คอลัมนิสต์

ให้เราจากกันด้วยดี  "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ให้เราจากกันด้วยดี  "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" คอลัมน์... Special  Weekend

 


          ถึงแม้จะไม่ได้มีชื่อเข้าไปเป็น ส.ส.พัทลุง ในสภา แต่ไม่ทำให้ชื่อ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ หายไปจากหน้าสื่อทางการเมือง โดยเฉพาะความคิดเห็นทางกฎหมายต่อสถานการณ์การเมืองในบริบทต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในผลการเลือกตั้ง เขต 2 พัทลุง เมื่อ 24 มีนาคม 2562 ไปจนถึงการเปิดประเด็น ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ในช่วงการโหวตร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้าน จนศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สภากลับไปลงมติในวาระ 2-3 อีกครั้ง

 

 

          แต่ใครจะเชื่อว่าในวันที่สถานะ ส.ส.หายไปในครั้งนี้ “นิพิฏฐ์” ได้ผันตัวไปประกอบอาชีพนักกฎหมายเป็นทนายความ นอกเหนือจากอาชีพนักการเมืองก็มีอาชีพทนายความที่เขาหลงใหลมากที่สุด โดยไปเปิดสำนักกฎหมายระหว่างประเทศกับลูกๆ ที่ จ.ภูเก็ต ชื่อว่า 4N International Law Office ซึ่งลูกความส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวฝรั่งเศส เพราะลูกสาวคนที่สองเรียนจบที่ฝรั่งเศสและแต่งงานกับคนฝรั่งเศส แต่ถ้าเป็นคดีของคนไทยจะทำด้วยตัวเอง ส่วนที่เป็นคดีของชาวต่างชาติจะช่วยดูข้อกฎหมายต่างๆ ซึ่งลูกๆ ได้มาขอคำปรึกษาตลอด


          “ความเป็นนักกฎหมายอยู่ที่ว่า เรารักและเอาใจใส่ในอาชีพนี้ขนาดไหน แต่ความยากอยู่ที่เราต้องอธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เพราะเป็นศิลปะ โดยนักการเมืองที่อธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้ดีที่สุด ถือว่าเป็นอาจารย์ผมเลยคือท่านชวน (หลีกภัย) และท่านไตรรงค์ (สุวรรณคีรี) ทั้งสองคนนี้เป็นปรมาจารย์”


          นอกจากนี้นักกฎหมายที่มีบทบาทเป็นนักการเมืองที่มีฝีมือ “นิพิฏฐ์” ยกให้นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.ยุติธรรม หรือนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ส่วนความหลงใหลในอาชีพ “นักกฎหมาย” นั้นอยู่ที่ความเป็นศิลปะ ใช้โวหาร ใช้สำนวน ถึงแม้เป็นข้อเท็จจริงเดียวกันแต่ต้องอธิบายให้เห็น ซึ่งอาชีพนี้ได้ทำให้ตัวเองช่วยเหลือสังคมมาตลอด แต่หากมองนักกฎหมาย หากเทียบกับอาชีพหมอยังถือว่าอาชีพนักกฎหมายด้อยกว่าอยู่ 1 เรื่อง คือกลุ่มแพทย์ต่างๆ จะมีชมรมเพื่อไปรักษาประชาชนที่ต่างจังหวัด เรียกว่าได้นายแพทย์ระดับมือ 1 ไปรักษาคนในชนบทได้เลย

 



          “แต่ทนายความมือ 1 รับคดีเป็นล้านเป็นร้อยล้านเคยไปนั่งคุยกับชาวบ้านเรื่องปัญหาที่ดิน เรื่องปัญหาป่าไม้บ้างหรือไม่ ก็ไม่มี ชาวบ้านไม่สามารถเข้าถึงนักกฎหมายที่มีฝีมือระดับต้นๆ ของประเทศไทยได้ แต่ถ้าเป็นคนในวงการแพทย์สำหรับชาวบ้านจะได้หมอดีมารักษาเลย ผมอยากอ้อนวอนเรียกร้องทนายความ ให้ร่วมกันจับมือกันเพื่อทำเป็นคลินิกกฎหมายก็ได้ ให้ประชาชนได้ประโยชน์ตรงนี้”


          ที่ผ่านมาเคยมีชาวบ้านมาหาเพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องกฎหมาย พร้อมถามว่าจะคิดเงินเท่าไร แต่ก็ตอบไปว่าพร้อมทำให้ฟรีเพื่อช่วยเหลือ ตอนนี้ก็ยังทำอยู่ แต่ถูกลูกๆ ที่ออฟฟิศ 4N International Law Office กลับมาตรวจสอบพ่อตัวเอง เพราะเป็นคนรับคดีช่วยเหลือชาวบ้านโดยไม่ผ่านออฟฟิศจำนวนมาก(หัวเราะ) เพราะลูกๆ อยากให้นำเข้าระบบของออฟฟิศที่ทำมากกว่า


          ส่วนเรื่องอนาคตทางการเมืองที่วางเป้าหมายไว้นั้น “นิพิฏฐ์” ยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้ร้องเรียนต่อ กกต.เรื่องการเลือกตั้งของนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พัทลุง หากภายในวันที่ 24 มีนาคม 2563 กกต.มีคำวินิจฉัยให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ตัวเองจะขอโอกาสอีกครั้งก่อนจะวางมือ การตัดสินใจครั้งนี้มาจากวิธีคิดของประชาชนเปลี่ยนไป บริบทการเมืองเปลี่ยนไป การจะวางมือเป็นเรื่องตัดสินใจแล้ว ถ้าเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะ ส.ส. ไม่ว่าจะสมัยนี้หรือสมัยหน้า ที่ผ่านมาได้แจ้งพรรคแล้ว แต่ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์เขาก็ไม่ยอม ส่วนบทบาทในพรรคก็ยังมีอยู่แต่จะค่อยๆ ลดบทบาทไป


          “ผมได้คุยกับผู้ใหญ่เรื่องการเสียบบัตรแทนกัน ผมบอกไปหากเป็นอุปสรรคในการร่วมรัฐบาล แล้วมีปัญหาว่าไปทะเลาะกับภูมิใจไทยหรือเปล่า ผมบอกว่าผมจะลาออกไปจากรองหัวหน้าภาคใต้ และกรรมการบริหารพรรคให้เลย เหลือเพียงสมาชิกพรรคอย่างเดียว เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคและไม่เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรค แต่เป็นเรื่องระหว่างผมกับคุณฉลอง ผมแสดงเจตนารมณ์จะลาออก ขอให้อย่านำเรื่องนี้ไปผูกแล้วมีปัญหากับรัฐบาล แต่หัวหน้าพรรคจุรินทร์ (ลักษณวิศิษฏ์) ท่านอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) หรือท่านบัญญัติ (บรรทัดฐาน) ทุกคนบอกว่ายังไม่ต้องทำขนาดนั้น ซึ่งเขาเข้าใจ บอกว่าอย่าเพิ่งลาออก”


          “นิพิฏฐ์” ยืนยันว่ามีความรักในอาชีพนักการเมืองอย่างมาก แต่หากประชาชนไม่ไว้วางใจก็พร้อมยอมรับ ไม่ว่าจากเหตุผลอะไรที่ไม่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. แต่ส่วนตัวแล้วอยากจะจากกับประชาชนชาวพัทลุงด้วยดี อยากจะขอโอกาสอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเหลือเวลาในสภาอีกกี่ปี ก็ขอให้เราจากกันด้วยดี เพราะที่ผ่านมาถือว่าได้เป็นรัฐมนตรีที่เป็นคนพัทลุงคนที่ 2 ตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา โดยคนแรกคือนายถัด พรหมมาณพ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก แต่หากจะนับรัฐมนตรีที่บริหารกระทรวง ถือว่าตัวเองเป็นคนแรก ในสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม


          “อยากบอกชาวบ้านว่า ถ้าผมไม่มีศักยภาพ ไม่มีความสามารถ ไปสู้ ส.ส.จังหวัดอื่นไม่ได้ เพราะขายหน้า ผมขออีกครั้งหนึ่งแล้วขอให้เราจากกันด้วยดี”
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ