้ความสนใจ ทั้งปารีส แซงต์ แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล
    โดยทีมที่มีข่าวกับพวกเขามากที่สุด คือ เปแอสเช ที่อาจจะเสีย เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์คนสำคัญไปให้กับ บาร์เซโลนา แต่ก็ยังไม่มีการเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องดูว่า ดาวเตะค่าตัวสถิติโลกจะย้ายทีมหรือไม่ ซึ่งหากดีลนี้เกิดขึ้น เชื่อว่า เปแอสเช จะมีงบเพิ่มเติมเพื่อเซ็นสัญญากับ คูตินโญ ที่คาดว่าจะมีค่าตัวประมาน 91.4 ล้านปอนด์ (ราว 3.43 พันล้านบาท) ต่อไป

จับตา 4 ดีลใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในเดือน ก.ค.

เนย์มาร์ จาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไป บาร์เซโลนา

    หัวหอกทีมชาติบราซิลรายนี้ กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังตัดสินใจย้ายจาก บาร์เซโลนา มาอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมงด้วยค่าตัว 193.4 ล้านปอนด์ (ราว 7.27 พันล้านบาท) เมื่อปี 2017 ซึ่งเจ้าตัวถูกคาดหวังจากแฟนๆของ เปแอสเช อย่างมากว่าจะเป็นผู้นำในการพาทีมประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
     ถึงกระนั้นการค้าแข้งของ เนย์มาร์ ในแดนน้ำหอมกลับไม่ราบรื่น เนื่องจากเจ้าตัวเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีกระแสข่าวว่าเขามีปัญหากับเพื่อนร่วมทีม เช่น เอดินสัน คาวานี กองหน้ารุ่นพี่ รวมถึง โธมัส ทูเคิล ผู้จัดการทีมอีกด้วย
     เป็นเหตุให้แข้งวัย 27 ปี ไม่มีความสุขในการค้าแข้งกับ เปแอสเช อีกต่อไป และต้องการย้ายทีมโดยมี เรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา ให้ความสนใจ ทว่าเจ้าตัวอยากกลับไปอยู่กับ “เจ้าบุญทุ่ม” อดีตต้นสังกัดเก่ามากกว่า
และเรื่องดังกล่าวก็ดูมีความเป็นไปได้มากขึ้นเมื่อ เนย์มาร์ ไม่ยอมกลับไปร่วมซ้อมในช่วงปรีซีซั่นกับทีมตามเวลาที่กำหนด โดยอ้างว่าติดภารกิจที่บราซิล ทำให้ทีมแชมป์ลีกเอิง สมัยล่าสุดไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่ง เลโอนาร์โด ผู้อำนวยการด้านกีฬาของทีม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "เนย์มาร์ สามารถย้ายออกจาก เปเอสเช ได้ถ้ามีข้อเสนอที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย แต่จนถึงตอนนี้เรายังไม่ได้รับข้อเสนอนั้น และทั้งหมดนี่ไม่ได้ดำเนินการสำเร็จภายในหนึ่งวันแน่นอน"
    ถึงกระนั้นปัญหาสำคัญของดีลดังกล่าวคือเรื่องของค่าตัวที่ เปแอสเช ต้องการไม่ต่ำกว่า 193.4 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นราคาที่พวกเขาซื้อมาจาก“เจ้าบุญทุ่ม” ทว่า บาร์ซา ไม่พร้อมที่จะจ่ายเนื่องจากอาจโดนกฏไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ หรือการทำผิดกฎการเงินเล่นงาน อย่างไรก็ตามหากทั้ง 2 ทีมเจรจากันได้จะถือเป็นซูเปอร์ดีลในตลาดรอบนี้ รวมถึงเป็นอีกหนึ่งดีลในประวัติศาสตร์ลูกหนังโลกอย่างแน่นอน

จับตา 4 ดีลใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในเดือน ก.ค.

     ทั้งหมดนี้คือ 4 บิ๊กดีลที่อาจจะเกิดขึ้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งต้องมาติดตามกันต่อไปว่าจะมีการซื้อ-ขายแข้งคนใดที่จะประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวกันบ้าง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ