คอลัมนิสต์

แตกเป็นเสี่ยง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แตกเป็นเสี่ยง


 

          ปัญหาในพรรคเพื่อไทย ไม่มีใครคิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้


          ความจริงความไม่เป็นเอกภาพเกิดขึ้นนับแต่ที่ ทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจเลือก สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ มาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว


          เนื่องจากเก้าอี้นี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จองแล้ว แต่ไม่ได้ จึงทำให้ผิดหวัง แม้จะมีการปลอบใจด้วยการยกตำแหน่งเลขาธิการพรรคให้คนใกล้ชิดอย่าง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แล้วก็ตาม แต่ไม่ใช่เป้าหมาย

 

 

          ต่อมาเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เสียงตามเป้า ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์จะต้องรับผิดชอบ นั่นหมายความว่า เป้าพุ่งไปที่ คุณหญิงหน่อย


          ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยังเคยพูดว่า ตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค เป็นตำแหน่งก่อนการเลือกตั้ง เมื่อหลังตั้งเสร็จก็ถือว่าจบ ตำแหน่งควรจะยุบไป แต่นี่เนื่องจาก คุณหญิงหน่อย ไม่ได้เป็น ส.ส. เลยยังคงตำแหน่งเอาไว้ให้มีที่อยู่ที่ยืน


          ปัญหาที่เกิดไม่เท่านั้น เพราะการเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคของ คุณหญิงหน่อย ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ให้คำปรึกษา แต่ยังเข้ามาล้วงลูกการบริหารจัดการภายในพรรคด้วย


          ยิ่ง น.อ.อนุดิษฐ์ เป็นเด็กก้นกุฏิ ด้วยแล้ว กิจการงานในพรรค คนเป็นเลขาธิการพรรค แทนที่จะรายงานตรงต่อ สมพงษ์ หัวหน้าพรรค แต่ น.อ.อนุดิษฐ์ กลับไปรายงานคุณหญิงหน่อย เลยทำให้การบริหารในพรรคซ้อนกันอยู่


          พูดง่ายๆ คือพรรคเพื่อไทย มีหัวหน้า 2 คนคือ สมพงษ์ เป็นหัวหน้าทางการ และ คุณหญิงหน่อย เป็นหัวหน้าโดยไม่เป็นทางการ


          สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ของทักษิณ คนแดนไกลตลอด แม้ไม่มีใครเดินทางไปเพ็ดทูล แต่ทักษิณ ก็มีสายที่จะรายงานสถานการณ์ในพรรคให้ได้รับทราบ


          การพ่ายแพ้ในสภาในการโหวตเลือกนายกฯ ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จึงเป็นอีก "ปม” ที่ทำให้คนแดนไกลไม่ค่อยแฮปปี้ เนื่องจากลงทุนลงแรงไปแล้ว ได้ ส.ส.ก็มากกว่าแต่ไม่สามารถจับพรรคการเมืองมาตั้งรัฐบาลได้


          เป้าหมายต่างๆ ของ ทักษิณ จึงเลือนราง เหล่านี้ทำให้หลายคนมองว่า ทักษิณไม่เอาแล้ว ทักษิณถอยแล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าก่อนเลือกตั้ง ทักษิณไม่ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร เหมือนกับผีหัวขาด พรรคไม่มีหัวหน้าที่ชัดเจน การเคลื่อนของพรรคจึงดูละล้าละลัง




          จนกระทั่งมีข่าวลือข่าวปล่อยออกมาว่า การที่ พานทองแท้ ชินวัตร รอดคดี "ฟอกเงิน” กรณีแบงก์กรุงไทยกับเครือกฤษดามหานครนั้น ทำให้ ทักษิณ เริ่มจะถอยออกจากการเมือง


          ประกอบกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อเรื่องถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ซึ่งเป็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของสองพี่น้องอย่างเห็นได้ชัด


          ขณะที่ในพรรคเพื่อไทย ถนนทุกสายมุ่งไปที่ นายหญิง เนื่องจากการติดต่อสื่อสารผ่านนายใหญ่จากดูไบ แม้จะชัดเจน แต่เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ต้องฟังสัญญาณจากนายหญิงก่อนจึงจะถือว่าไฟนอล ไม่งั้นไม่ตลอด


          เช่นกันกับบทบาทของคุณหญิงหน่อย ที่นายหญิงไม่ปลื้มมาตั้งแต่มีกระแสการขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจากคนในบ้านจันทร์ส่องหล้ามองว่า หากคุณหญิงหน่อยเป็นหัวหน้า จะนำพรรคเพื่อไทยไปร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ


          เพราะคุณหญิงหน่อย ดีลกับ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรื่องนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ เพราะว่า บิ๊กป้อม ก็สนิทกับคุณหญิงพจมาน เหมือนกัน เข้าทำนองไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่


          ความขัดแย้งมาปะทุอีกครั้งเมื่อ ส.ส.อีสานกลุ่มหนึ่ง บินไปดูไบพบ ทักษิณ พร้อมกับข่าวขอให้เปลี่ยนประธานยุทธศาสตร์พรรคจากคุณหญิงหน่อย เป็น “สารวัตรเฉลิม”


          เดือดร้อนกันใหญ่ ถึงกับคุณหญิงหน่อยบินไปประกบ จนมีภาพข่าวเรื่องคุณหญิงหน่อยไปร้องห่มร้องไห้ ต่อหน้าทักษิณ ขณะที่ “สารวัตรเฉลิม” เดินทางไปพบทักษิณที่ฮ่องกง มีภาพชนไวน์เป็นคลิปออกมายืนยัน


          แล้วหิ้วตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการพิเศษของพรรคเพื่อไทย กลับมา แต่ สารวัตรเหลิมยืนยันว่า ไม่ได้ไปขอตำแหน่ง แต่ทักษิณยกให้เอง เพราะไม่เอาตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ไม่อยากขัดแย้งกับคุณหญิงหน่อย


          อย่างไรก็ตาม ข่าวการลาออกของคุณหญิงหน่อย ก็ดังขึ้นมา ท่ามกลางการเข้ามากุมสภาพพรรคของขั้ว “สารวัตรเหลิม” ที่มีการแถลงข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เล่นเอาฮือฮาเพราะว่า ลีลาของ "สารวัตรเหลิม” เป็นที่ถูกอกถูกใจนายใหญ่เหลือเกิน


          แล้วการเปิดชื่อ 5 รัฐมนตรีออกมาล้วนแต่เป็นรายชื่อที่ทักษิณเห็นด้วย เพราะต้องการแก้แค้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในหลายเรื่อง


          ด้วยเหตุนี้ ทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่นำโดย “สารวัตรเหลิม” จึงขึ้นหม้อยิ่งนัก นี่แหละที่ทำให้ภาพของคุณหญิงหน่อย ถูกด้อยค่าลง ทั้งๆ ที่ “สารวัตรเหลิม” ไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะว่าทักษิณไว้วางใจให้ “สารวัตรเหลิม” ทำงานนี้โดยเฉพาะ


          เอาง่ายๆ คือ เวลาที่ทีม "สารวัตรเหลิม” ประชุมเรื่องซักฟอก ทักษิณจะโทรทางไกลข้ามทวีปมาเลย บางครั้งอยู่บนเครื่องบินยังโทรศัพท์มาถามไถ่ว่าเป็นอย่างไร


          สถานการณ์แบบนี้ไม่น่าเป็นผลดีต่อคุณหญิงหน่อย แถมเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่น แพ้อีก เลยทำให้ คะแนนนิยมของคุณหญิงหน่อย ในมุมของทักษิณ ตกลงเรื่อยๆ


          เลยเปิดปฏิบัติการ "ปล่อยข่าว” ว่าลาออกทุกตำแหน่ง แล้วระดมคนมาแสดงความเห็นอกเห็นใจและให้กำลังใจกันยกใหญ่ เริ่มจากคนใกล้ตัว อย่าง ส.ส. และ ส.ก. ส.ข. ในสังกัดกทม.


          ต่อมาระดม ส.ส.ของพรรคมาเลี้ยงปีใหม่ เพื่อสร้างภาพว่ามีคนต้องการให้คุณหญิงหน่อย ยังอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อไป ถึงขนาดคุณหญิงหน่อยโทรศัพท์ไปเชิญ “สารวัตรเหลิม” มาด้วย แต่ "สารวัตรเหลิม” รู้ทัน ไม่มาเป็นฉากสร้างความชอบธรรมให้


          ว่ากันว่า “สารวัตรเหลิม” จะสร้างชื่อด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากอภิปรายดีมีข้อมูล สั่นสะเทือนรัฐบาลได้ นั่นหมายความว่า นายใหญ่จะเป็นคน "กดปุ่ม” เองว่า จะให้ใครเข้ามากุมสภาพในพรรคเพื่อไทย


          แน่นอนว่าคือ สารวัตรเหลิม ไม่ใช่ คุณหญิงหน่อยแน่นอน.
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ