คอลัมนิสต์

วุฒิสภา ไม่ขวางแก้รธน. แต่ต้องมีเหตุผลรองรับ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วุฒิสภา ไม่ขวางแก้รธน. แต่ต้องมีเหตุผลรองรับ คอลัมน์... Excusive talk เนชั่นสุดสัปดาห์

 

 


          การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นเพียงขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็เริ่มมีความร้อนแรงให้เห็นเป็นระยะ โดยเฉพาะวุฒิสภา ภายหลังตกเป็นเป้าหมายโจมตีของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากถูกมองว่าเป็นตอขวางไม่ให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

 

          จากประเด็นที่เกิดขึ้นจึงเป็นที่น่าสนใจว่าที่สุดแล้ววุฒิสภามองถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้เป็นโอกาสดีที่จะลองมาดูมุมมองของ ส.ว.กันดูบ้าง ผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษ ‘วันชัย สอนศิริ’ ส.ว.และเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา)


          วันชัย เสนอความคิดว่า “ผมคิดว่ารัฐธรรมนูญเพิ่งมีผลใช้บังคับและเป็นรูปธรรมจริงๆ ตั้งแต่การเลือกตั้งการมีรัฐบาล ตลอดจนมี ส.ส.และสว. รวมแล้วยังไม่ถึง 6 เดือนเลย ส่วนตัวผมจึงมองว่ามันไม่มีเหตุผลใดๆเลยที่จะต้องรีบตื่นตระหนกตกใจมาแก้ไขรัฐธรรมนูญกัน”


          “ถามว่ามันมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนไหม ก็ยังไม่มี มีผลกระทบต่อการเมือง มองก็ยังไม่มี มีผลกระทบต่อความมั่นคงใดๆ ไหม ก็ยังไม่มี และมันเป็นการเรียกร้องของภาคประชาชนปลุกขึ้นมาถึงขนาดว่าเป็นจำนวนมากมายอะไรหรือไม่ ผมก็มองว่ายังไม่ได้มีอะไรเลย ดังนั้น มันจึงยังไม่มีเหตุผลใดๆ ผมว่าถ้าใช้ไปสักประมาณหนึ่งปี เอออันนี้น่าคิดว่าอะไรเป็นอุปสรรค อะไรเป็นปัญหา แล้วค่อยนำมาสู่การแก้ไข เพราะฉะนั้น เรื่องอื่นๆ จำเป็นเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปกครอง การเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นเรื่องด่วนมากกว่า มันไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องรีบทำถึงขนาดนี้”


          “ถ้าจะให้มองต่อไปก็มองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาให้เป็นการประนีประนอมระหว่างเลือกตั้งกับฝ่ายความมั่นคง ซึ่งผ่านจากการรัฐประหารหมาดๆ มาทำงานร่วมกัน แล้วนี่เพิ่งจะทำงานกันได้ 5-6 เดือนเองก็ยังไม่เกิดอะไรเลย ผมมองดูก็ เอ๊ะ มันยังไม่ถึงขนาดวิกฤติในชั้นรัฐบาลเลย มันจึงไม่มีเหตุผล รวมทั้งผมกลับมองว่าถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีส.ว. 250 คน การเมืองจะวิกฤติมากกว่านี้ เพราะเลือกตั้งเสร็จเสียงก้ำกึ่งกันจะกลายเป็นการแย่งอำนาจมากขึ้น รัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพมากขึ้น จะเกิดการแก่งแย่งอำนาจจนกระทั่งเป็นอุปสรรคและมีผลกระทบต่อประชาชน เหตุผลตรงนี้ผมจึงมองดูว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยแท้ ทำให้เกิดเสถียรภาพทางการเมืองในระยะนี้ได้”




          ทั้งนี้ ตามแนวคิดของ อ.วันชัย เสนอว่าถึงที่สุดแล้วไม่ว่าอย่างไรการแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ควรให้การบังคับใช้รัฐธรรมนูญผ่านไป 1 ปีก่อนนับตั้งแต่มีการเลือกตั้ง


          “1 ปีในที่นี้ก็นับตั้งแต่ที่มีการเลือกตั้ง เพราะนับตั้งแต่การเลือกตั้งเราก็รู้แล้วว่ารัฐธรรมนูญเริ่มใช้จริงๆ จังๆ มีรัฐบาลจริง มีการตรวจสอบรัฐบาลจริง มีการดำเนินการในสภาจริง รวมทั้งการบริหารราชการแผ่นดินอันเกิดจากผลบังคับใช้ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมว่า 1 ปี มันก็จะพอรู้ว่าอะไรมันเป็นอุปสรรคเป็นปัญหา ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะนี้มันเกิดจากอารมณ์ เกิดจากความชอบไม่ชอบเท่านั้นเอง กลายเป็นเรื่องเป็นราว จริงๆ มันไม่ใช่เป็นเหตุผลที่แท้จริง แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า”


          สำหรับประเด็นที่คิดว่าน่าจะมีการแก้ไขนั้นควรจะต้องพิจารณาศึกษาใน 2 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การทุจริตเลือกตั้ง 2.การกลั่นกรองบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง


          “ผมว่าน่าจะต้องดูว่า 1.การเลือกตั้งที่ผ่านมาตลอดจนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรมมันใช้ได้หรือไม่ได้ตรงไหน 2.กระบวนการกลั่นกรองบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ รวมทั้งการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลและข้าราชการประจำ สามารถป้องกันการทุจริตได้จริงหรือไม่”


          “เรื่องเหล่านี้มันต้องดูและใช้ไปสักระยะหนึ่งก่อน เหมือนกับการแต่งงาน ไม่ใช่แต่งงานกันไปสองสามเดือนแล้วหม้อข้าวยังไม่ทันดำเลยเลิกกันแล้ว มันควรจะต้องอยู่กินจนกระทั่งเข้าอกเข้าใจกันสักระยะหนึ่งก่อนแล้วในที่สุดบอกว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว อย่างนี้มันค่อยนำมาสู่การพิจารณากัน บางคนตอนยังไม่ได้แต่งงานกัน เราก็ไม่ได้รู้นิสัยใจคอที่แท้จริง มันปิดบังซ่อนเร้นไว้ แต่เวลาแต่งงานไปอยู่กันแล้ว ก็จะเห็นนิสัยแท้จริง เพราะฉะนั้นบางทีหกเจ็ดเดือนก็ยังปิดอยู่ จนกระทั่ง 1 ปีเริ่มออกลาย เหมือนกันผมว่ารัฐธรรมนูญ ขณะนี้ผมยังไม่เห็นมีลายอะไรเลยที่จะออกมา”


          ขณะที่ ข้อกล่าวหาเรื่องส.ว.กังวลเรื่องเสียประโยชน์ ถึงไม่ยอมให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เลขานุการวิปวุฒิสภา ยืนยันว่า “ส่วนตัวผมถ้ามันจำเป็นต้องแก้ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ อะไรที่เป็นข้อบกพร่องและเป็นอุปสรรคของประเทศ ผมว่าหลายคนก็ต้องคิดเหมือนกัน ไม่มีใครคิดเอาตัวเองเป็นตัวตั้งหรอก พวกเราไม่น่าจะเป็นอุปสรรคปัญหาของประเทศ แต่ต้องให้มันเห็นปัญหากันจริงๆ ขณะนี้เราถือว่าเป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของพรรคฝ่ายค้านเท่านั้นเอง พรรคฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดเห็นด้วยหรือเปล่าว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วคนส่วนใหญ่ นักวิชาการเห็นด้วยทั้งหมดหรือยังว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ”


          “ส.ว.ผมยืนยันเลยถ้ากระแสสังคม เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมว่าไม่สามารถจะยืนทนโท่ทนต่อกระแสให้ชาวบ้านเขาด่าอยู่ได้หรอก แล้วเราออกแบบกันมาอย่างนี้ ออกแบบมาเพื่อความมั่นคงของประเทศ แต่พบว่ามีที่ไม่ดี คุณจะปล่อยอยู่อย่างนี้โดยเอาตัวคุณเป็นตัวตั้ง ผมว่าส.ว.ที่คิดอย่างนั้นมันก็เห็นแก่ตัวเกินไป ส.ว.แบบนี้ก็ไม่ควรจะมี ส.ว.ต้องนึกถึงประเทศชาติ”


          “เรื่องหวงอำนาจ แต่ละคนก็แก่ๆ กันทั้งนั้น คุณจะหวงอำนาจหาอะไรแค่ 4-5 ปี อย่างผมไม่ได้เป็น ผมก็ไม่ได้ตายอะไร ถ้ากลไกเขากำหนดว่าเลือกตั้งผมก็ไปเลือกตั้ง กำหนดให้ไปสรรหาผมก็ไปสรรหา ถ้ามีสภาเดียวผมก็ไปสมัครส.ส. ดังนั้น ถ้าใครยังยึดติดว่าตัวเองต้องได้เป็นและต้องมีอำนาจอยู่ ผมว่าเห็นแก่ตัว และคนแบบนี้ไม่น่าจะเป็นส.ว.หรอก ส.ว.มันต้องนึกถึงคนอื่นและประเทศเป็นสำคัญ” วันชัยสรุป
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ