ได้แค่รองแชมป์อาเซียน
การแข่งขันฟุตบอลอายุไม่เกิน 22 ปี ชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. "ช้างศึก" ทีมชาติไทย พบ "อิเหนา" อินโดนีเซีย
เกมครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นอย่างระมัดระวัง ยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0 กระทั่งเข้าสู่ครึ่งหลัง ไทยออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 58 ไทยได้ประตูนำก่อน จากฟรีคิกด้านซ้าย ศฤงคาร พรมสุภะ โหม่งกดลงพื้นเข้าไป เป็นประตูที่ 3 ที่กัปตัน “ช้างศึก” ยิงในทัวร์นาเมนท์นี้
อย่างไรก็ตาม ทีมไทยดีใจนาทีเดียว ก็โดนตีเสมอ ซานี ริสกี ยิงแฉลบ มาร์โก บัลลินี เข้าประตูไป เกมมาเท่ากัน 1-1 และเป็นประตูแรกที่ไทยเสียในรายการนี้ จากนั้น นาทีที่ 64 อิเหนา พลิกนำ 2-1 จากการโหม่งของ ออสวัลโด ก่อนที่นาทีที่ 88 อินโดนีเซีย จะเหลือนักเตะ 10 คน เมื่อ บากัส อาดี โดนใบแดงไล่ออก จากนั้นทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม อินโดนีเซีย ชนะ 2-1 คว้าแชมป์ไปครองสมัยแรก ส่วนไทยได้รองแชมป์ ขณะที่ ศฤงคาร ที่ยิง 3 ลูก ครองดาวซัลโวร่วมกับ มารินุส วาเรวาร์(อินโดนีเซีย), ตรัน ดันห์ ตรุง(เวียดนาม)
ผลคู่ชิงที่ 3 เวียดนาม ชนะ กัมพูชา 1-0
อเล็กซานเดร กาม่า หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี ได้กล่าว ชื่นชมลูกทีมแม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทีมชาติอินโดนีเซีย พลาดแชมป์อาเซียนไปแบบฉิวเฉียด
"ผมไม่ได้พอใจกับผลการแข่งขัน แต่เด็กที่เราเรียกมา และเวลาเตรียมทีมที่เรามี ผมมองว่าทุกคนแสดงออกมาได้ดีแล้ว"
"พวกเขาอาจไม่ใช่ตัวหลักที่เราเรียกมาตอนแรกก็จริง แต่ทุกคนแสดงให้เห็นว่าเขาก็มีอนาคตที่จะต่อยอดมากกว่านี้ นักเตะที่เรียกมาทุกคนทำผลงานได้ดีมันทำให้มีผู้เล่นมากขึ้นที่จะไปผสมกับคนที่เล่นอยู่ในลีกเป็นตัวหลัก ผมสัญญาว่าจะทำให้ดีขึ้น"
"เราอาจจะไม่ได้แชมป์ก็จริง แต่ชุดนี้ที่เรียกมาเราพยายามผลักดันเด็กที่สุดแล้ว อย่างน้อยเราก็สามารถทำให้เด็กรู้สึกกระหายที่จะท้าทายเพื่อคว้าแชมป์ให้ประเทศ" กาม่า ทิ้งท้าย
สำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี จะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 11.15 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง