เบื้องหลัง 'บิ๊กแดง' เบรคแตก 6 ท่าต้องห้าม

        ออกอาการปรี๊ดแตก สำหรับ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หลังมีการนำเสนอข่าว เป็นผู้ออกคำสั่งแจ้งไปยังผู้บังคับหน่วย ห้ามทหารทำกิริยา 6 ท่า ต้องห้าม ขณะสวมเครื่องแบบ ประกอบด้วย ท่า 1.กุมมือ 2.กอดอก 3.ล้วงกระเป๋า 4.เท้าสะเอว 5.ไขว้หลัง 6.ไขว่ห้าง 

     รวมถึงการติดเครื่องหมายแสดงความสามารถ ที่ต้องสำเร็จหลักสูตรจริง ไม่ใช่ซื้อมาติดเอง ตลอดจนถึง งดใส่แหวน สายสิญจน์หรือสร้อยข้อมือ ส่วนสร้อยคอ อนุญาตให้ใส่ได้แต่ต้องไม่สั้นให้เห็นบนเสื้อ เช่นเดียวกับนาฬิกา ห้ามใส่สีฉูดฉาดหรือเพื่อแสดงถึงฐานะ 

        ตามข้อเท็จจริงแล้ว 'กฎเหล็ก6ข้อ'ไม่ใช่ 'เฟคนิวส์' แล้วทำไม "บิ๊กแดง"ถึง 'ปรี๊ดแตก' ก็เพราะคำสั่งดังกล่าว ไม่ได้เพิ่งออกใหม่ แต่มีมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก่อนที่ "บิ๊กแดง"จะเข้ามารับตำแหน่ง ผบ.ทบ. และเป็นเรื่องภายในที่รับรู้กัน อีกทั้งภาพประกอบทหารทำกิริยา 6 ท่า ต้องห้าม ที่เผยแพร่กันในโซเชียลมีเดีย จากการตรวจสอบ ก็ไม่ใช่กำลังพลของกองทัพบก 

     เนื่องจาก 'กฎเหล็ก6ข้อ'ไม่เพียงแต่กำลังพลของกองทัพบกเท่านั้นที่ต้องปฏิบัติ แต่หมายรวมถึง กำลังพลของกองทัพเรือ ,กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ภาพประกอบดังกล่าวเป็นการถ่ายทำกันเองเป็นการภายในของหน่วยทหาร เหล่าหนึ่ง แต่วิธีการลงโทษต่อกำลังพลไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวจะแตกต่างกันไป 

     สำหรับกองทัพบก มี'ศูนย์ธำรงวินัย' ที่ "บิ๊กแดง"มีนโยบายให้จัดตั้งขึ้นในทุกมณฑลทหารบกทั่วประเทศ  ส่วนการลงโทษ ไม่ใช่การภาคฑัณต์  ทัณฑกรรม กักขัง จำขัง แล้วปล่อยไปเหมือนที่ผ่านมา แต่จะมีการฝึกทางร่างกายและจิตใจ  การฝึกความเข้มแข็ง การเดินเวร  และใช้เป็นมาตราฐานเดียวกัน ไม่ว่าผู้ละเมิดกฎระเบียบ จะเป็น พลทหาร นายสิบ จ่า นายพล หรือแม้แต่สูงกว่านั้น

     โดยเป้าหมายเพื่อให้กำลังพลที่ต้องเข้ารับการฝึกกลับไปทำหน้าที่ของตนเองภายใต้กรอบของระเบียบ วินัย ด้วยตระหนักในภาระหน้าที่ที่มีเกียรติ และภายใต้เครื่องแบบทหาร ที่สำคัญคือต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย และคำนึงเรื่อง "ความปลอดภัยในชีวิต"

     เช่นเดียวกับกรณี รถทหารสังกัดกองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ พุ่งชนรถที่กำลังติดไฟแดงรวมทั้งหมด 13 คัน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา โดยคนขับเป็นพลทหารและจากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 217 มก. ถูกส่งเข้า'ศูนย์ธำรงวินัย'

      สอดคล้องคำชี้แจง พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ออกมาปฏิเสธว่า "บิ๊กแดง"ไม่ได้ออกคำสั่งแจ้งไปยังผู้บังคับหน่วย ห้ามทหารทำกิริยา 6 ท่า ต้องห้าม ขณะสวมเครื่องแบบ รวมถึงการทำภาพประกอบ ซึ่งการปฏิบัติตน กองทัพบกมีกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการแต่งกายและการประพฤติปฏิบัติติตน ในระหว่างสวมใส่เครื่องแบบทหารในภาพรวมอยู่แล้ว

    แม้คำชี้แจงของ รองโฆษก ทบ. จะระบุว่ากฎระเบียบที่เกี่ยวกับการแต่งกายและการประพฤติปฏิบัติติตน ในระหว่างสวมใส่เครื่องแบบทหาร ไม่ได้มีคำสั่งเฉพาะเจาะจงในเรื่องใด แต่ได้ทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่ว่า 

   "การแต่งเครื่องแบบต้องเป็นไปตามระเบียบ แบบธรรมเนียม เหมาะสมกับสถานที่ราชการลักษณะท่าทางที่ไม่สุภาพ หรือการปฏิบัติผิดมารยาททางสังคมก็เป็นเรื่องที่ ทุกคนควรหลีกเลี่ยง"

     เพราะทุกครั้งที่ "บิ๊กแดง" ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ กองทัพภาคที่ 1,กองทัพภาคที่2,กองทัพภาคที่3 หรือ แม้แต่กองทัพภาคที่ 4  จะเน้นย้ำด้วยวาจาเรื่องรักษาระเบียบวินัย ที่มีเรื่องข้อห้ามทำกิริยา 6 ข้อกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อให้ไปกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด

   ทั้งนี้กำลังพลของกองทัพบก ตระหนักและเข้าใจในกฎระเบียบดังกล่าวดี และเริ่มปรับตัวตั้งแต่ห้วง 2-3 ปีที่แล้ว เพราะไม่เพียงกิริยา 6 ท่า ที่ไม่ควรปฏิบัติ แต่การสวมเครื่องแบบไปนั่งดื่มกาแฟแบบชิลล์ๆในร้านข้างนอก หรือ
ภาพถ่ายเซลฟี่ที่ลงในเฟซบุ๊ก ก็เป็นเรื่องต้องห้าม ตลอดจนถึง การติดเครื่องหมาย - บัตรประจำตัว -ประจำหน่วย ก็ต้องติดให้ถูกต้อง ถูกตำแหน่ง หรือใครที่มีภารกิจหน้าที่พิเศษ -สำคัญ ก็ไม่ควรไปออกรายการโทรทัศน์  

    ในห้วง 'กองทัพ'ตกเป็นเป้าหมายหลายมิติ ทั้งการเมือง ,สังคม การเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัย เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้ถูกโจมตี ตลอดจนรักษาภาพลักษณ์ความเป็น'ทหาร'ให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีกับประชาชน ถือเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติ แต่กฎระเบียบบางอย่างก็เป็นเรื่องภายใน ที่ "บิ๊กแดง"ไม่อยากให้ไปอยู่ใน'โซเชียลมีเดีย'ที่ไปไวยิ่งกว่าไฟลามทุ่งเช่นนี้

        อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: เฟคนิวส์! ทบ.ปฏิเสธข่าว ไม่ได้จัดทำภาพงดแสดง 6 ท่า