คอลัมนิสต์

ปูพรมค้น 2 จว. 11 จุด แกะรอยโจรชิงทอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ค้น "ลพบุรี-สระบุรี" 11 จุด แกะรอยไล่ล่าโจรชิงทอง พ่อเหยื่อสาวจี้ ตร.วิสามัญ

 

               รอง ผบ.ตร. นำทีมออกปฏิบัติการเช้ามืด รวมนักสืบมือดี 100 นาย กระจายค้น 11 จุด “ลพบุรี-สระบุรี” แกะรอยล่าโจรชิงทองตามเส้นทางวงจรปิด ชี้คืบหน้าไปมาก ตีวงแคบขึ้นอีก พ่อแม่เหยื่อสาวพนักงานร้านทองติดตามคดี พอใจการทำงาน ลั่นอยากให้จับตาย

 

               ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญโจรอุกอาจชิงทองกลางห้างดังเมืองลพบุรี กราดยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายอายุเพียง 2 ขวบ ซึ่งเหตุการณ์ผ่านไปครบ 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเดินหน้าสืบสวนติดตามคนร้ายอย่างต่อเนื่อง และบอกว่ามีความคืบหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนจำกัดกลุ่มเป้าหมายผู้ต้องสงสัยก่อเหตุให้แคบลง โดยเฉพาะการแกะรอยผู้ที่สั่งซื้อท่อเก็บเสียงปืนมาในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล พร้อมแย้มว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้

 

                ล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 15 มกราคม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี (ผบก.ภ.จว.ลพบุรี) ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ภ.จว.ลพบุรี หน่วยปฏิบิติการพิเศษ หน่วยคอมมานโด และทีมสืบสวนนครบาล จัดกำลังชุดไล่ล่าแบ่งเป็นชุดๆ บุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 11 จุดในพื้นที่ จ.ลพบุรี และจ.สระบุรี

 

               สำหรับปฏิบัติการตรวจค้นในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ขยายผลในการติดตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี โดยเป้าหมายในการตรวจค้นเพื่อพิสูจน์ทราบในการหาตัวคนร้าย อาวุธปืน และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีแดงขาว ที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี

 

               หลังมีการสืบสวนสอบสวนมาตลอดหลายวันจนสามารถคัดกรองผู้ต้องสงสัยเหลือแค่ 3 ราย ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว โดยมี 3 จุดใหญ่ๆ ได้แก่ จุดที่ 1 วัดดงน้อย ใกล้เคียงกับห้างโรบินสันลพบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ต้องสงสัยชายคนหนึ่งที่เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ จุดที่ 2 อ.พัฒนานิคม เป็นจุดที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นลูกเจ้าของฟาร์มเลี้ยงวัว และจุดที่ 3 อ.ชัยบาดาล จุดที่พบมีการสั่งซื้อท่อเก็บเสียงปืน

 

               ทั้งนี้มีรายงานแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกระบอกเก็บเสียงที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่ากระบอกเก็บเสียงดังกล่าวไม่ได้ผลิตในต่างประเทศ แต่มีการสั่งทำพิเศษในประเทศไทย โดยสั่งทำในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

 

               ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการสั่งทำกระบอกเก็บเสียงหลายชิ้นแต่มีอยู่หนึ่งชิ้นที่ผู้สั่งทำอาศัยอยู่ใน จ.ลพบุรี ดังนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงโฟกัสลงไปที่ผู้สั่งซื้อรายนี้เป็นกรณีพิเศษ อย่างไรก็ตามสำหรับการบุกเข้าตรวจค้นในช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำอาวุธปืนจำนวนหนึ่งกลับมาตรวสจสอบด้วย

 

              ต่อมาเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.ณัฐพล เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาชุดทีมสืบสวนได้กระจายกำลังในการตรวจค้นจุดสำคัญมากกว่า 10 จุด ใน จ.ลพบุรี และสระบุรี การทำงานของตำรวจคืบหน้าไปพอสมควร สามารถจำกัดวงการสืบสวนได้แคบลงอีก ซึ่งยังมีข้อมูลหลายอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่พยายามเน้นพยานหลักฐานต่างๆ ให้รัดกุม

 

               ซึ่งการตรวจค้นเมื่อเช้าที่ผ่านมาหลายจุดมีทั้งการตรวจค้นผู้ครอบครองอาวุธปืนในรุ่นเดียวกับที่คนร้ายใช้แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นบุคคล 3 รายตามที่มีกระแสข่าวว่าเป็นลูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ กลุ่มผู้มีสี และพลเรือน ซึ่งหลักฐานต่างๆ ที่ได้มาจะต้องนำมาตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับคนร้ายอย่างไร

 

               “นอกจากนี้ประเด็นการตรวจค้นในค่ายทหารว่ามีข้อจำกัดระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงกลามโหม ยืนยันว่าที่ผ่านมาทหารได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดี ไม่มีความขัดแย้งกัน ส่วนประเด็นที่บอกคนร้ายเป็นนักแม่นปืนที่แชร์ในโซเชียลไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด

 

               ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานร่วมกันหลายกลุ่มจนมีความขัดแย้งกันภายใน ขอยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกัน มีการทำงานเป็นเอกภาพ และร่วมมือกันเป็นอย่างดี โดยมี พล.ต.อ.สุชาติ เป็นควบคุมการปฏิบัติทั้งหมด ที่ผ่านมาตำรวจดำเนินการทุกอย่างตามที่ได้รับมอบนโยบายเข้ามาโดยจะยึดความรัดกุมของดคีและดำเนินการโดยเร็ว" พล.ต.ต.ณัฐพล กล่าว

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อประมาณ 08.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผบ.ตร. ลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ จากนั้นเวลา 09.30 น. พนักงานร้านทองออโรร่า ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เข้ามาพบและเข้าร่วมการประชุมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

 

               จากนั้น พล.ต.ท.วิสนุ เปิดเผยว่า การร่วมประชุมครั้งนี้มีการแบ่งงานให้ทุกหน่วยไม่ว่าจะเป็นภูธรจังหวัดลพบุรี สืบภาค 1 สืบนครบาล และกองปราบปราม บูรณาการกันอย่างเต็มที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด โดยแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจน อาทิ ตามปืน เบาะแสของรถ กล้องวงจรปิด และเอาข้อมูลมารวมกัน

 

               ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการควบคุมตัวใคร แต่สิ่งที่อยากได้มากที่สุดคือให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสคนร้าย บุคคลนี้ต้องไม่มีที่ยืนในสังคม ต้องออกไปกินข้าวไม่ได้และไม่ให้ที่พัก ต้องช่วยกันสังเกตว่ามีใครที่พักแต่ไม่ออกไปไหน ผิดสังเกต ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

 

               วันเดียวกันที่ กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.สุรกิต ทองทิพย์ และนางพัชรา ทองทิพย์ พ่อเเม่ของน.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า หนึ่งในผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าพบตำรวจสืบสวนที่ทำคดีนี้ พร้อมเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาครอบครัวนำกระดูกลูกสาวทำพิธีลอยอังคารที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นจึงเดินทางมาที่นี่เพื่อมาสอบถามความคืบหน้าทางคดี

 

               โดยจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูลว่าคดีมีความคืบหน้าไปมากก็พอใจ เพราะเข้าใจการทำงานของตำรวจ เเต่สิ่งที่กังวลคือเรื่องข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏต่อสื่อว่าพบผู้ต้องสงสัยอยู่ตามที่ต่างๆ ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ก็อาจทำให้การสืบสวนไขว้เขวได้ เเละอาจส่งผลให้คดีล่าช้า

 

               พ.ต.สุรกิต กล่าวอีกว่า ต้องการให้ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย เพราะสิ่งที่ทำเลวร้ายมาก ไม่มีมนุษยธรรม คนที่ทำเเบบนี้ไม่น่าปล่อยไว้ให้เป็นกากเดนสังคม เเละผลจากการกระทำยังทำให้มีผลกระทบทั้ง 3 ครอบครัว อย่างครอบครัวของตนเอง หลานชายต้องขาดเเม่ ส่วนครอบครัวของ รปภ.ก็ต้องขาดหัวหน้าครอบครัว เเละน้องไทตัลก็ยังเป็นเด็ก ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ เเต่ต้องมาเสียชีวิต 

 

               ขณะที่นายชัยพงษ์ โพธิ์รัศมี ดงน้อย หรือ หมุย อายุ 37 ปี หลานชายนายกเทศมนตรีตำบลกกโก จ.ลพบุรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ หลังจากมีกระแสข่าวว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าว และมีบ้านอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ หลังจาก 2 วันที่ผ่านมา มีรถแปลกๆ วนเวียนอยู่ที่บ้านและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามชื่อจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ผ่านสื่อมวลชน

 

               อย่างไรก็ตามในวันเกิดก็ทำงานตามปกติ เลิกงานประมาณ 2 ทุ่ม โดยขับจักรยานยนต์กลับบ้านพัก ได้ยินเสียงรถไซเลนซึ่งขับผ่านร้านค้ามีกล้องจับภาพได้ ในคืนนั้นแฟนโทรมาบอกว่าเกิดเหตุการณ์ที่ห้างโรบินสัน แฟนจึงบอกให้โทรไปสอบถามแม่ที่ทำงานเป็นแม่บ้านเพราะความเป็นห่วง และขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และเพิ่งมาทราบว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัย สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้คือยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำแดง ไม่ใช่ยี่ห้อยามาฮาฟีโน่ รถของคนร้ายแต่อย่างใด

 

               นายชัยพงษ์ บอกอีกว่า อาจจะเป็นหุ่นที่ใกล้เคียง บ้านก็อยู่ละแวกนี้ และยืนยันว่าไม่เคยเป็นทหาร แต่เคยไปยิงปืนที่สนามยิงปืน ซึ่งไปยิงแค่ครั้งเดียว และตกใจเมื่อลุงที่เป็นนายกเทศมนตรีมาบอก พอทราบก็นอนไม่หลับ บริสุทธิ์ใจ ไม่รู้เรื่อง ไม่คิดจะเป็นเรื่องขนาดนี้ ที่ทำงานก็หยอกล้อกันเพราะตนเดินไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากใส่เหล็กมาได้ 2 ปี จากอุบัตุเหตุขี่รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ ส่วนพนักงานสาวที่เสียชีวิตก็ไม่รู้จัก แต่สังเกตระยะหลังมีรถคอยตามประกบและมีเจ้าหน้าที่ไปสอบถามข้อมูลจากลุงด้วย

 

               นายฐปนนท์ ปรีชาจารย์ อดีตนักเรียนนายสิบทหารบก เข้าแจ้งความต่อตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) หลังมีภาพตัวเองปรากฏในโลกโซเชียลมีเดียว่าเป็นคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง พร้อมกล่าวว่า เป็นเพียงอดีตนักเรียนนายสิบทหารบก ไม่ได้รับราชการ เนื่องจากลาออกก่อนเรียนจบ ส่วนในวันเกิดเหตุก็อยู่ในบริเวณห้างที่เกิดเหตุ เพราะไปทำธุระแถวนั้นพอดี แต่ก็ทำได้เพียงยืนดูเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่หลังแนวกั้นพื้นที่ อีกทั้งบ้านพักก็อยู่ห่างจากห้างที่เกิดเหตุเพียง 6 กิโลเมตร

 

               นายฐปนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวก็ยังงงๆ ว่านำรูปภาพของตนไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ได้อย่างไร ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย อีกทั้งรูปภาพเป็นข้อมูลจากทะเบียนราษฎรที่คนปกติไม่สามารถเข้าถึงได้ ต้องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น และไม่รู้เจตนาของคนที่นำรูปภาพไปโพสต์ แม้จะไม่ใช่เรื่องจริงแต่ก็ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

 

               ซึ่งวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองลพบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน วันนี้จึงมาแจ้งความกับบก.ปอท. เพื่อเอาผิดเพจที่โพสต์และแชร์รูปภาพของตนเอง โดยยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ให้เป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลของเพจที่มีการแชร์รูปภาพประมาณ 10 รายด้วยกัน

 

               ต่อมาเวลา 18.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองลพบุรี ซึ่งเป็นจุดบัญชาการในการไล่ล่าคนร้าย เพื่อร่วมประชุมวางแผนกับชุดสืบสวน

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เดินทางมาถึงก็รีบเข้าห้องประชุมทันที พร้อมถามหากระเป๋าปริศนาสีดำใบใหญ่ และพูดสั้นๆ “ไหนๆ เอากระเป๋ามา เดี๋ยวก็รู้” โดยสื่อมวลชนคาดการณ์กันว่า ในกระเป๋าใบใหญ่ จะเป็นหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ

 

               ขณะที่ความคืบหน้าในการไล่ล่าตัวคนร้าย วันนี้ตำรวจชุดสืบสวนเรียกผู้ที่ครอบครองอาวุธปืน 13 กระบอก ยี่ห้อเดียวกับที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุเข้ามาให้ข้อมูล แต่มีรายงานว่า ยังไม่พบว่ามีกระบอกใดตรงกับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ