รายงานพิเศษ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 28-29 ธันวาคม 62
***************************
ฉบับเสาร์สุดท้ายปลายปี จะไม่พูดถึงสองพ่อลูกในตำนานได้อย่างไร เพราะนับแต่กลางปีหมูที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเรื่องราวของสองคนใหญ่เมืองโอ่ง มาแรงแซงหน้าข่าวทั้งการเมือง บันเทิง และอาชญากรรมจริงๆ (ฮา)
เรากำลังพูดถึง ทวี ไกรคุปต์ ผู้พ่อ และปารีณา ไกรคุปต์ ผู้ลูก ที่เวลานี้ชาวเน็ตลงความเห็นว่าต่อไปนี้ “ดูนาง” ไม่ใช่ดูแต่แม่อย่างเดียวแล้ว ต้องดู “พ่อ” ด้วย
เพราะลีลาวีรกรรมของสองคนสองคม ต้องบอกว่าไม่มีใครยอมใคร ถึงไม่ตั้งใจก๊อป แต่มันเหมือนกันเองโดยธรรมชาติ
เพียงแต่ช่วงหลังข่าวคราวของสองพ่อลูกออกแนวไม่ถูกใจคนไทยเท่าไหร่ แถมล่าสุดผู้พ่อหลังมีเรื่องกับชาวบ้านและทีมกู้ภัยราชบุรี บ้านเกิด ถิ่นคะแนนเสียงของตนเอง ก็ยังไปมีเหตุรถชนกับชาวบ้านในกรุงเทพอีกหน
งานนี้เจ้าตัว บ่นว่า "ดวงตก" แต่น่าคิดมากกว่าว่า ยังไงเสียเรื่องการเมืองพ่อคงไม่ระคายเพราะวางมือไปนานนมแล้ว แต่สำหรับลูกสาว น่ากลัวจริงๆ ว่าจะส่งผลต่อเส้นทางการเมืองไม่น้อย เพราะงานเรื่องรุกป่าของตนเองก็ยังไม่เคลียร์
บางคนบอกไม่เป็นไรแค่ “อยู่เป็น” อยู่ถูกแบบที่เคยทำมาก็ใช้ได้แล้ว แต่หลายคนบอก ถ้าชาวบ้านไม่เอาด้วย...คะแนนเสียงติดลบวูบหายก็ช่วยไม่ได้นะเอ้า
วันนี้มาย้อนรอยวีรกรรมอยู่เป็น-อยู่ไม่เป็น รุ่นพ่อรุ่นลูกกันดูว่างานนี้ไหวมั้ย ไม่ต้องถึงคนไทย เอาแค่ชาวราชบุรีก็คงพอเดาออกแล้วว่าคุณจะได้ไปต่อหรือไม่
อยู่เป็นกับชาวบ้าน
เด็กยุคโซเชียลอาจเพิ่งมาได้ยินชื่อของ “ทวี ไกรคุปต์” เอาช่วงที่ข่าวแย่งไมค์อธิบดี มุมนี้ต้องเห็นใจเพราะอดีตส.ส.ราชบุรี อดีตรัฐมนตรีช่วยคมนาคมคนนี้ กำลังเดินหน้าเพื่อช่วยลูกสาวจากคดีรุกป่าสุดฤทธิ์ แต่คอการเมืองจะรู้ดีว่า ทวีมีวีรกรรมในเส้นทางการเมืองมามาย ร้อนแรง และสุดแซบ
ลองนึกดูว่าคนที่สามารถครองเก้าอี้ ส.ส.ราชบุรีมาได้ถึง 7 สมัย (2522-2539) ต้องเรียกว่าระดับลายคราม ทวี คนโพธาราม ถ้าไม่มีของดีก็คงมาไม่ถึงขนาดนี้
ไปทุกงานชาวบ้าน ภาพนี้ไปที่ บ้านทุ่งแฝก ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง จ.ราบบุรี
ปี 2522 หลังเมืองไทยผ่านหมอกควันปืนของ 6 ตุลาคม 2519 มาสู่ในการเลือกตั้งปี 2522 ทวีในวัย 38 ปีหลังทำงานมายาวนานในการเป็นเจ้าของโรงงานประกอบเสาเข็มที่ จ.นครปฐม ก็ตัดสินใจลงเลือกตั้งครั้งแรก
แถมยังทำสำเร็ตได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ราชบุรี เขต 1 สมัยแรก โดยไม่สังกัดพรรคการเมือง ทางหนึ่งเพราะได้พลังจากพี่ชายแท้ๆ “สวัสดิ์ จังพานิช” ผู้เคยเป็น ส.จ.ราชบุรี และนายกเทศมนตรีเมืองโพธาราม เป็นฐานเสียงให้
แต่อีกทางหนึ่งกับชาวบ้าน ทวีเองได้ชื่อว่าเป็นส.ส.ที่ลงพื้นที่ออกงานกับชาวบ้านหมดครบทุกงาน นี่คือการทำการเมืองสไตล์ไทยๆ ที่ต้องยอมรับว่าได้ผลทุกยุคสมัย
หันมาข้างผู้ลูก ปารีณา ไกรคุปต์ หลังกลับจากต่างประเทศดีกรีนักเรียนนอก แล้วมาตำแหน่งนางงามมิตรภาพบนเวทีนาวสาวไทย เธอก็อาศัยฐานเสียงของบิดาในการทำงานการเมือง
ปารีณาลงการเมืองครั้งแรกสังกัดพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นพรรคที่บิดาย้ายมาอยู่ตั้งแต่ปี 2544 แต่น่าแปลกที่กระแส “ทักษิณฟีเวอร์” ไม่ได้ช่วยให้ทวีชนะเลือกตั้ง กลับพ่ายให้ส.ส. หน้าใหม่จากประชาธิปัตย์
จนเมื่อลูกสาวมากู้หน้าให้ในการเลือกตั้งปี 2548 จากนั้น ส.ส.เอ๋ โพธาราม ก็รักษาเก้าอี้ส.ส.ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นยาวนาน ถึงจะน้อยครั้งกว่าพ่อ แต่ไม่เคยสอบตกเลย จาก 2548 มาสู่เลือกตั้งปี 2550, 2554 และ 2562 ส.ส.ราชบุรี ต้องมีชื่อของเธอ
และที่เด็ดไม่ต่างกันก็คือลีลาการทำงานกับชาวบ้าน ทำงานในไร่ ติดดินสุดๆ แถมปารีณาเองก็คือเจ้าของฉายาไปมันทุกงาน ไม่เชิญก็ไป แต่ผู้ลูกเด็ดกว่าตรงมีโซเชียลไว้ให้อัพเดทสถานภาพนี่แหละ ที่ทำให้ ส.ส.เอ๋ เข้าถึงชาวเน็ตมากขึ้น
รู้งานกับผู้นำ
ในงานการเมือง เรื่องชาวบ้านงานหลัก แต่เรื่องในพรรคก็งานใหญ่หลวง
ย้อนกลับไปยังรุ่นพ่อ ทวี ไกรคุปต์ หลังก้าวสู่การเมืองต้องบอกว่าเคยทำวีรกรรมแซบๆ ในหลายนายกฯ ด้วยกันทั้ง ป๋า, ชวน, แม้ว
สำหรับป๋าเปรมทวีนี่เองที่เป็นหนึ่งในหัวขบวนที่หนุนป๋าขึ้นเป็นนายกฯ ในปี 2523 โดยรวบรวม ส.ส.ไม่สังกัดพรรค 43 คน จับมือ พ.อ.พล เริงประเสริฐวิทย์ ตั้งพรรคสยามประชาธิปไตย
เสธ.พล เป็นหัวหน้า ทวีเป็นเลขาฯ พรรค แต่ใครก็รู้ว่าพรรคนี้นายทุนก็คือคนโพธารามนี่แหละ ภาคกิจพรรคคือสนับสนุน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โดยตอนนั้นเป็น ผบ.ทบ. ควบรัฐมนตรีว่ากลาโหม ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจนสำเร็จ
จนกระทั่งมาฮอตฮิตกับผลงานใช้ควักกระเป๋าออก “ไปรษณีย์บัตร” 5 แสนใบชวนคนไทยหนุนป๋าได้ต่ออายุราชการเป็นผบ.ทบ.ต่อไป แม้จะอายุเกิน 60 ปีแล้ว งานนี้ทวีได้เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ในรัฐบาลเปรม 2 มาครอง
อ่าน จอมยุทธ์ชื่อ "ทวี" ได้ดีเพราะปรษณียตร https://www.komchadluek.net/news/scoop/374001
แต่พอผ่านยุคป๋า 8 สมัยมา ทวีก็เรียกได้ว่าหอบผ้าย้ายมาจากหลายพรรค ทั้งพรรค ‘ประชาไทย’ ที่เขาก่อตั้งขึ้นมาเองก็ไม่รอด มาพรรคกิจสังคม พรรคความหวังใหม่ ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยคมนาคมพอสมน้ำสมเนื้อ
จนเมื่อย้ายมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ หลังพฤษภาทมิฬ ยุคนายหัวชวนนั่งนายกฯ ทวีก็ได้สร้างสีสันแสบๆ กับการไปมีปัญหากับคนใหญ่ สุเทพ เทือกสุบรรณ เกี่ยวกับโครงการหนึ่งจนถึงขั้นมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาท งานนี้นายหัวชวนและคนพรรคเก่าแก่รับไม่ได้ ส่งผลทวีต้องเก็บเสื้อผ้าออกมาตามสูตร
ลูกสาว และบิดา กับ อดีตนายกฯ
ช่วงนั้นประจวบกับที่พรรคใหม่อย่างไทยรักไทยกำลังเปิดตัวขอเป็นทางเลือกให้กับคนไทยพอดีในช่วงปี 2544 ทวีจึงย้ายมาสังกัดพรรคเสี่ยแม้ว เพียงแต่คราวนี้สอบตกไม่ได้ไปต่อในฐานะ ส.ส.คนเมืองโอ่งอีกแล้ว
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นทวีเองก็ยังคงทำผลงานดีถึงขนาดเคยอดข้าวประท้วงรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 หลังฝากฝังลูกสาวมาสานงานต่อในพรรคนี้สำเร็จในปี 2548
ทีนี้พอพูดถึงสาวเอ๋ เธอคนนี้ต้องบอกว่าแม้จะผ่านพรรคมาหลายพรรคเหมือนพ่อ คือ ไทยรักไทย ชาติไทย ชาติไทยพัฒนา มาสู่พลังประชารัฐ แต่เอ๋ก็ครองเก้าอี้ ส.ส.ราดรี มาตลอดเหมือนกัน
ถามว่างานอยู่เป็นของสาวเอ๋ในระดับนี้คืออะไร ภาพของการกอดนายกฯ ลุงตู่ เชิดชูลุงป้อม ก็ติดหูติดตาคนไทย อารมณ์ท่วงทำนองเดียวกับที่ครั้งหนึ่งผู้พ่อเคยเอ่ยปากยกย่องบูชาป๋าเปรม ยืนเคียงข้างเสี่ยแม้ว ไม่มีผิด
อยู่ยาก..ทำตัวเอง
แน่นอนลีลาของสาวเอ๋ในฐานะส.ส.ราชบุรี สมัยที่ 4 ในพรรครัฐบาล ก็ดูดีไม่น้อย บิดาอย่างทวี มีหรือจะไปลูบคางว่า ไม่เสียทีที่เป็นลูกสาวพ่อ
ที่สำคัญคนไทยหลายคนยังมองว่า 4 ทศวรรษทางการเมืองของทวีสะท้อนถึงความเก๋า เมื่อส่งต่อถึงรุ่นลูกความแข็งแกร่งก็ยังไม่มีถดถอย
แต่หนังยังไม่จบแค่ม้วนนี้ เพราะเอาเข้าจริงๆ การอยู่ยงคงที่ในเส้นทางการเมือง ยังไงเสียก็ต้องกลับไปที่ “ราก” คือมวลชน แล้วมวลชนเดี๋ยวนี้เขาเห็นพฤติกรรมท่านผู้นำของเขาได้ทั่วถึงหมดแค่ฝ่ามือ
วันนี้ไปๆ มาๆ เรื่องราวต่างๆ ได้ทำให้ “ภาพจำ” ของคนไกรคุปต์แบบที่กล่าวมาข้างต้นกำลังเปลี่ยนไปจากเดิม คือกำลังดิ่งลงเรื่อยๆ จากวีรกรรมที่เกิดจากพฤติกรรมและการกระทำของตนเองล้วนๆ บอกเลยน่าเสียดาย
โดยเฉพาะเรื่องใหญ่กับการถูกดำเนินคดีฟาร์มไก่รุกป่าที่กำลังร้อนที่ทำเอาสาวเอ๋ คะแนนตกฮวบ คนไทยก็ได้เห็นลีลาแปลกๆ ของสาวเอ๋หลายมุม ที่ “เป๋” ไปเยอะ
ทั้งการชิ่งสัมภาษณ์, เอ็มโอยูมโนเอง, การกลับรถเกยฟุตบาท การร้องเพลงปรับเนื้อเอง มาล่าสุดวันคริสต์มาสที่ผ่านมาเอ๋ยังเจอ “อรรถพล เจริญชันษา” อธิบดีกรมป่าไม้แจงยิบการรุกป่าสงวนของเอ๋ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ. เป็นประธานประชุม
วันนั้นเอ๋นั่งเงียบ ไม่หือไม่อือ ผิดฟอร์มสุดๆ ตรงข้ามกับผู้พ่อที่กำลังร้อนแรงแซงหน้าลูก
คือหลังจากพยายามช่วยลูกเรื่องที่ดินทุกวิถีทาง แย่งไมค์อธิบดีก็ทำมาแล้ว ตอนนี้ยังไปเป็นข่าวขับรถเฉี่ยวเด็กให้โลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมกันไปทั่ว
แถมยังตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นได้ช่วยเหลือทุกอย่างและไม่มีเจตนาหลบหนี แต่คลิปที่ปรากฏถูก “ตัดต่อ” คล้ายทำให้ตนเป็นคนไม่ดี
อ่าน https://www.komchadluek.net/news/local/406066
อาการปฏิเสธเสียงแข็งคล้ายๆ ตอนปฏิเสธไม่ได้เแย่งไมค์คนไทยยังพอเข้าใจ แต่การที่โบ้ยไปว่าคลิปโดนตัดต่อเป็นฝีมือของกู้ภัยของมูลนิธิกู้ภัยสว่างราชบุรีที่เข้ามาปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บในวันที่เกิดเหตุ ชาวเน็ตรับไม่ได้เท่าไหร่
แถม “มูลนิธิกู้ภัยสว่างราชบุรี” ชื่อก็บอกว่าราชบุรี ประจำในพื้นที่ อ.โพธาราม คนบ้านเดียวกันแท้ๆ
ตอนนี้บอกเลยวิกฤติศรัทธาคนบ้านไกรคุตป์ที่เกิดขึ้นกับคนไทยวงนอกน่าจะกำลังกระจายไปยังพื้นที่วงในพื้นที่แจ้งเกิดของสองพ่อลูก แบบที่ศัตรูทางการเมืองไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากปูเสื่อ และดีดพิณรอจังหวะเท่านั้น
************************************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง