คอลัมนิสต์

ปัดกวาดบ้าน-ปฏิรูปกองทัพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปัดกวาดบ้าน-ปฏิรูปกองทัพ บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวัน

 

 


          เหตุการณ์รุนแรงที่ จ.นครราชสีมา ได้ถูกหยิบยกมาเป็นโจทย์ในการแก้ปัญหาของหลายมิติทั้งการถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกในอนาคต รวมถึงการบริหารจัดการในภาวะวิกฤติซึ่งมีหลายองค์กรต่างขยับตัวเพื่อเรียนรู้และให้เกิดการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งการมีขั้นตอนปฏิบัติต่างๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนก ขณะเดียวกันจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทางกองทัพก็ได้เริ่มปัดกวาดบ้านตัวเองเช่นกันโดยเปิดช่องให้ทหารชั้นผู้น้อยสามารถร้องเรียนความไม่เป็นธรรมผ่านทางศูนย์ร้องเรียนที่จะขึ้นตรงไปถึงยังผู้บัญชาการ เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่ชอบธรรม การเอารัดเอาเปรียบและการข่มเหงที่ไม่มีจริยธรรม และยังนำเอาธุรกิจภายในค่ายเข้าสู่ระบบมอบให้กระทรวงการคลังดูแลจัดสรรในเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งเหล่าทัพยินยอมจนนับเป็นนิมิตที่ดี

 

 

          ในการทำงานของศูนย์ร้องเรียนได้วางหลักเกณฑ์ว่าเรื่องใดที่ถูกร้องเรียนเป็นจำนวนมากจะถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและหากตรวจพบว่ามีมูลความจริงก็จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมทั้งมีการย้ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกจากพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบกับการสอบสวน ซึ่งถ้าเรื่องใดที่ต้องใช้อำนาจในการสอบสวนและเกินอำนาจของกองทัพก็จะส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป ขณะที่การปรับเปลี่ยนในส่วนกองทัพยังมีการตั้งเป้าเลิกระบบเจ้าขุนมูลนายโดยเพิ่มการเอาใจใส่ทุกข์สุขของผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งต้องยอมรับเรื่องทั้งหมดที่จะทำนั้นเป็นเรื่องยากลำบาก แต่การเริ่มต้นเดินย่อมดีกว่าย่ำอยู่กับที่เดิมและปล่อยให้ปัญหาหมักหมมซุกใต้พรมจนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นขององค์กรทหารซึ่งถือเป็นองค์กรหลักสำคัญของประเทศ


          เสียงวิจารณ์กรณีทหารเกษียณแล้วอยู่ต่อไม่คืนบ้านพักหลวงเป็นเพียงปรากฏการณ์ของยอดภูเขาน้ำแข็งที่ใต้ภูเขาน้ำแข็งยังมีแหล่งผลประโยชน์ที่คนภายนอกมองไม่เห็นอีกมาก ซึ่งกองทัพไม่ควรเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไรด้านพาณิชย์แต่กลับมีธุรกิจมากมาย ทั้งที่ดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์ สนามม้า สนามกอล์ฟ สนามมวย รวมถึงธุรกิจที่ไม่สามารถแจกแจงที่มาที่ไปของรายได้ จนทำให้เกิดคำถามว่าผลประโยชน์เหล่านี้ได้ถูกบริหารจัดการอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างไรบ้าง และคำถามว่ามีผลประโยชน์ถูกนำส่งผู้บังคับบัญชาระดับใดบ้างด้วยหรือไม่ และยังลามไปถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสมาโดยตลอดด้วย ดังนั้นการที่กองทัพจะลบภาพแดนสนธยาดังที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์คงต้องไม่เพียงแค่ปัดกวาดบ้านตัวเองเท่านั้น แต่ต้องก้าวไปให้ถึง “ปฏิรูปกองทัพ” ตรวจสอบได้หมด



          ท่าทีในการปรับเปลี่ยนกองทัพครั้งนี้มีหลายกลุ่มในสังคมสนับสนุนให้กระทำเพื่อปฏิรูปไปสู่กองทัพสมัยใหม่และมีระบบธรรมาภิบาล มีบุคลากรที่มีความพร้อมที่จะเข้าไปทำหน้าที่เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม แต่การสะสางปัญหาที่มีลักษณะโยงใยเป็นเครือข่ายเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและมีหลากหลายมิติจึงเห็นว่าควรเปิดรับฟังและยอมรับให้ภาคสังคมเข้าไปมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูป รวมทั้งประเด็นสำคัญคือมีส่วนร่วมในการตรวจสอบความโปร่งใสในกองทัพ เพราะที่ผ่านมาการตรวจสอบในหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องโครงการอุทยานราชภักดิ์ โครงการเรือเหาะ หรือแม้แต่การเสียชีวิตของกำลังพลในค่ายที่เกิดจากการทำร้ายร่างกายก็ยังขาดการมีส่วนร่วมตรวจสอบและดูอึมครึมมาก ถ้าก้าวเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำได้จริงจะถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะสังคมส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนัก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ