คอลัมนิสต์

สัญญาณจากอนามัยโลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สัญญาณจากอนามัยโลก บทบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันเสาร์ - วันอาทิตย์ ที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2563

 


          ในที่สุด ที่ประชุมองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็มีมติประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นภัยพิบัติฉุกเฉินระดับโลก หลังจากที่พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อมรณะชนิดนี้เพิ่มเป็น 170 รายในจีน และยังมีผู้ติดเชื้ออีกประมาณ 7,800 คนในจีนและ 18 ประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีน องค์การอนามัยโลกยังแสดงความกังวลกรณีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสเข้าไปยังประเทศที่ระบบสาธารณสุขอ่อนแอ ซึ่งขณะนี้หลายประเทศที่มีพรมแดนติดกับจีนได้ประกาศใช้มาตรการปิดพรมแดนและยกเลิกเที่ยวบินชั่วคราวแล้ว ขณะที่บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่มีสาขาย่อยในประเทศจีนก็ปิดให้บริการ

 

 

          การประกาศขององค์การอนามัยโลกครั้งนี้ เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังทุกประเทศทั่วโลก ให้เพิ่มความเข้มงวดกับมาตรการกักกันและควบคุมโรค และจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด ทั้งยังจะต้องแบ่งปันข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสมรณะนี้ด้วย ทั้งนี้สถานการณ์เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 พบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้นจาก 170 รายเป็น 213 ราย หรือเพิ่มในอัตรา 25% ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 9,096 ราย จากเดิม 7,000 กว่าคน ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีน ตัวเลขยังอยู่ที่ 98 คนใน 18 ประเทศ


          สำหรับประเทศไทย มีรายงานว่า ในวันที่ 31 มกราคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอให้พิจารณามาตรการยกเลิกวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง สำหรับนักท่องเที่ยวจีนชั่วคราว เพื่อสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า เพื่อดูแลสถานการณ์ให้ดีที่สุดและให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยให้น้อยที่สุด พร้อมกับจัดตั้งศูนย์เพื่อรับมือในทุกจังหวัด ขณะที่รัฐบาลก็ยืนยันว่าในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จะมีเที่ยวบินไปรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่น ขณะที่ทางการจีนก็จะจัดส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำมารับประชาชนชาวอู่ฮั่นกลับจากประเทศไทยด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ได้ออกมาตรการเยียวยา พยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หลังจากคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนหายไป 80%




          อย่างไรก็ตาม การดำเนินมาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับการอพยพคนไทยนั้น เป็นที่วิจารณ์กันอย่างหนักว่า ชักช้าเกินไปจนถูกนำไปเปรียบเทียบกับการปฏิบัติต่อบุคลากรของกองทัพที่ได้กลับมาก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แผนการรับมือของรัฐบาลไทยยังค่อนข้างล่าช้าไม่ทันการณ์ และไม่เป็นระบบระเบียบ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ก็มีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขนักท่องเที่ยวนับสิบล้านคนและรายได้ร่วมแสนล้านบาทที่จะต้องหายไปกรณีการระบาดกินเวลานาน สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องใคร่ครวญให้รอบคอบ เพราะถ้าหากเกิดการระบาดขึ้นในประเทศไทยแล้ว ความสูญเสียจะยิ่งใหญ่กว่ารายได้จากการท่องเที่ยวมากนัก สำคัญที่สุดก็คือ ระบบสาธารณสุขของไทยแข็งแรงเพียงพอหรือไม่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ