คอลัมนิสต์

ส.ว.เตรียมดูงานต่างประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ส.ว.เตรียมดูงานต่างประเทศ คอลัมน์...  เกาะขอบรั้วสภา 

 


          เรียกได้ว่าเป็นปัญหาโลกแตกไปแล้วสำหรับเรื่องการเดินทางไปดูงานต่างประเทศของบรรดาคณะกรรมาธิการสามัญของทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของวุฒิสภาที่มีข้อขัดแย้งกันภายในค่อนข้างแรงเพียงแต่ไม่มีใครแพร่งพรายออกมามากนัก

 

 

          เดิมทีคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) มีแนวความคิดว่าจะขอความร่วมมือจากคณะกรรมาธิการสามัญต่างๆ ให้งดการเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ประกอบกับหลายประเทศกำลังเผชิญโรคระบาดอย่างหนัก แต่ทันทีที่วิปวุฒิสภามีแนวคิดนี้ออกมา ปรากฏว่ามีเสียงโอดครวญจากส.ว.เกือบครึ่งสภาที่ไม่พอใจการขอความร่วมมือ


          เหตุผลหนึ่งที่อ้างขึ้นมาคือการอ้างว่าต้องการทำงานให้เกิดความต่อเนื่อง ประกอบกับมีการจัดสรรวงเงินงบประมาณกว่า 60 ล้านบาทลงมาแล้วจึงควรจะดำเนินการตามกรอบของงบประมาณ แต่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าคณะกรรมาธิการที่จะเดินทางไปต่างประเทศในเวลานี้นั้นควรเป็นเฉพาะคณะกรรมาธิการมีความจำเป็นอย่างยิ่ง กล่าวคือต้องเป็นไปตามพันธกิจที่รัฐสภาได้ลงนามความร่วมมือเอาไว้เท่านั้น ส่วนการดูงานทั่วไปที่เป็นไปตามอำนาหน้าที่ควรงดไว้ก่อน เพราะการใช้งบประมาณในส่วนนี้ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจย่อมส่งผลต่อความรู้สึกของประชาชน ถ้าจะศึกษาดูงานก็ขอเป็นการดำเนินการภายในประเทศแทน


          แม้จะมีเสียงฮึดฮัดและอาการหัวเสียของส.ว.บางกลุ่ม แต่เมื่อวิปวุฒิสภามีมติออกเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ เพื่อไม่ให้วุฒิสภาตกเป็นหมู่บ้านกระสุนตก โดยวิปวุฒิสภาได้ออกกฎเหล็กขึ้นมา 3 ข้อ 1.ต้องเป็นการเดินทางไปศึกษาดูงานอย่างแท้จริง 2.ต้องเดินทางไปด้วยความประหยัดเป็นการก่อให้เกิดประโยชน์ต่องานของวุฒิสภา และ 3.ห้ามเดินทางไปในลักษณะของการท่องเที่ยวอย่างเด็ดขาด

 



          ในอีกมุมหนึ่งของวุฒิสภาก็มีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ นายพีระศักดิ์ พอจิต ประธานกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม และกิจกรรมนันทนาการของวุฒิสภา นำคณะผู้เเทน ส.ว. เข้าพบผู้ว่าฯ นครราชสีมา เพื่อนำเงินจำนวน 1,000,000 บาท มอบให้เพื่อนำไปช่วยเหลือเหยื่อผู้ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา โดยนายพีระศักดิ์ ระบุว่าวุฒิสภาขอให้กำลังใจผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือเยียวยา และเงินจำนวน 1,000,000 บาท มาจากการร่วมสมทบทุนจาก ส.ว. 250 คน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบเหตุการณ์


          ข้ามฟากมาฝั่งสภาผู้แทนราษฎรกันบ้าง ถ้าไม่นับเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังวุ่นวายแล้วการตรวจสอบเรื่องการเสียบบัตรแทนกันของส.ส.ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ก็เป็นอีกเรื่องที่ชวนหัวไม่แพ้กัน เพราะแม้การทำงานตรวจสอบของคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรจะมีความคืบหน้าไปพอสมควร แต่ปลายทางแล้วสภาคงเอาผิดกันเองยาก โดยมีความเป็นไปได้น้อยที่จะส่งเรื่องมาให้ที่ประชุมสภาตัดสิน ดังนั้นความเป็นไปได้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นการส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป ซึ่งกว่าจะมีผลสรุปออกมาน่าจะอีกนานกันเลยทีเดียว


          ปิดด้วยภารกิจของ ‘ชวน หลีกภัย’ ประธานสภา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้ถอดสูทเพื่อสวมชุดออกกำลังกายไปร่วมงานเดิน–วิ่ง การกุศลไทยซิกข์ ครั้งที่ 26 เพื่อนำรายได้จากการแข่งขันทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ในโอกาสนี้ประธานสภาได้มอบถ้วยรางวัลให้ผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศการแข่งขันวิ่งการในประเภทระยะทาง 21 กิโลเมตรอีกด้วย


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ