คอลัมนิสต์

ตรวจสอบบริหารโปร่งใส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตรวจสอบบริหารโปร่งใส



          การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลถือเป็นระบบการตรวจสอบถ่วงดุลของฝ่ายนิติบัญญัติต่อฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลว่าการบริหารบ้านเมืองเป็นไปตรงตามที่แถลงไว้มากน้อยเพียงใด อีกทั้งเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารทั้งในแง่ผลประโยชน์ว่ามีการเอื้อกลุ่มพวกพ้องหรือไม่ และการใช้จ่ายงบประมาณโปร่งใสเพียงใด มีการคอร์รัปชั่นหรือไม่ ซึ่งฝั่งอภิปรายซักฟอกต้องทำการบ้านและเสาะหาข้อมูลที่เป็นหลักฐานมาประกอบการอภิปรายเพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงและน้ำหนักของข้อกล่าวหาซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเข้าข่ายเลื่อนลอยเป็นการใส่ร้ายป้ายสีให้เกิดความเสียหาย และยังมีผลสะท้อนไปถึงฝั่งอภิปรายให้ขาดความน่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากเฝ้าติดตามและรับรู้รับเห็นถึงพฤติกรรมของนักการเมืองที่ปรากฏในสภา

 

อ่านข่าว...  อภิปรายไม่ไว้วางใจ ลมพัดผ่านขุนเขา


 

 

 

          การอภิปรายครั้งนี้มีหลายเรื่องที่ทำให้เกิดคำถามของสังคมและเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องชี้แจงหรือตรวจสอบให้เกิดความกระจ่างชัดเจน อาทิ การกล่าวหาว่ารัฐบาลอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร(ไอโอ) หรือ Information Operation และอ้างหลักฐานว่าหน่วยงานมั่นคงเป็นหน่วยรับผิดชอบปฏิบัติการนี้ โดยมีกรุ๊ปไลน์ 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มผู้บังคับบัญชา กลุ่มที่สองเป็นไลน์ส่งมอบภารกิจให้แก่หน่วยปฏิบัติการ กลุ่มที่สามเป็นกลุ่มรายงานผลและชี้วัดภารกิจในแต่ละวัน โดยกล่าวหาว่ามีจุดประสงค์เพื่อสร้างความแตกแยกในสังคม รวมทั้งคุกคามฝ่ายตรงข้ามเพื่อแบ่งแยกประชาชนในการปกครอง อีกทั้งยังอ้างโยงหลักฐานงบประมาณหน่วยงานมั่นคงสนับสนุนเว็บไซต์ให้ลดความน่าเชื่อถือและป้ายสีกลุ่มองค์กรและบุคคลด้านสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้


          การอภิปรายประเด็นนี้สร้างแรงกระเพื่อมให้สังคมอย่างมากจนทำให้เกิดกระแสแสดงความคิดเห็นถึงประเด็น “ปฏิบัติการไอโอ” กันอย่างท่วมท้น ส่งผลให้แฮชแท็ก #รู้ทัน IO พุ่งขึ้นติดเทรนด์ยอดนิยมของประเทศ โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่มีนโยบายในเรื่องไอโอ พร้อมชี้แจงว่ามีการใส่ร้ายป้ายสีทางสื่อสังคมออนไลน์เต็มไปหมด แม้แต่ตัวเองก็โดนเช่นกัน และว่าจะต้องสืบหาข้อเท็จจริงเพราะเกิดความเสียหายต่อหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของการติดตามและตรวจพบการกระทำแบบนี้ ด่ากันไปมา ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีเลย ปลุกระดมคนให้มาทะเลาะกัน นอกจากนี้ยังระบุว่าจะตรวจสอบไปด้วยว่าบางพรรคการเมืองก็กระทำในลักษณะแบบนี้ด้วย จึงต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกันหมดและต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้นภาครัฐต้องไปสืบสวนเอาความจริงมาชี้แจงเพื่อตอบคำถามสังคม

 



          การอภิปรายซักฟอกจะว่าไปก็เป็นระบบกล่าวหาพร้อมนำหลักฐานมาแสดง และฝ่ายบริหารต้องเคลียร์ให้ได้ จึงถือเสมือนว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องชี้วัดความเชื่อมั่นของรัฐบาล หากทำให้สังคมขาดความน่าเชื่อถือย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพได้ ซึ่งในอดีตที่มีการซักฟอกก็ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองมาแล้ว หรืออย่างน้อยรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็สั่นสะเทือนความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งและถึงขั้นต้องลาออกก็มีแล้วเช่นกัน แม้ว่าจะมีหลายส่วนคาดการณ์ว่าที่สุดแล้วหลังอภิปรายทางฝ่ายรัฐบาลย่อมโหวตชนะ แต่ต้องไม่ลืมว่ามีผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พบว่าดัชนีชี้วัดสำคัญต่อฝ่ายบริหารนั้นส่วนใหญ่ให้ความคาดหวังในด้านการปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล ซึ่งหากขาดหรือบกพร่องสิ่งนี้ไปย่อมเป็นการยากที่จะได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากสังคมต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ