คอลัมนิสต์

ยุบ'อนาคตใหม่' คดีกู้เงิน 32 พรรคการเมือง หนาว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ในคดีกู้เงินและตัดสิทธิ์การเมือง กก.บห. ทำให้ 32 พรรคการเมืองที่ถูกร้องต่อ กกต.ในเรื่องเงินๆทองๆ หนาวๆร้อนๆไปตามกัน

     คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคมีกำหนดถึง 10 ปี อันมีที่มาจากพรรคอนาคตใหม่"กู้เงิน"จากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท

    โดยคำวินิจฉัยตอนหนึ่งระบุว่า "  การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองต้องอาศัยรายได้ของพรรคการเมืองซึ่งกฎหมายกำหนด แหล่งที่มาไว้ ดังนั้นเงินส่วนใดที่พรรคการเมืองนำมาใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองซึ่งมีได้มีแหล่งที่มาและวิธีการได้มาตามที่กฎหมายระบุไว้ ย่อมถือว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบ
   "  แม้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2560  มิได้บัญญัติห้ามการกู้ยืมสำหรับพรรคการเมืองไว้โดยชัดเจน แต่ก็ไม่ได้รับรองว่าให้กระทำได้ ประกอบกับพรรคการเมืองมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน และเงินกู้ยืมแม้มิได้เป็นรายได้แต่ก็เป็นรายรับและเป็นเงินทางการเมือง การดำเนินการเกี่ยวกับการได้มาและการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมืองจึงต้องกระทำภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น เมื่อพิจารณาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว การกู้ยืมเงินของพรรคการเมืองจึงต้องสอดคล้องและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง"
      จากข้อเท็จจริง พฤติการณ์และพยานหลักฐานดังกล่าว เห็นว่า การกู้ยืมเงินของผู้ถูกร้องมีเจตนาหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นตามมาตรา 66 ของ พรป.พรรคการเมือง เมื่อการรับบริจาคดังกล่าวต้องห้ามตามมาตรา 66 จึงเป็นการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นเหตุให้สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ผู้ถูกร้อง และกำหนดระยะเวลาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี  โดยกรรมการบริหารของพรรคที่ถูกยุบ จะจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่อีกไม่ได้ภายในเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค

    และด้วยเหตุที่"การกู้เงิน"ของพรรคการเมือง อาจนำไปสู่การที่พรรคการเมืองนั้นถูกยุบและตัดสิทธิ์การเมืองของกรรมการบริหารพรรคการเมืองได้    "32 พรรคการเมือง" ที่เคยถูกร้องต่อ กกต. เกี่ยวกับ"การกู้เงิน"  จึงหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามกัน 

    15 ม.ค.2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องให้ กกต. ตรวจสอบกรณี 32 พรรคการเมือง ปรากฏรายการกู้เงินในเอกสารงบการเงินของพรรคประจำปี 2561

      32 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรครวมพลังประชาชาติไทย, พรรคพลังท้องถิ่นไท, พรรคชาติพัฒนา, , พรรคเพื่อไทย, พรรคชาติไทยพัฒนา,พรรคภูมิใจไทย, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรครวมใจไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่, พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย, พรรคพลังไทยรักชาติ, พรรคเมืองไทยของเรา, พรรคเพื่อชีวิตใหม่, พรรคเงินเดือนประชาชน, พรรคไทรักธรรม, พรรคพลังประชาธิปไตย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคพลังไทยรักษาชาติ,  พรรคเพื่อสันติ, พรรคพลังประชาธิปไตย, พรรคพลังชล, พรรคพลังสหกรณ์, พรรคพลังคนกีฬา, พรรคเพื่อธรรม,พรรคอนาคตไทย, พรรคประชากรไทย, พรรคมหาชน ,พรรคความหวังใหม่ ,พรรคพลังศรัทธา, พรรคพลังชาติไทย, พรรคไทยธรรม

     ซึ่งขณะนี้เรื่องของ 32 พรรคการเมืองยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของ กกต. 

     แต่กรณีนี้อาจจะยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ เพราะถ้อยคำที่พรรคการเมืองใช้มีถ้อยคำที่แตกต่างกัน ทั้ง "เงินกู้" "เงินยืม" "เงินทดรองจ่าย" ซึ่ง กกต. หรือหากเรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องมีคำวินิจฉัยเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันว่า เงินยืม และเงินทดรองจ่าย ถือเป็นเงินตามมาตรา 62 ของพ.ร.ป.พรรคการเมืองหรือไม่ หรือเป็นเงินที่ไม่เป็นไปตามมาตรา 62 ในลักษณะเดียวกันกับเงินกู้  

   และพรรคการเมืองเหล่านี้ไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นเงินกู้ก่อนที่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้ เพราะข้อมูลการกู้เงินปรากฏอยู่ในเอกสารงบการเงินปี 2561

   ก่อนหน้านี้ประธาน กกต. เคยบอกว่า ขอรอดูคดีแรก คือคดีพรรคอนาคตใหม่กู้เงิน ก่อนว่าผลจะออกมาอย่างไร

    ตอนนี้ผลก็ออกมาแล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารของพรรคอนาคตใหม่

    จึงถึงเวลาที่ กกต. จะต้องเดินหน้า เรื่องนี้ได้แล้ว เพราะถ้ายังขืนชักช้า จะถูกมองได้ว่าเลือกปฏิบัติ

     อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศรีสุวรรณ มาตามนัด ร้องสอบ 32 พรรคกู้เงิน

   

   

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ