คอลัมนิสต์

ปชป.แพแตก ...กอบกู้พรรคไหวหรือ ?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักการเมืองระดับคีย์แมน ลาออกจาก ปชป.ไปแล้วหลายคน ในสภาวะที่พรรคอยู่ในภาวะถดถอยอยู่แล้ว จึงเป็นโจทย์ท้าทายอย่างยิ่งในการกอบกู้ให้พรรคกลับคืนมาเหมือนเดิม

         เป็นสถานการณ์“อาฟเตอร์ช็อก” อีกระลอก สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ในยุคที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค เมื่อ “กรณ์ จาติกวณิช” อดีตรมว.คลัง และอดีตขุนพลเศรษฐกิจของพรรค  ประกาศลาออกจากพรรคเก่าแก่แห่งนี้ หลังจากเขาอยู่กับพรรคมานานถึง 15 ปี  

        ในช่วง 2 เดือนมานี้  นักการเมืองระดับเกรดเอ แถวหน้า ลาออกจากพรรคนี้ไปแล้วหลายคน

       ตั้งแต่  นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ลาออกเมื่อ 19 พ.ย.2562  

       ถัดมาเป็นคิวของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตรัฐมนตรี ลาออกเมื่อ 9 ธ.ค.2562 

       จนมาถึง “กรณ์” ลาออกเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2563 

      และรายล่าสุด   “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี”  อดีต ส.ส. กทม.ลาออกไปเมื่อ 16 ม.ค.2563

      แม้ว่า จุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ จะยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่มากว่า 70 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านสถานการณ์ที่มีทั้งคนเข้าและออกทุกยุคทุกสมัย มองว่าการลาออกและเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค เป็นเรื่องปกติที่มีทุกสมัย และเป็นธรรมชาติทางการเมือง

     พร้อมกันนั้น จุรินทร์ ยกตัวอย่างว่า เมื่อปีที่ผ่านมา มีคนลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 700 - 800 คน แต่มีคนสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค 14,000 คน

     และ มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรค ได้ทวีตรูปคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมข้อความ“ คนมาสมัครเข้าพรรคทุกวันเหมือนกัน”

     แต่‘สาทิตย์ วงศ์หนองเตย’ ส.ส. เก่าแก่ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  สะท้อนสภาพของพรรค ว่า

   "ขณะที่พรรคท่องว่า การเข้า ออก ของคนเป็นเรื่องปกติ  แต่คนระดับอดีต แกนนำพรรค เคยลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรค เคยทำงานให้พรรคด้านสร้างคนรุ่นใหม่ เคยเป็นถึงอดีต รม.ว คลังของพรรคลาออกจากพรรคขณะเป็น ส.ส. มันปรกติตรงไหน  ก่อนหน้านี้กรณีของคุณพีระพันธุ์ หรือ คุณหมอวรงค์ ที่ทั้ง  2 คน เคยทำงานให้พรรคอย่างมากมาตลอด ลาออก ผมว่า มันก็ไม่ปรกตินะครับ"  และ.. “ความจริงมีคนที่ลาออกจากพรรคเงียบๆแต่ไม่เป็นข่าวอีกหลายคน ผมว่ามันสะท้อนปัญหาการบริหารภายในพรรคแน่นอน แต่หากคนมีอำนาจยังคิดกันแค่ว่ามันเป็นเรื่องปกติ ต้องรับรู้ด้วยครับว่า สมาชิกและคนที่สนับสนุนพรรคหลายคน รู้สึกท้อถอย และสั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อการลาออกของคนระดับแกนนำพรรค”

      เพราะแม้ว่าจะมีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มเข้ามา จากการสรุปตัวเลขของ กกต.เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2562 ว่ามีจำนวนกว่า 129,392 คน แต่อีกด้านพรรคประชาธิปัตย์ต้องสูญเสียบุคลากรระดับ“คีย์แมน” ออกไป ทั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในช่วงที่ต้องได้รับการ รีโนเวต กอบกู้สถานการณ์จากการที่มี“ ส.ส. ต่ำร้อย” เหลือเพียง 53 เสียง จากการเลือกตั้งครั้งหลังสุด

    และหากย้อนไปดูผลการเลือกตั้ง ก็จะพบความถดถอยของพรรคประชาธิปัตย์ 

     ในการเลือกตั้งปี 2550  พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนเสียง 14.08 ล้านเสียง ได้ ส.ส. 165 ที่นั่ง จากทั้งหมด 480 ที่นั่ง คิดเป็นสัดส่วน 39.63 %

     ส่วนการเลือกตั้งปี 2554  พรรคประชาธิปัตย์  ได้คะแนนเสียง 11.43 ล้านเสียง  ได้ ส.ส. 159 ที่นั่ง จากทั้งหมด 500 ที่นั่ง คิดเป็นสัดส่วน 35.15%

     และการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ปี 62  พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนเสียง 3.94 ล้านเสียง ได้ ส.ส. 53 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่ง คิดเป็นสัดส่วน 11.11%

      จะเห็นได้ว่าตัวเลขทุกตัวลดลงหมดตามลำดับเวลา

     และเมื่อมาดูรายชื่อกรรมการบริหารพรรค ชุดปัจจุบัน จะฝากความหวังได้แค่ไหนว่าจะกอบกู้พรรคประชาธิปัตย์กลับคืนมาได้ จากที่เคยได้คะแนนเสียงในการเลือกตั้งหลักสิบล้านเสียงหล่นวูบลงมาเหลือเพียง 3 ล้านกว่าเสียง จะทำอย่างไรให้ได้คะแนนเสียงกลับมาหลักสิบล้านเสียงได้อีก ในสภาวะที่พรรคประชาธิปัตย์ กำลังเรือรั่ว แพแตก นักการเมืองระดับคีย์แมนของพรรคทยอยลาออก

    ช่างเป็นโจทย์ที่ท้าทายผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดปัจจุบันอย่างยิ่ง

      อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'กรณ์' กับ เส้นทางสายใหม่ที่ท้าทาย 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ