คดี สหพันธรัฐไท เหยื่อแดงลี้ภัย คอลัมน์... ชูธงทวนกระแส โดย... พรานข่าว
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีสหพันธรัฐไทคดีที่หนึ่ง มีจำเลย 5 คน (ไม่มาฟังคำพิพากษาคนหนึ่ง) ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานยุยงปลุกปั่นและเป็นอั้งยี่ ตามมาตรา 116 และ 209 ของประมวลกฎหมายอาญาจากการมีแนวคิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองไทยจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นระบอบสหพันธรัฐไทที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ผ่านโลกออนไลน์และการแจกจ่ายใบปลิว และเสื้อยืดสีดำพร้อมโลโก้ธงสีแดงขาวที่หน้าอกเสื้อ
ศาลลงโทษจำเลยที่หนึ่งและสี่ตามมาตรา 209 วรรคหนึ่งประกอบมาตรา 83 จำคุก 3 ปี จำเลยที่สองและสามให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงโทษจำคุกจำเลยที่สองและสาม 2 ปี
ปฏิกิริยาในกลุ่มคนเสื้อแดงและฝ่ายประชาธิปไตยจ๋า พากันตั้งคำถามว่า เหตุใดคนใส่เสื้อดำแจกสติกเกอร์สหพันธรัฐไทจึงเป็นผู้กระทำผิดร้ายแรง แต่ไม่มีใครไปค้นคว้าหาข้อมูลว่าองค์กรสหพันธรัฐไทมีตัวตนจริงหรือไม่?
คนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่เคยฟังรายการสหพันธรัฐไททางยูทูบช่องลุงสนามหลวง จึงไม่คิดว่าจะมีองค์กร “สหพันธรัฐไท” เกิดขึ้นจริง นักสิทธิมนุษยชนบางกลุ่มก็รู้ แต่ทำไขสือ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
นี่เป็นบทเรียนของนักเคลื่อนไหวมวลชนที่พยายามยกระดับตัวเองเป็น “นักปฏิวัติ” แต่ไร้ทิศไร้ทาง มีแต่อีโก้และความบ้าบิ่น จึงนำพาตัวเองและสมาชิกที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องติดคุกติดตะราง
หลายคนติดตามคอลัมน์นี้ คงทราบดีว่า “แดงฮาร์ดคอร์” ที่ประกาศ “ไม่เอาสถาบัน” ได้ไปหลบภัยอยู่ในสปป.ลาว ระหว่างปี 2558-2561
ปี 2559 “โกตี๋” วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ อดีตเจ้าของสถานีวิทยุเรดการ์ดเรดิโอ ที่ลี้ภัยอยู่ในลาว ได้จับมือ “ชูชีพ ชีวะสุทธิ์” ทำวิทยุใต้ดินผ่านยูทูบ โดย โกตี๋ ในนามแฝงว่า “สหายหมาน้อย” และชูชีพใช้ชื่อ “ลุงสนามหลวง” พวกเขาจัดรายการทอล์กการเมืองผ่านยูทูบ ส่งกระจายเสียงจากนครหลวงเวียงจันทน์ มีคนเสื้อแดงในไทยติดตามรับฟังกันเยอะพอควร
ต่อมากลุ่มโกตี๋-ชูชีพ ประกาศจัดตั้ง “สหพันธรัฐไท” เพื่อเป็นหัวหอกนำการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองในประเทศไทย พวกเขาฟุ้งฝอยทางช่องยูทูบทุกคืน จนชาวบ้านบางส่วนที่แอบรับฟัง ถึงกับเคลิ้มคล้อยตามไปด้วย
ปลายปี 2560 ลุงสนามหลวง หรือ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ พยายามปลุกระดมผ่านช่องยูทูบหรือวิทยุใต้ดินให้สมาชิกองค์กรสหพันธรัฐไทที่อยู่ในไทยออกมาป่วนงานพระราชพิธีสำคัญ
ขณะนั้น “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการยุยงให้ประชาชนออกไปเคลื่อนไหวป่วนงานพระราชพิธี เพราะคนทั่วไปที่มีสติย่อมรู้ว่าการพูดแบบชูชีพหรือลุงสนามหลวง เป็นการพูดแบบไม่รับผิดชอบ
ช่วงวันที่ 5 และ 10 ธันวาคม 2561 ลุงสนามหลวงปลุกให้สมาชิกสหพันธรัฐไท สวมเสื้อดำทำกิจกรรมตามจุดต่างๆ และมีคนกลุ่มหนึ่งออกมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์จริงแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวเข้าไปปรับทัศนคติภายในค่ายทหารประมาณ 5 คน
“สมศักดิ์” มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับการยุยงให้ประชาชนออกไปเคลื่อนไหวสวมเสื้อสหพันธรัฐไท ซึ่งเป็นการพูดแบบไม่รับผิดชอบ ลุงสนามหลวงก็พูดเองหลายครั้งว่า กลัวทำไมที่จะทำ โดนจับติดคุกก็ไม่เป็นไร?
สมศักดิ์ จึงถามลุงสนามหลวงกลับไปว่า “ถ้างั้นกลัวทำไมกับการกลับไปทำ แล้วโดนติดคุก? ลองถามตัวเองว่าบรรดาเหตุผลที่ชูชีพยกขึ้นมาอ้างให้คนอื่นทำน่ะ ทำไมใช้กับเขาไม่ได้?"
ลุงสนามหลวงหรือชูชีพ พร่ำบอกว่า “การปฏิวัติเป็นเรื่องของมวลชน ถ้ากล้าทำ ก็ต้องไม่กลัวติดคุก” น่าสงสารชาวบ้านที่ฟังลุงสนามหลวง แล้วพากันลุกขึ้นทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์จนกระทั่งถูกจับกุมคุมขัง
ทุกวันนี้ โกตี๋ ลุงสนามหลวง และพรรคพวก ไม่ได้อยู่ในสปป.ลาว และไม่มีการยืนยันว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่? สมาชิกสหพันธรัฐไท 5-6 คน ได้อพยพไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสแล้ว
ฝากถึงใครบางคนที่คิดจะปลุกระดมมวลชนล้มรัฐบาลในครั้งต่อไปได้โปรดคิดถึงชาวบ้านที่จะตกเป็นเหยื่อเกมอำนาจ เหมือนกรณีสมาชิกสหพันธรัฐไทด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง