ปีใหม่ 2563 คนการเมือง พักร้อน-ทำบุญ-พบประชาชน คอลัมน์... Special weekend
เทศกาล ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงช่วงเวลาที่คนไทยส่วนใหญ่รอคอยเท่านั้น เพราะแม้แต่นักการเมืองในสภาที่อภิปรายกันหน้าดำหน้าแดง ก็รอคอยเวลาที่จะได้พักกายและพักใจเหมือนกัน
ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่มีการเลือกตั้งตั้งแต่เมื่อกลางปี 2562 ปีแรกของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ทำงานกันอย่างเคร่งเครียด ทั้งการเสนอญัตติให้รัฐบาลมาชี้แจงเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน หรือการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานสภาในแง่ด้านการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ถึงข่าวที่ออกมาจะมีแต่เรื่องความขัดแย้งและการแสดงความคิดเห็นทะเลาะกันไปมาผ่านสื่อมวลชน แต่ด้านหนึ่ง ส.ส.ชุดนี้ก็มีความกลมเกลียวเป็นอย่างดี
เริ่มกันที่ 'ชวน หลีกภัย' ประธานสภา ซึ่งเป็น ส.ส.ที่พรรษาทางการเมืองสูงสุด โดยเป็น ส.ส.มายาวนานถึง 50 ปี ตั้งแต่ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเป็นครั้งที่สอง ต้องรับศึกและการวิวาทะกลางสภาทุกรอบด้าน จนเกิดเหตุการณ์องค์ประชุมสภาล่มถึงสองครั้ง ซึ่งสร้างรอยแผลให้แก่สภาในยุคนี้ เมื่อเทศกาลปีใหม่กำลังจะมาถึง ประธานสภาจึงเลือกที่จะกลับไปพักผ่อนที่จังหวัดตรังบ้านเกิดเหมือนที่เคยทำมาทุกปี ทั้งการทำบุญตักบาตรและปราศรัยพบกับประชาชน
"ในโอกาสวันปีใหม่ 2563 ขอให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับพรอันประเสริฐในปี 2563 ให้ทุกคนที่เป็นชาวพุทธเจริญด้วยจตุพิธพรชัย อายุ วรรณะ สุขะ พละ และขอให้พี่น้องที่นับถือศาสนาอื่นๆ มีความสุขความเจริญมีสุขภาพพลานามัยที่ดีตลอดไป" ประธานสภากล่าวอวยพรระหว่างร่วมงานสังสรรค์ปีใหม่กับสื่อมวลชนประจำรัฐสภา
ส่วน พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ไม่ได้มีภารกิจเดินทางไปไหนเป็นพิเศษ โดยเลือกพักกับครอบครัวเป็นการส่วนตัว เพื่อเตรียมกำลังกายและกำลังใจให้พร้อมกับภารกิจของวุฒิสภาข้างหน้าที่รออยู่อีกเพียบ ในโอกาสนี้ได้กล่าวอวยพรปีใหม่ให้แก่ประชาชนผ่านสื่อมวลชนว่า “ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านนับถือ ได้โปรดอำนวยพรให้ทุกคนทุกท่านและสื่อมวลชนมีความสุขความเจริญในหน้าที่การงาน มีพละกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง ปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคม และให้มีความสุขเจริญตลอดปีใหม่และตลอดไป ขอบคุณมากครับ”
วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือประธานวิปรัฐบาล เป็นอีกคนที่มีภารกิจในสภารัดตัวในฐานะเป็นผู้ประสานงานระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร เพื่อให้งานของแต่ละฝ่ายเดินหน้าทำงานอย่างเป็นรูปธรรม ทันทีที่พอจะมีเวลาว่างจากงานทางการเมืองในช่วงปีใหม่ ก็จะขอใช้โอกาสนี้พบกับประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อทำบุญร่วมกับประชาชนและสอบถามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อที่จะได้นำเสนอให้รัฐบาลและสภาแก้ไขปัญหาต่อไป
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย บอกว่า ปกติแล้วในช่วงเทศกาลปีใหม่ช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้ไปไหนเพราะทุกวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปีจะมีการนิมนต์พระสงฆ์และสามเณรจากวัดพระบาทน้ำพุ มาบิณฑบาตที่ถนนเลียบคลองสอง ความยาว 2 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มาตักบาตรในวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี จะนิมนต์พระสงฆ์ ประมาณ 100 รูปจากวัดต่างๆ มาบิณฑบาตที่บริเวณปากซอยรามอินทรา 109 ถนนพระยาสุเรนทร์ ให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญตัดบาตร ในวันขึ้นปีใหม่ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทำมานานหลายปีแล้ว แต่ในปีนี้ตั้งใจจะไปเที่ยวเขาค้อเป็นปีแรก โดยจะขับรถไป วางแผนไว้วางอาจจะเป็นหลังช่วงวันหยุดของเทศกาลปีใหม่เพื่อเลี่ยงรถติดต่างๆ
“อยากจะไปสัมผัสหิมะในช่วงเทศกาลปีใหม่สักครั้ง อยากจะพาครอบครัวไปเที่ยวเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 4 คืน เพราะว่ากำลังข้อมูลจากดูทัวร์ไฟไหม้ ซึ่งเป็นข้อมูลจากกลุ่มไลน์เที่ยวทั่วโลกที่ได้อยู่มานานแล้ว โดยในกลุ่มไลน์จะนำข้อมูลทัวร์ต่างๆ มาให้ดูทั่วโลก ตั้งแต่เกาหลีใต้ เนปาลและอีกหลายประเทศ จึงตั้งใจว่าอยากจะพาครอบครัวไปเที่ยวในช่วงเวลาก่อนที่สภาจะปิดวันที่ 8 มกราคม 2563” จิรายุ ทิ้งท้าย
ปิดท้ายด้วยรองโฆษกรัฐบาล รัชดา ธนาดิเรก เป็นอีกคนที่เลือกจะอยู่กทม. เพื่อหลีกหนีการจราจรติดขัดในเมืองท่องเที่ยวและจะขอใช้เวลาว่างในการจัดบ้านใหม่เพื่อรอรับสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตในอนาคต
“ปกติในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี ไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัดมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว เพราะมีคนเดินทางมากมาย จึงใช้เวลานี้อยู่ที่กรุงเทพฯ นั่งรถไฟฟ้าไปยังสถานที่ต่างๆ ไปสยาม หรือไปรับประทานอาหารที่ชื่นชอบ รวมถึงจะใช้เวลาช่วงปีใหม่จัดตู้เสื้อผ้า เรียกว่าจัดครั้งใหญ่ เพราะตัวเองเสื้อผ้ามีหลายชุด ก็นำชุดเหล่านี้มาแบ่งปันให้ผู้อื่นใส่ต่อ ซึ่งชุดส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ดีมาก เป็นสิ่งที่ทำมาเป็นประจำในการนำเสื้อผ้าหรือกระเป๋ามาให้เจ้าหน้าที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยบางส่วนนำไปประมูลเริ่มต้นราคา 10 บาท แต่ก็นำเงินที่ได้มาในจำนวนนี้กลับไปให้คนเหล่านี้เสมอ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลก็ตั้งใจไว้ว่า จะนำชุดผ้าไทยบางส่วนที่รู้สึกว่าสวมใส่แล้วไม่ค่อยเข้ากับตัวเองนำมาให้”
“เรียกได้ว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี เป็นการพักผ่อนจริงๆ แต่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจะไปแบบลุยๆ ไปตั้งแต่ช่วง 10 โมง จากนั้นช่วงบ่ายก็เดินทางกลับ แต่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจะเห็นการเติบโตของกรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าเราจะมีผังเมือง แต่ยังเป็นผังเมืองที่มาตามความเจริญ ไม่ใช่ผังเมืองนำความเจริญ ทำให้การจัดระบบคมนาคมยังไม่เชื่อมต่อสมบูรณ์ทั้งหมด จึงต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ รวมถึงอยากให้กรุงเทพฯ มีพื้นที่สันทนาการเพิ่มเติมเพื่อให้คนกรุงเทพฯ ไม่ไปแออัดเฉพาะที่ห้างสรรพสินค้าเท่านั้น” รองโฆษกรัฐบาลระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง