คอลัมนิสต์

"อนาคตใหม่" ตกที่นั่งลำบาก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อนาคตใหม่" ตกที่นั่งลำบาก คอลัมน์...  เกาะขอบรั้วสภา 


 


          เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารบนพื้นที่แห่งนี้ยังคงขอใช้คำว่า "พรรคอนาคตใหม่" ไปชั่วคราวก่อนจนกว่าจะมีการประกาศชื่อพรรคการเมืองภายใต้อุดมการณ์ 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' และ 'ปิยบุตร แสงกนกกุล' จะประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ

 

 

          สำหรับพรรคอนาคตใหม่เวลานี้นอกจากเผชิญกับภาวะเคว้งคว้างแล้ว ยังต้องเจอกับสถานการณ์ผึ้งแตกรังอีก หลังจาก ส.ส.ของพรรคที่ยังเหลืออยู่ 65 คนนั้นถูกจีบจากพรรคร่วมรัฐบาลวันละสามเวลา แน่นอนว่าเบื้องต้นจะมี ส.ส.ค่ายสีส้ม 9 คน ย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย


          ทั้ง 9 คนที่ว่านั้นประกอบด้วย 1.นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2.นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 3.นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ เขต 2 4.นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 5.ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. เขต 10 6.นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 7.นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 8.นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. เขต 23 และ 9.นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เลือดไหลจะยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่จะย้ายไปพรรคร่วมรัฐบาลพรรคการเมืองอีก


          การตกที่นั่งลำบากยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะพรรคอนาคตใหม่อาจถูกริบเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการสามัญคืนมาเป็นกองกลางสภาอีกครั้ง ภายหลังพรรคอนาคตใหม่มีแนวโน้มว่าจะมีส.ส.ลดลง จนกระทบสัดส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญของพรรค โดยเฉพาะตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการสิทธิมนุษยชน และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ส่วนประธานคณะกรรมาธิการคณะอื่นๆ ที่ยังมีส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทำหน้าที่ได้ต่อไปนั้นจะยังคงไว้ตามเดิม แต่ทั้งหมดต้องมารอดูว่าเมื่อสิ้นสุดกำหนดเวลา 60 วันในการย้ายพรรคตามรัฐธรรมนูญแล้ว พรรคอนาคตใหม่จะมีส.ส.เหลือกี่คน




          ขณะเดียวกัน ไฮไลท์การเมืองในสภาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีจำนวน 6 คนของฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญและเป็นครั้งแรกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างที่ทราบกันดีว่ารอบนี้รัฐบาลทำการบ้านรับมือฝ่ายค้านมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลยุทธ์ของ พล.อ.ประยุทธ์


          โดยไม้เด็ดของนายกฯ ที่เตรียมมาและได้ผลอย่างเห็นได้ชัดหนีไม่พ้นการพูดเท่าที่จำเป็น เพราะพูดชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านในภาพรวมเท่านั้น ส่วนในรายละเอียดจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแทน แม้ว่ารัฐมนตรีที่อภิปรายชี้แจงนั้นจะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็ตาม เรียกได้ว่าทำให้นายกฯ ไม่กลายเป็นหมู่บ้านกระสุนตกแต่เพียงผู้เดียว


          ขณะที่การทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แม้ด้านหนึ่งอาจจะมีหลายฝ่ายมองว่าเอาของเก่ามาปัดฝุ่นและพูดเรื่องเดิมๆ กลางสภา แต่มีหลายเรื่องที่ฝ่ายค้านนำมาเล่าใหม่พร้อมกับใส่รายละเอียดที่เพิ่งเกิดขึ้นในปัจจุบันเข้าไป ดังนั้น หากจะบอกว่าฝ่ายค้านอ่อนซ้อมหรือไม่มีข้อมูลกล่าวหารัฐบาลก็คงไม่ถูกเสียทีเดียว


          จากเรื่องการเมืองในสภาที่พาให้คนปวดหัวแล้ว โอกาสนี้ขอนำเสนอเรื่องราวดีๆ กันบ้าง ล่าสุด นายอนันต์ ผลอำนวย ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิธีเปิดห้องมุมนมแม่ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้าราชการ และบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องการพื้นที่เฉพาะในการให้นมบุตร ซึ่งห้องให้นมบุตรนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่ปรากฏภาพ น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลเมืองไทย ให้นมบุตรกลางห้องประชุมสภาเมื่อไม่นานมานี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ