โค้ชปลาดิบมั่น"ซามูไรบลูส์"ได้ประสบการณ์ล้ำค่าแดนแซมบ้า

ขุนพล"ซามูไรบลูส์"ต้องโบกมือลาฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ ณ ประเทศบราซิล เป็นที่เรียบร้อย เมื่อล่าสุดทำได้แค่เสมอกับ เอกวาดอร์ 1-1 เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) ณ สังเวียนเอสตาดิโอ โกเวอร์นาดอร์ มากาลยาส เมืองเบโล ฮอริซอนเต แดนแซมบ้า

แม้พวกเขาจะได้ประตูออกนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 15 ของเกมจากผลงาน โชยะ นากาจิมะ มิดฟิลด์ วัย 24 ปี สังกัดอัล-ดูฮาอิลในกาตาร์ แต่ทีมจากอเมริกาใต้ก็มาพังประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 35 จากฝีเท้า อังเกล มีนา ศูนย์หน้าตัวเก๋า วัย 31 ปี ที่ปรี่ซ้ำดาบสองจ่อๆในเขตโทษ จนสุดท้ายต้องลงเอยด้วยผลแบ่งแต้มกันไปในที่สุด ทั้งที่ท้ายเกมลูกทีม โมริยาสุ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้แต่ลูกตามซ้ำในกรอบ 6 หลาของ ทาเกฟุซะ คุโบะ เจ้าของสมญาเมสซีเจแปนก็ถูกปฏิเสธด้วยเทคโนโลยีวีเออาร์ชนิดที่หน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังบทใหม่ผ่านพวกเขาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

หลังเกมนายใหญ่ขุนพลปลาดิบ ระบุว่า "พวกเรากำลังเรียนรู้กับการเจอกับคู่แข่งในระดับสูง"

“จำเป็นที่ผู้เล่นของต้องเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แสดงออกด้วยความถ่อมตัวและเคารพคู่แข่ง เพราะพวกเขาสามารถทำให้เราพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ได้ไม่ยาก” โมริยาสุ ซึ่งจำเป็นต้องใช้กลุ่มนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เป็นแกนหลัก เนื่องจากแข้งตัวหลักพากันถอนตัวก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ สำหรับ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ทีมจากเอเชีย ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้ร่วมกับ กาตาร์ ทำผลงานได้ดีที่สุดด้วยการเข้าป้ายเป็นอันดับ 3 จากการ เสมอ 2 นัด แพ้ 1 เกม เก็บไป 2 คะแนน ยิงได้ 3 ลูก กับเสีย 7 ประตู แต่สุดท้ายต้องชวดเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดสองทีมไปเตะรอบน็อคเอาท์ เนื่องจากประตูได้-เสีย เป็นรอง ปารากวัย ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดของกลุ่ม บี ที่มี 2 แต้มเท่ากัน

ส่วนอีกทีมที่คว้าอันดับ 3 ที่ดีที่สุดได้แก่ เปรู ตัวแทนจากกลุ่ม เอ ทีมี 4 แต้ม จาก 3 นัด

"นี่เป็นความอัปยศที่เราไม่สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ ดังนั้นเราจำเป็นต้องกลับไปปรับปรุงและแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น”

"ฟุตบอลกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ญี่ปุ่นและในเอเชีย ปัจจุบันเรามีทัวร์นาเมนต์และการจัดการที่ดีและนั่นทำให้เราได้ลงทำการแข่งขันกับทีมที่แข็งแกร่งจากทั่วทุกมุมโลก" กุนซือ วัย 50 ปี ผู้มีหน้าที่พาขุนพลซามูไรชุดนี้ส่วนใหญ่สู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ปีหน้า "โตเกียว 2020" ทิ้งท้าย

ทั้งนี้หลังจบเกม โชยะ นากาจิมะ กองกลางวัย 24 ปี จากอัล-ดูฮาอิลในกาตาร์ ซึ่งเป็นคนซัดประตูเบิกร่องให้ ญี่ปุ่น ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 15 ของเกม ยังได้รับเลือกให้คว้า"แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ในเกมดังกล่าวอีกด้วย ขอบคุณภาพ : ทวิตเตอร์ Brahma