คงปฏิเสธไม่ได้ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี คือทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในเกาะอังกฤษปัจจุบัน
ด้วยศักยภาพของนักเตะที่เต็มไปด้วยแข้งซูเปอร์สตาร์ในทุกตำแหน่ง, กึ๋นของผู้จัดการทีม รวมถึงความสำเร็จที่การันตีอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซีซั่นที่แล้วซึ่งพวกเขาทำสถิติเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์แดนผู้ดีที่กวาด 3 แชมป์ในประเทศมาครองได้ ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ และคาราบาว คัพ ในฤดูกาลเดียว
ถึงกระนั้นพวกเขายังมีสิ่งที่ต้องการแก้ไขอยู่ คือ การลงเล่นในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของสโมสร ที่ถึงแม้ว่า “เรือใบสีฟ้า” จะไร้เทียมทานกับฟอร์มในประเทศเพียงใด แต่พอไปลุยในเวทียุโรปกลับไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด
โดยในฤดูกาลที่แล้ว แมนฯซิตี เสริมทัพผู้เล่นบิ๊กเนมเพียงรายเดียว คือ ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวเก่งของ เลสเตอร์ ซิตี ทว่าจากการที่พวกเขาต้องเล่นถึง 4 รายการในฤดูกาลหน้า ทำให้นักเตะที่มีในขณะนี้อาจจะยังไม่เพียงพอในการป้องกัน 3 แชมป์ในประเทศ รวมถึงไปลุยฟุตบอลยูซีแอล เนื่องจากคู่แข่งสำคัญ อย่าง ลิเวอร์พูล รวมถึงบรรดาบิ๊กทีม ทั้ง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิค และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องมีการปรับปรุงทีมเพื่อสู้ศึกในซีซั่นที่กำลังมาถึงเช่นกัน
ทำให้ล่าสุด “สปอร์ตคีดา” สื่อกีฬาชื่อดัง ได้ลิสต์ 3 ผู้เล่นที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ควรจะเสริมทัพในช่วงตลาดซัมเมอร์นี้เพื่อพร้อมสู้ศึกในซีซั่น 2019-20 ที่กำลังมาถึง
แฮร์รี แมคไกวร์ (เลสเตอร์ ซิตี)
หลังจากที่ แวงซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีมตัดสินใจอำลาถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เพื่อย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ อันเดอร์เลชท์ รวมไปถึงการที่มีข่าวว่า นิโคลัส โอตาเมนดี เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญส่ออำลาทีม เนื่องจากต้องการเวลาลงสนามมากกว่านี้ เป็นเหตุให้ "เรือใบสีฟ้า" ต้องหาเซ็นเตอร์แบ็กรายใหม่เข้ามาสู่ทีมโดยด่วน เหตุจะเหลือเพียง จอน สโตนส์, เอมเมอริค ลาปอร์กต์ และเอเลียควิม มองกาลา ในตำแหน่งดังกล่าว
ทำให้ชื่อของ แมคไกวร์ ถูกยกขึ้นมา หลังสื่ออังกฤษหลายสำนักรายงานตรงกันว่า “เรือใบสีฟ้า” ต้องการคว้าตัวเซ็นเตอร์แบ็กรายนี้เข้ามาเสริมทีม
โดยสตาร์วัย 26 ปีรายนี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ “จิ้งจอกสยาม” ซึ่งเจ้าตัวมีจุดเด่นตรงที่ร่างกายที่สูงใหญ่ ซึ่งสามารถเล่นลูกกลางอากาศได้ดีทั้งในเกมรับ และเกมรุก, มีความแข็งแกร่งในการเข้าปะทะกับกองหน้าฝั่งตรงข้าม รวมถึงยังมีความฟิตที่น่าชื่นชม หลังเจ้าตัวพลาดลงเล่นให้กับ เลสเตอร์ ซิตี เพียงแค่ 7 เกมเท่านั้นตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา
นอกจากนั้นอีกจุดแข็งของเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษรายนี้ นั่นก็คือการขึ้นบอลจากแดนหลังไปหน้าที่เจ้าตัวมีการออกบอลที่แม่นยำกว่า สโตนส์ หรือลาปอร์กต์ ซึ่งตอบโจทย์ในการแผนการเล่นของกุนซือชาวสแปนิชได้เป็นอย่างดี
และล่าสุด “เดอะ มิร์เรอร์” รายงานว่า แมคไกวร์ เตรียมจะย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่นล่าสุด ด้วยค่าตัวกว่า 80 ล้านปอนด์ (ราว 3.05 พันล้านบาท) ซึ่งจะเป็นการทำลายสถิติโลกของผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ราว 2.86 พันล้านบาท) รวมถึงจะได้รับค่าเหนื่อยกว่า 280,000 ปอนด์ (ราว 10.6 พันล้านบาท) อีกด้วย
เบน ชิลเวลล์ (เลสเตอร์ ซิตี)
เบนฌาแมง เมนดี คือแบ็คซ้ายตัวความหวังที่ เปป กวาร์ดิโอลา ต้องการให้เข้ามาเป็นตัวหลักของทีมแทนที่ของ อเล็กซานเดอร์ โคราลอฟ ถึงกระนั้นสถานการณ์ของนักเตะรายนี้กับทีมกลับไม้เป็นไปตามที่คิดไว้ เนื่องจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บรบกวนตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ต้องผ่าตัดเข่า และทำให้เขาร้างสนามไปเกือบปีจนได้ลงสนามให้ต้นสังกัดใหม่เพียง 22 นัดเท่านั้น
เป็นเหตุให้ “เรือใบสีฟ้า” ต้องดัน โอเล็กซานดาร์ ซินเชนโก ฟูลแบ็คดาวรุ่งขึ้นมาแทนที่ รวมถึงโยก ฟาเบียน เดลฟ์ ไปเล่นในตำแหน่งดังกล่าวบางครั้ง ซึ่งทั้ง 2 คนก็ทำได้ดีในระดับนึง แต่ก็ยังไม่ใช่ที่ กวาร์ดิโอลา ต้องการ
ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ตกเป็นข่าวว่าต้องการแบ็คซ้ายคนใหม่เข้ามาสู่ทีม และคนที่ตกเป็นข่าวกับพวกเขามากที่สุดคือ เบน ชิลเวลล์
สำหรับแข้งวัย 22 ปี โชว์ฟอร์มได้น่าจับตา และยึดตำแหน่งตัวจริงของ “จิ้งจอกสยาม” มาตลอดช่วง 2-3 ซีซั่นหลังสุด โดยเขาถือเป็นฟูลแบ็คที่มีเกมรับยอดเยี่ยม รวมถึงเติมเกมรุกได้อย่างสม่ำเสมอ และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเปิดด้วยซ้ายที่ค่อนข้างแม่นยำ
โรดรี (แอตเลติโก มาดริด)
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี มีมิดฟิลด์ตัวรับให้เลือกใช้งานน้อยมากโดยเหลือเพียง แฟร์นันดินโญ, อิลกาย กุนโดกัน และฟาเบียน เดลฟ์ เท่านั้น ทว่าคนที่ กวาร์ดิโอลา ไว้ใจ และให้ลงเล่นในตำแหน่งดังกล่าวอย่างต่อเนื่องคือกองกลางทีมชาติบราซิล ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของทีม รวมถึงเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีฝีเท้าระดับโลก แต่กลับไม่ค่อยมีชื่อเสียงเหมือนกับซูเปอร์สตาร์รายอื่นๆ
เห็นได้ชัดว่าเวลาที่ “เรือใบสีฟ้า” ไม่มี แฟร์นันดินโญ ลงสนาม พวกเขาไม่แข็งแกร่งเช่นเดิม ซึ่ง กุนโดกัน สามารถทดแทนไดในระดับนึงเท่านั้น เพราะเขาคือกองกลางเชิงบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ ที่ชอบเล่นเกมรุกมากกว่า ทำให้ไม่มีคนคอยหยุดเกมรุกของฝั่งตรงข้ามก่อนบอลจะมาสู่พื้นที่อันตราย และเป็นเหตุให้ทีมเสียประตูอยู่บ่อยครั้งในฤดูกาลที่ผ่านมาจนเกือบทำแชมป์ลีกหลุดมือ
ทว่าด้วยอายุ 34 ปี ทำให้ แฟร์นันดินโญ คงเล่นในลีกสูงสุดของแดนผู้ดีได้อีกไม่นาน ด้วยสไตล์ฟุตบอลที่รวดเร็ว รวมถึงมีการปะทะหนักกันอยู่ตลอดเวลา เป็นเหตุให้ทีมดังแห่งถิ่น อิติฮัด สเตเดี้ยม ต้องเร่งหาตัวแทนของเจ้าตัว
และสื่อหลายสำนักของชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า โรดรี เอร์นานเดซ กองกลางจาก แอตเลติโก มาดริดคือเป้าหมายที่พวกเขาอยากเซ็นสัญญามาเสริมทัพเป็นอย่างมาก และมองว่าจะสามารถมาช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในแผงมิดฟิลด์ได้อย่างแน่นอน
สำหรับดาวเตะวัย 23 ปี เพิ่งย้ายจาก บียาร์เรอัล มาอยู่กับ “ตราหมี” ในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว เพื่อมาแทนตำแหน่งของ กาบี อดีตกัปตันทีมคนเก่ง ทว่าเจ้าตัวกลับไม่มีความกดดัน และแบ่งเบาภาระในแดนกลางของรุ่นพี่ทั้ง โกเก, และโธมัน ปาเตย์ ได้เป็นอย่างดี จนพลาดลงสนามในเกมลีกไปเพียง 4 นัดเท่านั้นในฤดูกาลที่แล้ว จนได้รับเสียงโหวตว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดของทีมในซีซั่นที่ผ่านมาอีกด้วย
สูงใหญ่, แข็งแกร่ง และรวดเร็ว คือนิยามของ โรดรี รวมถึงการที่เจ้าตัวได้รับการขับเคี่ยวจาก ดิเอโก ซิเมโอเน หนึ่งในกุนซือที่มีเกมรับสุดยอด และมีระเบียบวินัย ทำให้ดาวเตะทีมชาติสเปนรายนี้คือกองกลางตัวตัดเกมในอุดมคติของหลายๆทีม
โดยหากเจ้าตัวย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก จริงๆ เขาอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวสักระยะ ทว่าด้วยทัศนคติ และฝีเท้าที่ดีเกินอายุ เชื่อว่า โรดรี จะสามารถพัฒนาตัวเอง และกลายเป็นตัวแทนของ แฟร์นันดินโญ ได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้ถ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี สามารถคว้าตัวดาวเตะทั้ง 3 รายข้างต้นมาร่วมทัพได้จริงๆ เชื่อว่าพวกเขาจะกลายเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบ และพร้อมสำหรับการล่าแชมป์รายการใหญ่ทั้ง 4 ถ้วย โดยเฉพาะยูซีแอล ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของสโมสร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง