คอลัมนิสต์

ศึกแย่งชามข้าว  เช็กชื่อกลุ่มก๊วน "พปชร."

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กลุ่มก๊วนพลังประชารัฐซัดกันนัว ตัวเลขไพร่พลไม่นิ่ง ราคาคุยเยอะ มี "ส.ส.ขาจร" เป็นตัวแปร วิ่งซบมุ้งโน้นมุ้งนี้   

++
          ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐที่มีภาพแบ่งก๊กแบ่งก๊วนชัดเจนในวันนี้ ก็คาดเดาได้ตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งพรรคแล้ว 


          เนื่องจาก “นักเลือกตั้ง” ที่ไหลมารวมตัวกัน ส่วนมากก็เป็นคนหน้าเดิม ที่เคยสังกัดพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย สมัยอยู่ใต้ร่มธงทักษิณ ก็แบ่งก๊กแบ่งก๊วนแย่งชามข้าวกันเป็นเรื่องปกติ


          สาเหตุที่กลุ่มก๊วนใน พปชร. เปิดหน้าชกกันเองในวันนี้ เพราะรู้แล้วว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  จะยังไงก็ไม่เป็นหัวหน้าพรรค แม้บางกลุ่มก๊วนพยายามจะกล่อมให้บิ๊กป้อมยอมรับตำแหน่งนี้ก็ตาม

 

อ่านข่าว...   "สิระ" ย้ำ "พปชร"หยุดขัดแย้งได้ เพราะบารมี "ลุงป้อม"


          บิ๊กป้อมให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้ตั้งใจเข้ามาเล่นการเมือง จริงๆไม่อยากเป็นนักการเมือง ต้องการเข้ามาช่วยประเทศ พอดีตกกระไดพลอยโจนมาเรื่อยๆ

 

 

ศึกแย่งชามข้าว  เช็กชื่อกลุ่มก๊วน "พปชร."

วันที่กลุ่มสามมิตร พบบิ๊กป้อม

 

++
          สามมิตรรุก
++
          การวางบทบาท "สิระ เจนจาคะ" เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน อัดสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีพลังงาน และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ก็แสดงว่า กลุ่มสามมิตร มีเป้าหมายต้องการ “กระทรวงพลังงาน” ไม่ใช่เรื่องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค


          กลุ่มสามมิตร มีกำลังอยู่ในมือเท่าไหร่? คำตอบไม่น่าจะเกิน 15 คน เพราะตัวเลข ส.ส.ขาจร มีเยอะ ดังที่รู้กัน ส.ส.พรรษาแรกในพลังประชารัฐ มีเยอะ คนกลุ่มนี้จะวิ่งไปวิ่งมาตามกลุ่มก๊วนต่างๆ


          ชั่วโมงนี้ กลุ่มสามมิตรพยายามทำแนวร่วมกับขั้วหนุนบิ๊กป้อม ประกอบด้วย “กลุ่มวิรัช-เสี่ยเฮ้ง” ,กลุ่ม กทม.(บางปีก) และกลุ่มเพชรบูรณ์ ของสันติ พร้อมพัฒน์


          ลึกๆ แล้ว สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ไม่ลงรอยกับกลุ่มวิรัช-เสี่ยเฮ้ง แต่ยามนี้ที่ต้องเปิดศึกชิงขุมทองพลังงาน จำต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากขั้วหนุนบ้านป่ารอยต่อฯ


          สองเซียนการเมือง รู้ดีว่า หลังโควิด มีปรับ ครม.แน่ จึงต้องออกแรงขย่มเสียแต่วันนี้

++
          สนธิรัตน์ไม่ถอย
++
          หลายคนอาจไม่ทราบว่า สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน รวบรวมไพร่พลไว้จำนวนหนึ่ง มีทั้ง ส.ส.กทม. , ภาคกลาง และภาคใต้ บวกกับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่มี ส.ส.อยู่ในมือประมาณ 10 กว่าคน 


          นับไพร่พลของ “เฮียสน” และ “ผู้กองธรรมนัส” ไม่น่าจะเกิน 25 คน แต่พรรค พปชร. ที่มี ส.ส.หน้าใหม่ ประมาณครึ่งพรรค จึงทำให้เกิด ส.ส.ขาจร หรือนกแล ที่พร้อมจะโยกไปโยกมา วังโน้นวังนี้ ซุ้มโน้นซุ้มนี้

 

 

ศึกแย่งชามข้าว  เช็กชื่อกลุ่มก๊วน "พปชร."

"ร.อ.ธรรมนัส" ประชุมกลุ่มก๊วนอีกวันหนึ่ง

 


          ยกตัวอย่าง ส.ส.ใต้ 13 คน ล้วนเป็นคนหน้าใหม่ กว่าครึ่งถูกดึงไปกลุ่มสามมิตรช่วงแรกๆ แต่ระยะหลัง “เฮียสน” ก็ดึงมาอยู่ในสังกัดได้หลายคน

 

          ทำนองเดียวกัน ส.ส.ภาคกลาง ที่ปีกเสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น คุยโวว่า อยู่ในมือ 20 คน เอาเข้าจริง “เฮียสน” ก็สอยกลับมาได้นับสิบคนเหมือนกัน

 

          ตัวเลข ส.ส.ขาจรจึงไม่นิ่งว่า สังกัดมุ้งไหน ซุ้มไหน เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รู้ดี จึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า “ส.ส.ร้อยกว่าคนอยู่กับผม”

 

          เฮียสนกับผู้กองธรรมนัสเลยจัดเต็มเหมือนกัน เพราะอ่านใจบิ๊กป้อมออกว่า ไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแน่ๆ

 

ศึกแย่งชามข้าว  เช็กชื่อกลุ่มก๊วน "พปชร."

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ