คอลัมนิสต์

ยื้อ...ปิดประเทศ พรุ่งนี้ละ? ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีกเท่าไหร่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยื้อ...ปิดประเทศ พรุ่งนี้ละ? ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีกเท่าไหร่ ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมดาแน่ เมื่อกระทรวงสาธารณสุข แถลงจำนวนผู้ติดเชื้อวันเดียวถึง 2 ครั้ง..

 

 

          เช้าผู้ป่วยใหม่ 35 ราย

          บ่ายผู้ป่วยเพิ่มเป็น 60 ราย

 

          19 มีนาคม 2563 นับเป็นวันแรก  และครั้งแรกที่กระทรวงสาธารณสุขออกแถลงการณ์ วันเดียวถึงสองรอบต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และตัวเลขก็เพิ่มเป็น “ดับเบิ้ล” เล่นเอาโลกโซเชียลรุมถล่มรัฐบาลแบบไม่ยั้งมือ

 

      อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :  

      ด่วน ! สธ.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 35 ราย

      ด่วน ไทยติดเชื้อเพิ่มตัวเลขพุ่งกระฉูด 60 ราย

      

 

 

 

          โดนหนักสุด ตกยกให้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เจ้าของวลีเด็ด โคโรนาไวรัส2019 หรือโควิด-19 แค่ “ไข้หวัดธรรมดา” ตามมาด้วยอีกวลี “จะติดตั้งจุดคัดกรองที่สนามบินหาสวรรค์วิมานอะไร??” 

 

         ณ วันนี้  สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 คงไม่ใช่ “ไข้หวัดธรรมดา”อีกแล้ว เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มทวีคูณ ขณะที่เดียวกันท่าทีของรัฐบาลเริ่มขยับและปรับกระบวนยุทธ์ในการทำงาน เพื่อรับมือโควิด-19 มากขึ้น   

       

        อีกทั้ง การปรากฏตัวของ  "พล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ" ผู้บัญชาการสำนักงานฝ่ายเสนาธิการในพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. และพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงโหม พร้อมด้วย นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ย่อมไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมดาแน่

 

       ไม่เพียงเท่านั้น ระดับผู้นำ อย่าง“พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ต้องวางมือทุกภารกิจ เพื่อเดินทางด่วน เพื่อมานั่งหัวโต๊ะร่วมประชุมที่กระทรวงสาธารณสุข จากทำเนียบรัฐบาลสู่จังหวัดนนทบุรี “ย่อมไม่ธรรมดา” กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสร้าย “โควิด-19”

  

       ยังมีอะไรอีกมั๊ยที่คนไทยไม่รู้  หรือว่าเราคนไทยต้องพึ่งตัวเอง ดูแลตัวเอง เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มส่อเค้าจะซ้ำรอยเมืองอู่ฮั้น  ที่วันแรกพบผู่ติดเชื้อ 300 คน วันที่สองเพิ่มเป็น 700 คน และวันที่ เพิ่มเป็น1,700 คนในที่สุด “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องประกาศ “ปิดประเทศ”


     

 

 

          เฉกเช่นเดียวกับ มาเลเซีย ออสเตรเลีย ที่สั่งปิดประเทศไปก่อนหน้านัั้น  แต่ที่ฉงนช็อกโลกต้องยกให้ “วลาดิมีร์ ปูติน” ผู้นำรัสเซีย ที่สั่งปิดประเทศเป็นเวลา 2 เดือน วงในระบุว่า“ปูติน”สั่งทุกภาคส่วนคุมเข้มความปลอดภัยด้านสุขภาพให้ประชาชน ตรวจคัดกรองแบบเข้มข้น หลังพบผู้ป่วยเพียง 90 ราย ขณะเดียวกันขอให้ทุกครัวเรือนเตรียมอาหารให้พร้อมสำหรับการดำรงชีพนาน 2 เดือน และให้อยู่ในบ้านเรือนไม่พบปะสังสรรค์

       

      ย้อนมาดูประเทศไทย 19 มีนาคม 2563 ช่วงบ่ายๆ “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันว่าการรับมือโควิด-19 ของประเทศไทยและกระทรวงสาธารณสุขมา”ถูกทางแล้ว“ แต่เพิ่มความเข้มข้นทุกประเทศที่จะเดินทางเข้าไทย 

 

     “ต้องมีใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 และใบรับรองแพทย์มีอายุไม่เกิน3วันและต้องซื้อประกันสุขภาพ เมื่อมาถึงไทยต้องผ่านการคัดกรองและกักตัว14วัน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ

 

        เหนืออื่นใด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังขอความร่วมมือประชาชนงดการเคลื่อนย้าย หรือออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น แม้ประเทศไทยยัง "ไม่มีประกาศเคอร์ฟิว" ก็ตาม..

 

       ขณะที่กระแสเรียกร้องให้ “ปิดประเทศ” กระหึ่มโชเชียล พร้อมวลีเด็ด “เจ็บ...แต่จบ” เมื่อสิ้นถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุข มีจำนวนผู้ป่วยใหม่เพิ่มทวีคูณ และกระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่เกาะกลุ่มเฉพาะกรุงเทพมหานคร อีกต่อไป แบบนี้แล้ว รัฐบาลยัง “เอาอยู่” มั๊ย??

      

      วันนี้คนไทยจะเป็นอย่างไร

      แล้วพรุ่งนี้ละ??

    0 กมลทิพย์  ใบเงิน 0 รายงาน 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ