คอลัมนิสต์

ทอน หยั่งเสียง บิ๊กตู่ กางกฎหมาย    

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทอน หยั่งเสียง บิ๊กตู่ กางกฎหมาย     คอลัมน์...   ถอดรหัสลายพราง  โดย...  พลซุ่มยิง 

 



 

          หลังเปิดฟลอร์ด้วย ‘แฟลชม็อบ’ ที่สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ในหัวข้อ “เมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเอง” โดยใช้เวลาเพียงสั้นๆ ระดมมวลชนขย่มขวัญ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อประกาศให้รู้ว่าทันทีที่เปิดศักราชใหม่ปี 2563 การชุมนุมจะเกิดขึ้นแน่นอน

 

อ่านข่าว...  จุดอ่อน  บิ๊กตู่ สู่จุดจบ  ธนาธร

 

 

          ในห้วงนี้จึงได้เห็นแกนนำคนสำคัญพรรคอนาคตใหม่ ทั้ง ธนาธร และ ช่อ น.ส.พรรณิการ์ วานิช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรค นำทีม ส.ส. เล่นเกมดาวกระจายลงพื้นที่ต่างจังหวัด แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตระเวนพบปะมวลชนพร้อมๆ กับ ‘บริกรรมคาถา’ ต้องแก้รัฐธรรมนูญและยกเลิกเกณฑ์ทหาร เช็กขุมกำลังไว้แต่เนิ่นๆ


          หวังดึงพลังคนไม่เอารัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่เอาเกณฑ์ทหาร ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และนายกรัฐมนตรีในอนาคตที่ ‘ช่อ’ บอกรู้แล้วให้เหยียบไว้ที่อุตรดิตถ์ เขาเตรียม “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไว้รับไม้ต่อจาก ‘บิ๊กตู่’ ให้มารวมตัวกันเมืองหลวงกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด


          ประจวบเหมาะกับกิจกรรม ‘วิ่งไล่ลุง’ ของนายธนวัฒน์ วงค์ไชย พร้อมเครือข่าย ได้วางแผนงานไว้ในวันที่ 12 มกราคม 2563 มีจุดสตาร์ทเวลา 05.30 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผ่านถนนพระอาทิตย์ ป้อมพระสุเมรุ ป้อมมหากาฬ ถนนนครสวรรค์ ถนนพะเนียง ถนนหลานหลวง สะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ ปชต. ก่อนจะวกกลับมาที่เดิม


          ทั้งนี้การจัดกิจกรรม ‘วิ่งไล่ลุง’ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตามสัญญาที่เคยหาเสียงไว้ เช่น ขึ้นค่าแรง การปรับเงินเดือนขั้นต่ำของผู้จบปริญญาตรี ราคาสินค้าเกษตรภายในเวลา 3 เดือน และแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามประชาธิปไตย เพื่อปลดล็อกสิทธิเสรีภาพให้แก่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี ซึ่งหากไม่ได้รับการตอบสนองเตรียมจะยกระดับ

 



          คาดว่าสองเหตุการณ์จะเกิดขึ้นพร้อมกันในปีหน้านี้ คนร่วมกิจกรรมมากน้อยเพียงใด กระแสจุดติดหรือไม่ ยังคาดเดากันไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปัจจัยและเงื่อนไข แต่ในส่วนรัฐบาลภายใต้การนำ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ที่กำกับดูแลทั้งกองทัพและตำรวจ เตรียมพร้อมบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในมือทุกรูปแบบ หวังดูแลสถานการณ์ไม่ให้ซ้ำรอยเหมือนในอดีต


          เริ่มกันที่ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 ถือเป็นกฎหมายที่ถูกผลักดันยุค คสช. โดยถอดบทเรียนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หรือคนเสื้อเหลือง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดง และคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัติย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. มากำหนดเป็นหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการใช้เสรีภาพการชุมนุมสาธารณะที่ประชาชนต้องปฏิบัติตาม รวมถึงกำหนดโทษทางอาญาไว้สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน 


          นั่นหมายความว่าการชุมนุมในที่สาธารณะ มีกฎเกณฑ์ต้องคำนึงถึง ไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้อีกต่อไป เช่น การจัดการชุมนุมต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง โดยระบุวัตถุประสงค์ วันที่ ระยะเวลา สถานที่ จำนวนผู้เข้าร่วม การขอใช้เครื่องขยายเสียงที่ต้องระบุกำลังขยายและระดับเสียงที่จะใช้ให้ชัดเจน


          อีกทั้ง การจัดการชุมนุมต้องไม่ขัดต่อเงื่อนไขเรื่องการห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากพระบรมมหาราชวัง พื้นที่ของรัฐสภา ทําเนียบรัฐบาล และศาล รวมถึงกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานที่อย่างหน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา หรือสถานทูต หรือไม่


          เฉพาะ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ “บิ๊กตู่” เชื่อมั่นว่าจะสามารถดูแลสารพัดม็อบที่ประเดประดังเข้ามาพร้อมกันในปีหน้านี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่หากจับพลัดจับผลูสถานการณ์บานปลายด้วยสาเหตุใดก็ตามจนเหนือการควบคุม ก็ยังมี พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎอัยการศึก เป็นเครื่องมือสำคัญในการพิจารณาประกาศใช้ไปตามความรุนแรงของสถานการณ์


           

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ