ข่าว

ชำแหละ 3 การเผชิญหน้า"บาร์ซา-หงส์"ยูซีแอลคำรบแรก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เป็นการโคจรมาเจอกันบนเวทีถ้วยใบโตยุโรป อีกครั้ง นับตั้งแต่หนสุดท้ายเมื่อปี 2007

     คราวนั้นทั้งสองทีมต้องมาปะทะกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แม้ผลจบลงด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-2 แต่ไฮไลท์สำคัญ คือ หงส์แดงสามารถบุกไปควัก“อเวย์โกล”จากรังคัมป์ นู ถึง 2 ลูก จากผลงาน เคร็ก เบลลามี และ ยอร์น อาร์เน รีเซ ที่ก่อนเกมทั้งคู่มีคดีหวดไม้กอล์ฟใส่กัน
     อย่างไรก็ตามการหวนกลับมาเจอกันในรอบ 12 ปี เที่ยวนี้ ดูจะมีเดิมพันที่ต่างจากหนก่อนมากทีเดียว เมื่อฝั่งตัวแทนจากกาตาลันกำลังอยู่บนเส้นทางลุ้น“ทริปเปิลแชมป์” หลังจากสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งการันตีตำแหน่งแชมป์ลา ลีกา สเปน สมัยที่ 26 ส่วนรายการบอลถ้วยในประเทศอย่างโกปา เดล เรย์ ก็รอลงชิงดำกับ บาเลนเซีย ในส่วนยอดทีมแดงเพลิงจากเมอร์ซีย์ไซด์ ก็กำลังงวดกับการขับเคี่ยวแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เหลืออีก 2 เกม สุดสำคัญ แต่สถานการณ์ดันบังคับให้เจอร์เกน คลอปป์และลูกทีม ต้องหันมาโฟกัสกับเกมยุโรป 2 นัดเหย้า-เยือน มาคั่นกลางโปรแกรมชิงชัยในลีก
     ก่อนเกมที่ทั้งคู่จะลงสนามกันในค่ำคืนนี้ (1 พ.ค. ) เวลา 02.00 น. บรรดากูรูต่างออกมาวิเคราะห์ประเด็นน่าสนใจ โดยเฉพาะยุทธิวิธีหยุด ลิโอเนล เมสซี และผองเพื่อนอาซูลกรานา 

เมสซี - โรเบิร์ตสัน
     สัปดาห์ที่แล้ว เมสซี เพิ่งสวมบทฮีโรซัดประตูโทนพาทีมเอาชนะ เลบานเต 1-0 พร้อมกับช่วยให้ บาร์เซโลนา ต้นสังกัด ซิวแชมป์ลีกอย่างไม่เป็นทางการ ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 3 เกม
     ส่วนตัวเองก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นต่างชาติคนแรกที่มากวาดแชมป์ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุมากสมัยที่สุดจากจำนวน 10 ครั้ง
     ความฉกาจฉกรรจ์สตาร์อาร์เจนไตน์ไม่ได้หยุดแค่เวทีลา ลีกา เท่านั้น เพราะเมื่อเหลือบมามองผลงานในเวทียุโรปก็ยังไม่มีใครที่โดดเด่นกว่า
     นอกจากรั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุด 34 ประตูในลีก และขึ้นแท่นอันดับ 1 ที่จ่อคว้ารางวัล“โกลเดนบูท” (Golden Boot) หรือ ดาวยิงสูงสุดยุโรป ผลงาน 10 ประตู ที่ช่วยกระทุ้งจนทีมฝ่าด่าน
    มาถึงรอบรองชนะเลิศก็ยังเป็นจำนวนพังตาข่ายที่มากพอทำให้สตาร์เลือดหมู-น้ำเงิน ขึ้นแท่นดาวซัลโวของถ้วยหูยักษ์
     เหยื่อรายล่าสุดที่ต้องโดนพอษสงของ เมสซี ในรายการยี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริร่วมเกาะอังกฤษของหงส์แดงนั่นเอง โดยผลรวมที่มีเหนือ“ปีศาจแดง” 4-0 ครึ่งหนึ่งของประตูที่ยิงได้มาจากฝีเท้าของยอดคนเลือดฟ้า-ขาว
    แน่นอนก่อนลงสนามหลายคนเอาแต่จี้ไมถาม เจอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ว่าจะมีวิธีหยุด เมสซี อย่างไร ?

ชำแหละ 3 การเผชิญหน้า"บาร์ซา-หงส์"ยูซีแอลคำรบแรก
     ในระบบแนวรุก 3 คน เอร์เนสโต บัลเบร์เด กุนซือชาวสแปนิช จะวาง เมสซี เป็นตัวรุกทางฝั่งขวา และแน่นอนด่านสุดท้ายที่มีหน้าที่สกัดกั้นดาวยิงฟ้า-ขาว หนีไม่พ้นฟูลแบ็คจอมตะลุยอย่าง แอนดี โรเบิร์ตสัน
    “พวกเขามีสามประสานในแนวรุกที่น่าเหลือเชื่อและแน่นอนอีกเช่นกันว่านักเตะที่ดีที่สุดของโลกก็รวมกันอยู่ที่นี่” โรเบิร์ตสัน ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์สโมสรก่อนเกม
    "เราทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพราะเขา(เมสซี)สามารถปั่นป่วนเราได้ทุกพื้นที่ของสนาม บางครั้งเขาสามารถพาบอลขึ้นมาด้วยตัวเองตั้งแต่กึ่งกลางของสนาม ก่อนที่ผลลัพธ์จากนั้นจะเป็นไปในแบบที่คุณเคยเห็นผ่านตามา"
    "ด้วยตำแหน่ง ผมทราบดีว่าจะต้องมารับมือกับ เมสซี และผมก็พร้อมแล้วในตอนนี้ ยังไงเสียทุกคนก็ต้องเผชิญหน้ากับเขา และเราทุกคนในทีมจำเป็นต้องช่วยกันรับมือเขา ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง" แบ็คซ้ายเจ้าของผลงาน 13 แอสซิสต์ นับรวมทุกรายการ ระบุ
     ซีซั่นที่แล้ว โรเบิร์ตสัน ถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ทะลุไปถึงรอบชิงฯ โดยตลอด 9 นัด แบ็คเลือดสกอตต์ วิ่งรวมกันไปถึง 88 กิโลเมตร (ระยะทางดังกล่าวเทียบเท่ากับการเดินทางจาก อำนาจเจริญ ถึง มุกดาหาร)
    หาก โรเบิร์ตสัน สามารถลักพาตัว เมสซี ออกจากสนามในคืนนี้ได้ โอกาสที่เหตุการณ์ซ้ำรอยปี 2007 ซึ่งดาวยิงกัปตันทีมร้างชื่อบนสกอร์บอร์ดทั้ง 2 นัด ก็มีโอกาสสูงทีเดียวที่จะเกิดขึ้นซ้ำสอง

บุสเก็ตส์ - เฮนเดอร์สัน
    การต่อบอลสั้น คือ ธรรมชาติและจุดเด่นของทั้งสองทีม และหากต้องการเห็นการเดินเกมแบบไหลลื่น การช่วงชิงความได้เปรียบพื้นที่ตรงกลางสนามจึงอาจเป็นอีกตัวชี้วัดสำคัญสำหรับผลลัพธ์ในเลกแรกนี้
     ทุกคนทราบดีว่าลูกชายของการ์เลส บุสเกตต์ อดีตผู้รักษาประตูร่วมรุ่น เปป กวาร์ดิโอลา คือหัวใจสำคัญในแดนกลางพลพรรคอาซูลกรานา และครั้งหนึ่ง บิเซนเต เดล บอสเก อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปน เคยให้คำจำกัดความลูกชายอดีตนายด่านรายนี้ไว้ว่า “คุณดูเกม คุณจะไม่เห็น บุสเก็ตส์ คุณดู บุสเก็ตส์ คุณจะเห็นทั้งเกม”
    คุณภาพในการผ่านบอลของทีมทีมหนึ่งสามารถตรวจสอบและวัดได้จากสัดส่วนจำนวนความพยายามในการผ่านบอล และการผ่านบอลสำเร็จ ซึ่งเวลานี้บุสเกตต์คนลูกที่ปัจจุบันหอบความสำเร็จรายการนี้ไปให้คุณพ่อการ์เลส ชื่นชมแล้วถึง 3 สมัย (ฤดูกาล 2008-09, 2010-11 และ 2014-15) คือแข้งที่ติดชาร์ตอันดับ 1 ของทีมบาร์เซโลนา ทั้งเรื่องความพยายามในการผ่านบอล (834 ครั้ง) และผ่านบอลสำเร็จ (783 ครั้ง)
    เท่านั้นไม่พอจำนวนระยะทางการวิ่ง 101.7 กิโลเมตร ของมิดฟิลด์ วัย 30 ปี ยังเป็นตัวเลขนักเตะที่วิ่งรวมกันมากสุดในทีมเจ้าบุญทุ่มเสียด้วย
    ดังนั้นหาก ลิเวอร์พูล ต้องการปิดโอกาสขึ้นเกมของ บาร์ซา สิ่งสำคัญลำดับแรกที่ คลอปป์ ต้องกำชับลูกทีมเป็นพิเศษ คือ การขัดขวางการลำเลียงบอลที่มีจุดเริ่มต้นมาจาก บุสเกตต์ และตัวแปรที่ดูเหมือนจะทำให้แผนการดังกล่าวเป็นรูปเป็นร่างนั้น มีชื่อของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมหงส์แดงเข้ามามีส่วนอย่างมาก
    พลังงานและความมุ่งมั่นของกัปตันเบอร์ 14 จะมีประโยชน์อย่างมากกับเกมตรงกลางสนามของทีม แต่สิ่งที่ทำให้ต้องสนใจกองกลางทีมชาติอังกฤษรายนี้เป็นพิเศษ คือ ตำแหน่งการเล่นที่เปลี่ยนไปในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งนักเตะถูกดันขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ตัวทำเกมที่ยืนสูงกว่าเดิมและตั้งแต่ถูกปรับตำแหน่งผลที่ตามก็คือ จำนวนแอสซิสต์ 4 แอสซิสต์ จาก 6 เกมหลังสุด พ่วงด้วย 1 ประตูสำคัญในลีกที่ยิงใส่เซาธ์แฮมป์ตันเมื่อต้นเดือนเมษายนซึ่งเป็นเกมแรกที่ได้รับมอบหมายทำหน้าที่ใหม่

ชำแหละ 3 การเผชิญหน้า"บาร์ซา-หงส์"ยูซีแอลคำรบแรก

อัลบา - ซาลาห์
     กลับมาท็อปฟอร์มได้ถูกที่ถูกเวลาสำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงความหวังสูงสดของ เจอร์เกน คลอปป์ และลิเวอร์พูล
     2 ประตูที่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดเกมยำใหญ่ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 5-0 ของเกมลีกนัดล่าสุด ส่งให้เวลา “คิง ออฟ อียิปต์” ยิงรวมกันไปแล้ว 5 ประตู จาก 6 เกมหลังสุด และขึ้นแท่นเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกด้วยผลงาน 21 ประตู แต่นั่นก็ไม่เท่ากับการถูกบันทึกให้เป็นดาวเตะคนแรกที่พังตาข่ายได้มากสุดจากการลงเล่นครบ 100 นัดให้กับสโมสร โดยดาวเตะเลือดฟาโรห์กดไปแล้ว 69 ประตู จากจำนวนเกมดังกล่าว
    ส่วนในรายการนี้มีเพียง สตีเวน เจอร์ราร์ด คนเดียวเท่านั้น (30 ลูก) ที่ยิงประตูได้มากกว่า ซาลาห์ ยามเล่นให้ลิเวอร์พูลในถ้วยยูซีแอล โดยแข้งอียิปต์กดไป 15 ประตู ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ปี 2017 สูงสุดลำดับ 2 ร่วมกับ โรแบร์โต ฟีร์มิโน ดาวยิงเพื่อนร่วมทีมที่ซัดได้ในจำนวนเท่ากัน

ชำแหละ 3 การเผชิญหน้า"บาร์ซา-หงส์"ยูซีแอลคำรบแรก
     ฝั่งหนึ่งของสนามมีตัวอัจฉริยะอันตรายอย่าง เมสซี แต่อีกฟากฝั่งของสนามก็ยังมีตัวทำลายสถิติอย่าง ซาลาห์ คอยปั่นป่วนเช่นกัน และคนที่จะทำหน้าที่ขัดขวางดาวเตะตัวกลั่นของหงส์แดง ยังมีดีกีถึงฟูลแบ็คระดับแชมป์โลกอย่าง จอร์ดี อัลบา ที่ปีนี้ลงรับใช้ทีมเลือดหมู-น้ำเงิน เป็นซีซั่นที่ 7
    ผลงานยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ของแบ็คซ้ายเลือดกระทิง เจ้าตัวลงเล่นครบ 90 นาที ตลอด 9 นัดที่ผ่านมา พร้อมฝากผลงาน 1 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ ซึ่งสถิติหลังสุดยังเป็นตัวเลขผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้มากสุดในรายการนี้เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ
    จุดเด่นของ อัลบา อาจไม่ได้อยู่ที่การหยุดเกมรุกคู่แข่งเป็นหลัก แต่การเคลื่อนที่และการพาบอลไปกับตัว คือ จุดที่จะสร้างความลำบากใจให้เกมริมเส้นทั้งรุกและรับของลิเวอร์พูลได้แบบไม่ต้องสงสัย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ