เป็นที่ทราบกันดีว่าฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้น ถือเป็นลีกลูกหนังที่อุดมไปด้วยบรรดาแข้งดังระดับโลก
ที่ได้รับความสนใจจากทั้งแฟนบอล และสื่อ ไม่ว่าจะเป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล), เอแดน อาซาร์ (เชลซี), ปอล ปอกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), แฮร์รี เคน(ทอตแนม ฮอทสเปอร์) และเซร์คิโอ อเกวโร (แมนเชสเตอร์ ซิตี) เป็นต้น
ถึงกระนั้นในปัจจุบัน ลีกสูงสุดแดนผู้ดีเกิดความสูสีกันเป็นอย่างมากของทีมใหญ่ และทีมเล็ก เนื่องจากบรรดาสโมสรอื่นๆที่ไม่ใช่ทีมท็อป 6 พยายามยกระดับของทีมตัวเองขึ้นมา ด้วยการยอมทุ่มงบเสริมทัพแบบมหาศาล รวมไปถึงการผลักดันดาวรุ่งที่มีแววจากอะคาเดมี ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้ก็ตอบแทนความไว้วางใจจากทีมด้วยผลงานที่น่าประทับใจ แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงเหมือนกับเหล่านักเตะดังข้างต้น
เป็นเหตุให้ล่าสุด “สปอร์ตคีดา” สื่อกีฬาชื่อดัง ได้รวบรวม 3 ผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ จากสถิติที่ผ่านมา แต่กลับถูกมองข้ามเพราะไม่ได้อยู่กับทีมใหญ่
อารอน วาน-บิสซากา (คริสตัล พาเลซ)
หากจะพูดถึงกองหลังดาวโรจน์ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ขณะนี้ จะต้องมีชื่อของแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษชุดเล็กรายนี้อย่างแน่นอน
สำหรับ วาน-บิสซากา เป็นผู้เล่นเยาวชนของทีม “ปราสาทเรือนแก้ว” มาตั้งแต่อายุ 11 ปี ซึ่งด้วยฟอร์มอันโดดเด่นทำให้เจ้าตัวได้รับการผลักดันให้ขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2018 และต้องดวลกับ สเปอร์ส ตั้งแต่เกมแรกที่ได้ประเดิมสนาม ต่อเนื่องด้วยแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ถึงกระนั้นดาวเตะวัย 21 ปี ที่มีจุดเด่นเรื่องการเติมเกมรุก และการประกบแบบตัวต่อตัว กลับไม่มีอาการลนลาน และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนยึดตำแหน่งตัวจริงของ มาร์ติน เคลลี มาครองได้นับตั้งแต่นั้น
มาถึงฤดูกาลนี้ ถือเป็นปีแจ้งเกิดของ วาน-บิสซากา อย่างแท้จริง เนื่องจากเขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมในลีกด้วยการเลี้ยงบอลสำเร็จ 0.3 ครั้งต่อเกมเท่ากับ ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี) และเป็นรองเพียง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล) ที่มีสถิติดีที่สุดในลีกอยู่ที่ 0.9 ครั้งต่อเกม
นอกจากนั้นเจ้าตัวยังมีสถิติการเจ้าปะทะคู่แข่งได้ดีที่สุดในบรรดาผู้เล่นตำแหน่งฟูลแบ็กของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยมีค่าเฉลี่ยถึง 4 ครั้งต่อเกม ขณะที่อันดับ 2 อย่าง วอล์คเกอร์ ทำได้เพียง 1.3 ครั้งต่อเกมเท่านั้น
ด้วยผลงานที่เกิดขึ้นทำให้มีข่าวอย่างต่อเนื่องว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมทุ่มทุนกว่า 40 ล้านปอนด์ (ราว 1.69 พันล้านบาท) เพื่อเซ็นสัญญากับ วาน-บิสซากา ไปร่วมทีมในฤดูกาลหน้า
วิลเฟร็ด เอนดีดี (เลสเตอร์ ซิตี)
มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติไนจีเรียรายนี้ ถูกทาง “จิ้งจอกสยาม” ดึงตัวเข้ามาร่วมทัพเพื่อเป็นตัวแทนของ เอ็นโกโล กองเต กองกลางคนสำคัญที่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี เมื่อปี 2016 ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ (ราว 694 ล้านบาท) ทว่าในช่วงแรกเจ้าตัวกลับถูกวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นว่ามีความช้าเกินไปสำหรับฟุตบอลอังกฤษ และไม่ใกล้เคียงที่จะอุดช่องโหว่ในแผงกลางของทีมได้
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น เอนดีดี สามารถปรับตัวได้ดีขึ้นตามลำดับ จนสามารถขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงในทีม และกลายเป็นคีย์แมนที่คอยเป็นปราการด่านแรก ก่อนแนวรุกฝั่งตรงข้ามจะเข้าไปสู่พื้นที่อันตรายของทีม
ขณะที่ในซีซั่นนี้ผู้เล่นวัย 22 ยังพัฒนาตัวเองแบบต่อเนื่อง และมีสถิติที่สวยหรูเมื่อเทียบกับกองกลางตัวรับระดับท็อปคนอื่นๆของลีก ทั้ง จอร์จินโญ (เชลซี) และแฟร์นันดินโญ (แมนเชสเตอร์ ซิตี) ด้วยการเข้าปะทะคู่แข่ง 3.5 ครั้งต่อเกม ขณะที่ จอร์จินโญ และแฟร์นันดินโญ ทำได้เพียง 2.2 ครั้ง และ 1.9 ครั้งตามลำดับ
ไม่ใช่แค่เกมรับที่เขาทำได้ดี เพราะในฤดูกาลนี้เขามีส่วนกับเกมรุกของทีมด้วย จากอัตราการยิง 1.6 ครั้งต่อเกม พร้อมทำไปแล้ว 2 ประตูด้วยกัน
ราอูล ฆิมิเนซ (วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส)
ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์พอสมควร ที่กองหน้าทีมชาติเม็กซิโกรายนี้สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาค้าแข้งในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หลังย้ายมาจาก เบนฟิกา แบบยืมตัว เพราะมีผู้เล่นหลายรายที่เป็นดาวเด่นในลีกฝอยทอง แต่กลับมากลายเป็นดาวดับในลีกสูงสุดของแดนผู้ดี
โดยดาวเตะวัย 27 ปี มีจุดเด่นเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย ทำให้เจ้าตัวสามารถเข้าปะทะกับกองหลังของทีมคู่แข่งอื่นๆได้แบบสมน้ำสมเนื้อ รวมถึงสามารถเก็บบอลในแดนหน้าเพื่อให้ทีมสามารถเดินเกมรุกต่อไปได้เกือบทุกครั้ง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่้งในดาวยิงอันดับต้นๆของลีกซีซั่นนี้ คือการหาจังหวะทำประตู โดยจากสถิติพบว่า ฆิมิเนซ สร้างโอกาสทำประตูได้ 3 ครั้งต่อเกม มากกว่า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง (อาร์เซนอล) และโรแบร์โต ฟีร์มีโน (ลิเวอร์พูล) 2 แข้งในตำแหน่งเดียวที่ล้วนมีชื่อเสียง และยิงได้มากกว่าเจ้าตัว ซึ่งมีโอกาสยิงแค่ 2.6 ครั้ง และ 2.1 ครั้งต่อเกมเท่านั้น
เท่านั้นยังไม่พอ ฆิมิเนซ ที่กดไปแล้ว 12 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 30 นัด พร้อมช่วยให้ทีมทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ของตารางแบบพลิกความคาดหมาย ยังมีสถิติการจ่ายบอลที่แม่นยำ ด้วยอัตราการผ่านบอลสำเร็จอยู่ที่ 1.2 ครั้งต่อเกมอีกด้วย จนทำให้ทีม “หมาป่า” ต้องการคว้าตัวดาวยิงผู้นี้มาร่วมทัพแบบถาวรในฤดูกาลหน้าด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสรถึง 33 ล้านปอนด์ (ราว 1.34 พันล้านบาท)
ผู้เล่นทั้ง 3 รายนี้ ถือว่าเป็นดาวเตะที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และดีกว่าแข้งซูเปอร์สตาร์บางรายหากดูจากสถิติที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์เป็นอย่างดีว่าพวกเขามีฝีเท้าที่สมควรได้รับการชื่นชม และน่าจับตามองเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง