คอลัมนิสต์

'ฝ่ายนิติบัญญัติ' รับมือโควิด-19 ถึงเสี่ยงตายยังต้องประชุม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝ่ายนิติบัญญัติมาตรการเข้มคณะกรรมาธิการยังคงสามารถประชุมตามปกติ เว้นแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ไม่ดีขึ้น จะให้งดการประชุมทันที หยุดเดินทางไปต่างประเทศ

         สถานการณ์การระบาดของ ไวรัสโควิด-19 เริ่มรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด ถึงขนาดที่รัฐบาลต้องออกมาตรการเข้มขึ้นเพื่อควบคุมให้การระบาดไม่รุนแรงไปกว่านี้

         ไม่ว่าจะเป็น การปิดมหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชาและสถานศึกษาทุกสถาบันชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ไปจนถึงการปิดสนามมวย สนามกีฬา สนามม้า ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และปิดผับ สถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณ และโรงมหรสพ ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ชั่วคราว 14 วัน นอกจากนี้ ยังให้งดกิจกรรมรวมคนจำนวนมากที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เช่น จัดคอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม และกีฬา เป็นต้น

         การแพร่ระบาดของไวรัสนั้นยังลามมาถึงการทำงานของ ฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ยังคงมีความจำเป็นต้องประชุมในเรื่องสำคัญระหว่างปิดสมัยประชุมสภาด้วย

         ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ‘ชวน หลีกภัย’ ได้มีนโยบายและมอบแนวทางการทำงานให้แก่สภาในช่วงนี้ ซึ่งมีผลบังคับไปถึงการทำงานของสื่อมวลชนประจำรัฐสภาด้วย ดังนี้

'ฝ่ายนิติบัญญัติ' รับมือโควิด-19 ถึงเสี่ยงตายยังต้องประชุม

 

         เริ่มตั้งแต่ การขอให้งดการเดินทางไปต่างประเทศ ของคณะกรรมาธิการในทุกกรณี ส่วนการทำงานของคณะกรรมาธิการยังคงสามารถประชุมได้ตามปกติ เพียงแต่หากเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดไม่ดีขึ้น ก็จะขอให้งดการประชุมทันที สำหรับคณะกรรมาธิการวิสามัญที่มีเวลาการทำงานจำกัดและกำลังหมดเวลาลงตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติไว้นั้น สามารถทำเรื่องเสนอมายังประธานสภาเป็นรายกรณี เพื่อให้ขยายเวลาการทำงานให้แก่คณะกรรมาธิการวิสามัญต่อไปได้

         ขณะที่ มาตรการคัดกรองตรวจบุคคลเข้าออกบริเวณอาคารรัฐสภา เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการให้เจ้าหน้าที่ทำการคัดกรองบุคคลแม้จะเป็นวันหยุดราชการด้วย สอดรับกับแนวทางกับการทำงานของคณะกรรมาธิการกิจการสภา ที่ถึงแม้ประธานสภาจะให้งดเดินทางไปต่างประเทศแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งคณะกรรมาธิการกิจการสภาจะขอให้คณะกรรมาธิการทั้ง 35 คณะงดการเดินทางไปประชุมต่างจังหวัดเช่นกัน

         ส่วนการทำงานของสื่อมวลชนประจำรัฐสภานั้น ก็มีการขอความร่วมมือไม่ให้สื่อมวลชนเข้ามารุมสัมภาษณ์ประธานสภา รองประธานสภา และ ส.ส.เหมือนกับที่เคยปฏิบัติ แต่ขอให้ไปสัมภาษณ์ที่จุดแถลงข่าวที่สภาเตรียมไว้ให้แทน เพื่อเลี่ยงสัมผัสระหว่างกัน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ประธานสภาก็ได้ประเดิมให้สัมภาษณ์ที่จุดแถลงข่าวเพื่อเป็นการนำร่องแล้ว

         ด้านวุฒิสภา ซึ่งใช้อาคารสุขประพฤติเป็นสถานที่ทำงาน โดยเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีบุคคลเข้าออกเป็นจำนวนมากและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเป็นอย่างมาก ล่าสุด พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้ออกมาตรการคุมเข้มไม่แพ้กัน ประกอบด้วย 

'ฝ่ายนิติบัญญัติ' รับมือโควิด-19 ถึงเสี่ยงตายยังต้องประชุม

'ฝ่ายนิติบัญญัติ' รับมือโควิด-19 ถึงเสี่ยงตายยังต้องประชุม

         1.ด้านการดูแลทำความสะอาดอาคารสถานที่ทำการ ให้ทำความสะอาดพื้นที่ภายในอาคารสุขประพฤติด้วยแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาเช้า กลางวัน และเย็นของทุกวัน จัดตั้งจุดคัดกรองบุคคลบริเวณทางเข้าอาคารสุขประพฤติ ชั้น 1 โดยหากพบว่าบุคคลใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงตั้งแต่ 37 องศาขึ้นไป จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าภายในอาคาร 

         2.ด้านการประชุมคณะกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการ คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ ให้จัดประชุมเฉพาะในกรณีที่สำคัญและจำเป็น โดยให้เป็นดุลพินิจของประธานคณะกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการ คณะกรรมการคณะอนุกรรมการ ในการพิจารณาตามความเหมาะสมในเรื่องจำนวน และบุคคลที่เป็นองค์ประกอบของคณะ

         ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมาธิการและคณะกรรมการต่างๆ ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนควรต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และจะมีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะดำเนินการจัดที่นั่งประชุมให้มีระยะห่างกันพอสมควร พร้อมทั้งดำเนินการทำความสะอาดห้องประชุมทั้งก่อนและหลังการใช้ห้องประชุมทุกครั้ง 

         3.ด้านการเฝ้าระวังบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ขอความร่วมมือให้ ส.ว. และบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา งดเดินทางไปต่างประเทศและบริเวณพื้นที่เสี่ยงในประเทศ และหากได้ไปในพื้นที่ดังกล่าวหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อ ให้แยกตัวเอง 14 วัน และปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

         อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภากำลังประเมินสถานการณ์กันวันต่อวันว่าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะหารือกับรัฐบาลในการขอเลื่อนการเปิดสมัยประชุมในเดือนพฤษภาคมนี้ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด เพื่อลดความเสี่ยง แต่หากติดขัดในแง่ของข้อกฎหมายที่จำเป็นต้องเปิดสมัยประชุม ก็จะใช้รูปแบบของการให้เปิดประชุมสมัยประชุมไปตามปกติ แต่จะไม่มีการประชุม ส.ส. หรือ ส.ว.แทน

'ฝ่ายนิติบัญญัติ' รับมือโควิด-19 ถึงเสี่ยงตายยังต้องประชุม

         ไม่เพียงแต่สภาและวุฒิสภาที่ปรับตัวเตรียมรับมือเท่านั้น เพราะพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีมาตรการรับมือเช่นกัน โดยติดตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าสู่อาคาร และมีเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดคอยเช็ดจุดที่มือสัมผัสทุกชั่วโมง และมีเจลล้างมือให้บริการกระจายทั่วทุกจุด นอกจากนี้ยังได้ให้เจ้าหน้าที่พรรค พักรับประทานอาหารเหลื่อมเวลากัน เพื่อลดความแออัดในการใช้โรงอาหาร ที่สำคัญคือการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของพรรคสามารถทำงานจากบ้าน (Work From Home) ได้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ