คอลัมนิสต์

ลอกคราบ 'ปิยบุตร'จุดไฟ ชิง'อำนาจใหม่'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ 'ท่องยุทธภพ' โดย 'ขุนน้ำหมึก' จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 3 ม.ค.63

 

 

*********************************

 

เอาเข้าจริง อีเวนต์ “วิ่งไล่ลุง” (Run Against Dictatorship) ก็แค่เกมอุ่นเครื่อง ทดสอบพลังมวลชน ไม่ใช่เกมแตกหักเหมือนการจัดม็อบในอดีต ซึ่งในครั้งต่อๆ ไป อาจจะมีกิจกรรมรวมพลังทำนองนี้อีก แบบว่ารายเดือน รายสัปดาห์ 

 

สมกับปี 2563 จะเป็นปีแห่งการต่อสู้ของประชาชน โดย “ป๊อก ปิยบุตร แสงกนกกุล“ เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ประกาศชัด ”นี่คือ ห้วงเวลาประชาชนเป็นใหญ่นี่คือ โอกาสสำคัญในการเข้าช่วงชิง”

 

 

กรัมชี”สีส้ม

 

คนส่วนใหญ่อ่านแถลงการณ์ ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562 อาจสงสัยว่า “อันโตนิโอ กรัมชี” คือใคร? มีอิทธิพลต่อความคิดแกนนำพรรคอนาคตใหม่อย่างไร?

 

 

ลอกคราบ 'ปิยบุตร'จุดไฟ ชิง'อำนาจใหม่'

อนาคตใหม่ 2563

 

 

 

สภาวการณ์เช่นนี้ คล้ายคลึงกับที่อันโตนิโอ กรัมชี บอกไว้ว่า เมื่อสิ่งเก่ากำลังจะตายแต่ยังไม่ตาย ในขณะที่สิ่งใหม่จะเกิด ก็ยังเกิดไม่ได้ วิกฤติการณ์ย่อมปรากฏขึ้น..”

 

อันโตนีโอ กรัมชี ได้ชื่อว่าเป็นนักคิด นักทฤษฎี “มาร์กซิสต์บริสุทธิ์” ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เผยแพร่ลัทธิมาร์กซคนสำคัญในยุคศตวรรษที่ 20

 

ปิยบุตรให้สัมภาษณ์สื่อหลายหนว่า ตอนเริ่มก่อการตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้นำทฤษฎีการเมืองของอันโตนิโอ กรัมชี มาประยุกต์ใช้ ปิยบุตรจึงไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมมวลชนแบบ นปช. โดยเฉพาะเรื่องแก้ว 3 ประการคือ พรรค กองกำลังและแนวร่วม ของแกนนำแดงฮาร์ดคอร์

 

“วิธีคิดของกรัมชีมองว่าการยึดอำนาจรัฐด้วยกำลังทางกายภาพ เช่น กำลังทหาร มวลมหาประชาชน หรือที่เรียกว่า ‘สงครามขับเคลื่อนพื้นที่’ (War of Movement) แค่นั้น ไม่สำเร็จหรอก ถ้าคุณไม่ได้เปลี่ยนความคิดคน ดังนั้น กรัมชีจึงบอกว่าต้องทำงานผ่าน ‘สงครามทางความคิด’ (War of Position) ด้วย”

 

อาจารย์ป๊อกเปลือยความคิด ไม่มีกั๊กเรื่องกำลังทำงานเปลี่ยนชุดความคิดคนรุ่นใหม่ 

 

 

 

 

ไม่ซ้าย-ไม่มีสีเสื้อ

 

 

นักปฏิวัติเก่าที่เคยเป็นแกนนำเปิดโรงเรียน นปช.เสื้อแดงอย่าง เหวง โตจิราการ หรือธิดา ถาวรเศรษฐ์ อาจตกยุคไปเลย เมื่อสานุศิษย์กรัมชีเมืองไทย พยายามต่อสู้เพื่อแย่งชิงการครองใจในทางความคิด(hegemony) หรือเรียกว่า “สงครามจุดยืน” อย่างเข้มข้น

 

ป้าธิดา ลุงเหวง อาจคุ้นเคยกับความคิดประธานเหมา พร่ำบ่นแต่เรื่องการจัดตั้งมวลชน การต่อสู้ทางชนชั้น แยกมิตรแยกศัตรู เลยตามไม่ทัน “ธนาธร” และ “ปิยบุตร”

 

 

 

ลอกคราบ 'ปิยบุตร'จุดไฟ ชิง'อำนาจใหม่'

กรัมชี ศาสดา

 

 

 

อันโตนิโอ กรัมชี นักคิดชาวอิตาลี มีชีวิตอยู่ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 การปฏิวัติรัสเซียในปี ค.ศ. 1917 เป็นแรงบันดาลใจให้กรัมชีหันมาสนใจแนวคิดสังคมนิยม และเข้ากับพรรคฝ่ายซ้ายของอิตาลี ช่วงเวลาดังกล่าว พรรคฟาสซิสม์ของมุสโสลินีกำลังครองอำนาจ และปราบปรามพรรคฝ่ายซ้ายอย่างเข้มงวด กรัมชีจึงถูกจำคุกในปี ค.ศ. 1926 และเสียชีวิตในคุกเมื่อปี ค.ศ. 1937 ด้วยวัยเพียง 47 ปีเท่านั้น

 

มรดกความคิดของกรัมชี ได้ให้ความสำคัญกับคำว่า “กลุ่มพลังทางสังคม” ที่มาแทนคำว่า “ชนชั้น” ซึ่งเป็นแนวคิดดั้งเดิมของมาร์กซ์ ปิยบุตรได้อธิบายว่า

 

“เราไม่ได้แบ่งคนตามแนวดิ่งแยกเหลือง-แดงแบบเดิม แต่เราแบ่งตัดขวางตามแนวนอน โจทย์สำคัญของเราคือต้องการยุติการแบ่งขั้วแยกข้างเหลือง-แดงแบบเดิม..ตัวผมเชื่อว่า การเมืองคือการทำงานทางความคิด คือการหาพวกเพิ่ม ถ้าคุณขีดแบ่งเส้นแบบนี้ มันก็อยู่กันแค่นี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยิ้มสิ..”

 

ไม่แปลกหรอก ที่แกนนำ นปช. จะไม่นิยมชมชอบบรรดาหัวแถว “พลพรรคส้มหวาน” และมองว่า คนพวกนี้ไร้เดียงสาทางการเมือง

 

 

 

วายร้ายตัวใหม่?

 

 

เมื่อปลายปี “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ซีอีโอพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว อวยพรปีใหม่มวลมหาประชาชน และย้ำว่า เราทุกคนกำลังเผชิญปัญหาใหม่ของชาติที่เรียกว่า “ลัทธิชังชาติ” จึงเรียกร้องว่า “อย่าหยุดนิ่ง จนกลายเป็นว่า ยินยอมให้พวกชังชาติ มาทำร้ายประเทศของเรา”

 

 

ลอกคราบ 'ปิยบุตร'จุดไฟ ชิง'อำนาจใหม่'

หมอวรงค์ ต้านลัทธิชังชาติ

 

 

 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2562 ที่อาคารศูนย์ปฏิบัติการโรงแรม และการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดการอบรมหลักสูตรอุดมการณ์และการสื่อสารทางการเมือง สุเทพ เทือกสุบรรณ” ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้บรรยายตอนหนึ่งว่า ไม่เคยคิดจะกลับมาทำงานการเมืองเลย แต่เวลานี้มีความจำเป็น บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อยปลอดภัย

 

 

ลอกคราบ 'ปิยบุตร'จุดไฟ ชิง'อำนาจใหม่'

สุเทพ เทือกสุบรรณ

 

 

“วายร้ายตัวเก่าจบไปแล้ว มีวายร้ายตัวใหม่มาอีก ผมไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่มันน่ากลัวมาก กำแหงมาก มันแสดงท่าทีชัดเจนว่า ไม่เอาอะไรสักอย่าง ไม่เอาขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมอะไรทั้งนั้น และมีคนบ้าตามมันเยอะอีกต่างหาก น่ากลัวมาก"

 

วายร้ายตัวใหม่..มากับทฤษฎีใหม่ ที่ไม่เคยปรากฏในสังคมไทย น่ากลัวจริงหรือไม่? ต้องติดตามฉากต่อไป

 

 

*****************************

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ