คอลัมนิสต์

หน้าที่โฆษกนั้นสำคัญฉะนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หน้าที่โฆษกนั้นสำคัญฉะนี้ ดงงูเห่า   โดย...  ประชาไท ธนณรงค์

 

 

 

          ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวกระหน่ำใส่ “ดร.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากทำงานไม่ทันโซเชียล


          งานที่รัฐบาลทำเยอะแยะ แต่ผลงานไม่ไปถึงพี่น้องประชาชน เลยมีเสียงบ่นตามมาว่าน่าจะเปลี่ยนตัวทีมโฆษกรัฐบาลดีไหม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็มาจบด้วยคำยืนยันของนายกฯ ว่าไม่เปลี่ยน

 

 

          ในอดีตตำแหน่งโฆษกรัฐบาลที่มีความสำคัญมาก นอกจากจะทำหน้าที่สื่อสารผลงานของรัฐบาลไปสู่ประชาชนแล้ว คนเป็นโฆษกรัฐบาลยังต้องทำหน้าที่ "ตอบโต้” ฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย ทั้งโต้ในนามของรัฐบาลและในนามของนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นหน้าที่ของโฆษกนอกจากจะจับประเด็นแม่น เก่ง และรอบรู้แล้ว ยังต้องมีไหวพริบทางการเมืองอีกด้วย


          ในอดีตโฆษกที่ถูกกล่าวขานถึงก็มี วีระ มุสิกพงศ์ หรือปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “วีระกานต์” เป็นโฆษกรัฐบาล สมัย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกฯ ใครก็ทราบดีว่าลีลาของวีระ นั้นไม่ธรรมดา 


          ส่วนอีกคนคือ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นโฆษกรัฐบาลยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ไตรรงค์ ทำหน้าที่ได้ดีจนได้ฉายาโฆษกสามสี ลีลาดีกว่า วีระ หลายช่วงตัว จนเป็นที่ฮือฮา ถึงลูกล่อลูกชน แล้วยังมีนายมีชัย วีระไวทยะ อีกคนที่เป็นโฆษกสมัย "ป๋าเปรม”


          ยุคน้าชาติ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ได้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นโฆษก ก็ถือเป็นคนที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจได้ดีเข้ากับยุค เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า


          แม้กระทั่ง วิษณุ เครืองาม ก็เคยเป็นโฆษกรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร ส่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโฆษกรัฐบาล ชวน หลีกภัย


          แต่ระยะหลังตำแหน่งนี้กลายเป็นตำแหน่ง "ปลอบใจ” สำหรับคนที่ไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้การคัดเลือกคนมาเป็นโฆษกรัฐบาลได้คนที่ไม่ค่อยจะถูกกับงานเท่าไหร่


          อย่าง ดร.แหม่ม ต้องยอมรับว่าการเป็นนักวิชาการกับการกรองประเด็นเพื่อนำเสนอข่าวสารทำความเข้าใจ สื่อสารจากตัวหนังสือไปยังประชาชน ยังถือว่าใหม่ เพราะการเก็บข้อมูล เตรียมประเด็น มันไม่มีหลักตายตัว ขึ้นกับไหวพริบของแต่ละคน




          เช่นประเด็นไหนต้องแถลง ประเด็นไหนไม่แถลง และการเป็นโฆษกรัฐบาล จะต้องมีทั้งบู๊และบุ๋น มีเทคนิคและชั้นเชิงทั้งในการแถลงของรัฐบาลและการตอบโต้ฝ่ายค้าน แต่สำหรับทีมโฆษกรัฐบาลชุดนี้ไม่มีแบบนั้น


          จะด้วยเพราะว่าไม่ชอบ ไม่อยากเป็นหรือไม่ไม่ทราบ แต่ยอมรับว่า ดร.แหม่มและคณะยังทำหน้าที่ได้ไม่เหมือนบรรดาโฆษกรัฐบาลตัวจี๊ดๆ ในอดีต


          เรื่องนี้นายกฯ ต้องชัดเจนว่าจะวางตำแหน่งของคณะโฆษกอย่างไร หากมองว่า โฆษกทำหน้าที่เฉพาะการแถลงผลงาน หรือ มติครม. ก็ต้องตีกรอบให้ชัด และให้ทำการบ้านให้ละเอียด ไม่ใช่มาแถลงเฉพาะหัวข้อแล้วรีบไปประชุมพรรค


          หากเห็นว่ากายภาพของ ดร.แหม่ม ไม่เหมาะกับการไปตอบโต้ฝ่ายค้านที่เล่นการเมืองแรงๆ ก็ต้องหาคนมาทำหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายค้าน ต้องแบ่งงานกันทำ


          อย่าง "แรมโบ้อีสาน” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำตัวนายกฯ ที่คอยตอบโต้ฝ่ายค้านแบบถึงพริกถึงขิงและเข้าเป้า เพราะต่างรู้สายสนกลในกันมาก่อน แต่ “แรมโบ้” ทำในนามผู้ช่วยรัฐมนตรี คือตำแหน่งไม่ตรงเสียทีเดียว


          หากนายกฯ จะแต่งตั้ง “แรมโบ้อีสาน” เป็นโฆษกส่วนตัวอีกตำแหน่งย่อมทำได้ เพราะยุคสมัย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ได้แต่ง เทพไท เสนพงศ์ เป็นโฆษกประจำตัวคอยตอบโต้ฝ่ายค้าน ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดี


          เพราะตำแหน่งโฆษกมีความสำคัญมากทั้งในการเมืองไทยและการเมืองระดับโลก


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ