ทักษิณไม่จำ สิ้นยุคพรรคเถ้าแก่

พรรคเพื่อไทย ไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน สำหรับพรรคการเมืองที่ยึดพื้นที่ผูกขาด ส.ส.ภาคเหนือตอนบน มาแต่ปี 2544

มินับข่าวอดีตนักการเมืองเครือข่ายชินวัตร 3 - 4 กลุ่ม เตรียมตั้งพรรคใหม่ เหมือนคนเหล่านั้นมองว่า อนาคตของพรรคเพื่อไทยนั้นมืดมน
 

นักวิชาการเสื้อแดง "พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์" เคยเขียนวิเคราะห์พรรคเพื่อไทย เมื่อเลือกตั้งปี 2562 ผ่านไปหมาดๆ ซึ่งวันนี้ "พิชิต" ได้คัดบางตอนมาเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนอีกครั้ง

"เถ้าแก่ตามโลกไม่ทัน เครือข่าย ส.ส.กับฐานเสียงถูกบ่อนเซาะ แกนนำต้องฟังเถ้าแก่ ไม่มีบทบาทนำจริง ริเริ่มเองไม่ได้ พท.วันนี้มีแต่บุญเก่า ทั้งตัวเถ้าแก่ แนวคิด แกนนำ ส.ส. มีแต่จะหมดไปไม่ได้เพิ่มขึ้น"

"พิชิต" ใช้คำว่า “เถ้าแก่ตามโลกไม่ทัน” เพราะเขาเห็นว่า พรรคอนาคตใหม่ ที่เพิ่งรวมตัวได้ไม่ถึงปี กลับกวาดคะแนนนิยมมาเป็นกอบเป็นกำ บางพื้นที่ชนะพรรคเพื่อไทยเสียด้วยซ้ำไป

นอกจากนั้น พิชิตยังมองว่า พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกหยามหยันว่าเป็นพรรคทหาร กลับกวาดที่นั่ง ส.ส.ในภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร 

"วันนี้เป็นฝ่ายค้านทำประชานิยมไม่ได้ ฐานเสียงประชานิยมจะไหลไป พปชร. ฐานเสียงประชาธิปไตย จะไหลไปบรรดาพรรคประชาธิปไตยใหม่ ส.ส.จะไหลออกอีก เพราะไม่อยากเป็นฝ่ายค้านอีกต่อไป และเห็นชัดว่า โปรย้ายค่าย-แถมเงินก้นถุง ของเขาดีจริง"

"พิชิต" วิเคราะห์ว่า ฐานเสียงรากหญ้าที่เคยชื่นชมนโยบายประชานิยม จะเปลี่ยนไปนิยมประชานิยมใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ

ตอนท้าย "พิชิต" ยังฝากถึง “เถ้าแก่” ต้องเปลี่ยนแนวคิด เลิกมองว่าพรรคการเมือง เป็น “ทรัพย์สินประจำตระกูล” และแกนนำพรรค ไม่ใช่ “เด็กในบ้าน” 

การขยับตัวของจาตุรนต์ ฉายแสง ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนเก่าแก่ที่เริ่มคิดสร้างพรรคของตัวเอง และไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของเถ้าแก่อีกต่อไป